ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลัง น้ำตาล น.ส.ชลิตา ส่วนเสน่ห์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016 กลับถึงประเทศไทยเมื่อวานนี้ ได้เดินสายออกรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 โดยเล่าถึงบรรยากาศการประกวดในรายการว่า คนฟิลิปปินส์รู้จักเราเยอะค่ะ เพราะเวลาไปไหนคนฟิลิปปินส์จะเรียกตลอดว่า “ชาร์ลิ่งๆ” ซึ่งการประกวดครั้งนี้ ทุกอย่างต้องแข่งกับเวลา ทุกชุดที่ประกวดตาลก็ได้เลือกเอง ส่วนการแต่งหน้าก็แต่งเองด้วยด้วยค่ะ
ก่อนขึ้นเวทีการประกวดตื่นเต้นมาก ตาลทั้งกรี๊ดทั้งเต้นก่อนขึ้นเวที โดยช่วงที่ตื่นเต้นที่สุดคือ ตอนประกาศ 3 คนสุดท้าย ซึ่งไม่มีไทยแลนด์ เป็นความรู้สึกที่เสียดาย ตาลทำเต็มที่มากๆ ไม่มีวันไหนที่ตาลท้อ ไม่มีวันไหนที่ตาลเหนื่อย ตอนที่ประกาศแล้วไม่มีชื่อของเรา ความรู้สึกตอนนั้นไม่รู้ว่าจะเดินไปทางไหน พอลงจากเวทีก็ร้องโฮออกมาทันที
น้ำตาล เล่าถึงเพื่อนสนิทที่เป็นสาวงามจากโคลอมเบีย ว่า จำได้ว่าตอนเจอกันครั้งแรกก็ทักทายกันและคุยกันว่าเราหน้าเหมือนกัน กระทั้งวันหนึ่งที่เราทำผมมัดจุดทรงเดียวกันด้วย จากนั้นก็ทำให้เราสนิทกันมากขึ้นค่ะ
สำหรับการประกวดระดับโลกแบบนี้ “น้ำตาล” บอกว่า ตาลต้องควบคุนตนเองให้มาก แตกต่างจากการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ซึ่งตาลได้ฟิตตัวเองทั้งการเดินทุกวัน และเข้ายิมเพื่อฟิตหุ่นทุกวัน เรียกว่าตาลได้ทำอย่างเต็มที่ เพื่อพัฒนาตัวเอง อย่างเรื่องการเดินตาลต้องเดินเพื่อให้เรามีเอกลักษณ์และเหมาะสมกับชุดที่สวมใส่ในวันนั้น เพื่อให้ออกมาโดดเด่นและสวยงาม
หลังจากเมื่อวานมีสื่อมวลชนและแฟนนางงามไปรอต้อนรับกลับจำนวนมาก “น้ำตาล” บอกว่า มีคนไปรับเยอะมาก รู้สึกตื้นตันใจมาก ไม่คิดว่าจะมีคนมาเชียร์เราเยอะขนาดนี้ มีคนโหวตให้เราเยอะมาก ไม่คิดว่าจะมีใครมาโหวตให้เรามากมายขนาดนี้ ขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันเชียร์ช่วยกันโหวตแบบไม่ได้หลับไม่ได้นอน ขอบคุณที่เป็นกำลังใจทำให้ตาลมีแรงผลักดัน ทุกคนคือกำลังใจของตาล เมื่อตาลหันไปเห็นตาลรู้สึกภาคภูมิใจที่มีคนให้กำลังใจตาลมากขนาดนี้ เมื่อถามถึง “น้ำตาล” ได้พูดว่าอยากกินส้มตำ โดยเช้าวันนี้ น้ำตาล บอกด้วยว่า จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้กินส้มตำเลย ส่วนเมนูที่อยากกินคือ “ตำซั่วค่ะ”
น้ำตาลเล่าชีวิตตั้งแต่เกิดว่า ได้เกิดที่จ.นนทบุรี จากนั้นคุณแม่ได้ย้ายไปอยู่ที่สมุทรปราการ โดยคุณพ่อเป็นคน จ.ยโสธร ส่วนตาลเองได้เรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยที่ จ.มหาสารคาม มีความฝันอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ สำหรับนิสัยตอนเด็กก็ดื้อเป็นธรรมดาของเด็กทั่วไปค่ะ ส่วนความฝันที่จะเป็นนางงามนั้น น้ำตาลเผยว่า ตอนเด็กๆ ฝันว่าอยากจะเป็นนางงาม แต่ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่างทางด้านครอบครัว จึงไม่คิดว่าตนเองจะมายืนอยู่ตรงนี้ได้ โดยตาลมีคุณแม่ นางชุติกาญจน์ ส่วนเสน่ห์ ซึ่งเป็นกำลังใจสำคัญของตาล ตาลต้องขอขอบคุณแม่ ที่เลี้ยงตาลมาตั้งแต่เกิด ทำให้ตาลได้รับประสบการณ์ต่างๆ ทำให้ตาลได้รับรู้ ตาลได้เห็นคุณค่า และตาลจะนำมาใช้ในชีวิตประจำวันอย่างถูกต้อง
น้ำตาลได้พูดถึงการทำงานด้านบันเทิงด้วยว่า “ถ้ามีโอกาสก็อยากจะทำในหลายๆ ด้านค่ะ” ก่อนจะปิดท้ายด้วยคำถามที่ว่า มีแฟนหรือไม่ น้ำตาลยิ้มหวานก่อนจะตอบว่า “ยังไม่มีค่ะ”
