เคยนึกสงสัย คุณลูกค้าเค้ารู้ตัวกันมาเลยใช่ไหมว่าอยากทำอะไร เพราะเจอหมอปั๊บก็บอกทันทีเลยว่า

“คุณหมอขา หนูจะมาทำจมูก แล้วที่นี่รับทำคางไหมคะ” น้อยคนมากที่มาพบหมอแล้วถามว่า

“หมอคะดูหน้าหนูหน่อยว่าทำอะไรดี หรือหนูมีงบอยู่เท่านี้ ให้หมอเลือกทำให้หนูหนึ่งอย่างได้ไหมคะ ที่หมอคิดว่าเหมาะกับหนูแล้วทำให้หนูสวยขึ้น”

คือบางอย่างหมอก็ไม่รู้หรอกนะว่า หนูๆรู้กันได้ยังไงว่าจะต้องทำ มีครั้งหนึ่ง หมอเคยเปิดกูเกิลดูรูปก่อนและหลังการทำคาง บางคนหน้าตาดีขึ้นมากจริงๆ (ว่าแต่รู้กันได้ไง ว่าคางตัวเองไม่สวย) หรือมันมีมาตรฐานความสวยของอวัยวะบนหน้าเราอยู่เหรอ?

“ทำไมต้องศัลยกรรม” จากเคสที่หมอพบบ่อยๆ จะมีอยู่ 2 แบบ แต่อาจมีคาบเกี่ยวกันบ้างนิดหน่อย แต่ก็จะแบ่งให้เห็นภาพ

แบบแรก มีปัญหาประมาณเป็นความเจ็บป่วย หรือเป็นโรค เช่น สิว ฝ้า กระ ริ้วร้อยก่อนวัยอันควรทำให้ใบหน้าไม่สวยไม่เด็ก ไม่เด้ง อ้วน อันนี้หมอก็รักษาตามแต่ละปัญหา

แบบที่2 คือชั้นอยากหล่อ อยากสวยกว่านี้ ประมาณว่า เป็นผู้หญิงอย่าหยุดสวย มาตรฐานความงามมันก็ไม่มีบอกนะว่าแบบไหนถึงเรียกว่าสวย มันมีหลายปัจจัย ต่างชาติพันธุ์ ต่างความเชื่อ ต่างวัย ต่างยุคต่างสมัย ก็ต่างความชอบ เรามองว่าสวยแต่อีกคนบอกขี้เหร่ ไม่ชอบก็มีเยอะ  มันต้องมานั่งจับเข่าคุยกันว่าเค้าต้องการอะไร จะเพิ่มจะลดเสริมเติมแต่งตรงไหน ถึงจะสวย ถึงจะตรงใจ หมอก็ต้องมาหาจุดตรงกลาง ว่าที่เค้าต้องการมันทำได้หรือเปล่า ต้นทุนเดิมเป็นอย่างไร ตามแต่ทำบุญกันมา ใครทำบุญมาดี ทำนิดๆหน่อยๆก็สวยแล้ว กลายเป็นหมอโครตเทพ เวลาคุยหมอก็ต้องดูอารมณ์ว่าจะพูดตรงๆหรือรักษาน้ำใจกัน เอ่อที่เราอยากได้ หน้าเดิมเรามันไม่เอื้อนะแต่หมอก็พยายามอย่างเต็มที่ให้เราสวยขึ้น แต่อาจไม่ได้อย่างที่เราคาดไว้ ถ้ารับได้ก็ทำ ถ้ารับไม่ได้ก็อย่าทำเลยดีกว่า บางทีก็ต้องพูดแบบเผื่อๆ เซฟตัวเองฝุดๆ  ลดความคาดหวัง ลดดีกรีความอยากสวยแบบอีชั้นจะเข้าวงการ ถ้าทำออกมาสวยกว่าที่พูดก็รอดตัว ถ้าได้ตามที่พูดก็เท่าทุน ไม่เจ็บตัวไม่โดนด่า ไม่มานอยส์กัน  ไอ้แบบที่พกรูปดารา เกาหลี ไทย ฝรั่งมาก็เยอะ เอามากันแต่ละรูป นางฟ้าชัดๆ (เอ๊ะ แล้วหมอรู้ได้ยังไง ว่านางฟ้าสวย) แต่ก็มีบางหมอนะที่ข้าเก่ง ต้องตามใจข้า ไม่ต้องมาคิดแทนข้า เด๋วข้าจัดให้ ถ้าไม่สวยให้เตะเลย (พูดเองเออเอง แต่มันประมาณนั้นจริงๆ) คือถ้าเอาตามที่คนไข้ขอแล้วออกมาไม่สวย ไม่รับแก้ ถ้าจะแก้ก็ต้องจ่ายใหม่ เอากันงี้เลย หมอมีองค์ 5555 แค่ ค.ห.ส.ต.  (ความเห็นส่วนตัว) เรามาเข้าเรื่องกันต่อดีกว่า ก็หน้าเค้าหนะ เค้าอยากได้แบบนี้ หน้านี้อยู่กะเค้ามาตั้งแต่เกิดและจะอยู่ต่อไปอีกจนตาย ถ้าทำได้ก็ทำเถ๊อะ ถ้ามันเกินกว่าความสามารถก็ว่ากันอีกที    เจ้าตัวเค้าจะรู้นะว่าเค้าต้องทำอะไรบนหน้าแล้วเค้าจะสวยขึ้น แต่บางคนก็ไม่รู้ ต้องมีคนชี้ทางสว่าง ดูหน้า ดูโหงวเฮ้งให้ บางคนกำตังค์มาเป็นปึกๆ หมอดูให้หน่อย จัดเลยค่ะ เอาสวยๆตามใจหมอเลย หมอก็จัดเต็มอธิบายยาวเหยียด พล่ามๆๆๆๆยาว เค้าจะตัดสินใจเอาเองว่าจะทำมั้ย ทำไรบ้าง ใส่ใจตรงไหนมากว่ากัน บางคนก็ทำหมดเลยที่บอกไป บางคนก็เลือกทำบางส่วน เรียกว่าตัดสินใจร่วมกัน หมอว่าวินๆสุด

ศัลยกรรมแต่ละอย่างมีกำหนดอายุนะ อายุคนไข้ก็ ต้องบรรลุนิติภาวะ แต่ถ้าหมายถึง ศัลยกรรมที่จะทำ บางอันก็มีอายุ บางอันก็ยาวตลอดชีวิต บางอันแค่ 1-2 ปี บางอย่าง 5-6 ปี แต่บางทีมันมีอายุจากความที่มันเคยสวย แต่อีกซักพักมันไม่สวย จากค่านิยมที่เปลี่ยน เห็นอีกแบบสวยกว่า ก็หมดอายุขัย ขอเปลี่ยนขอทำใหม่ มันเป็นความพึงพอใจความสวยตามจินตนาการ  รู้ได้ไงว่าที่หมอทำๆเหลาๆ เนี๊ย มันจะออกมาสวย เหอๆๆ หมอก็ไม่รู้หรอก เพราะมันเป็นศิลปะและจินตนาการล้วนๆ คิดเอาและหวังว่า ภาวนาจิตเอาว่า ต้องออกมาได้ดั่งใจหวัง มาลุ้นกันตอนทำเสร็จ แต่หมอก็เอาจนสวยอะนะ ทำนานหน่อยก็ยอม ได้ตังค์เท่าเดิม แต่ต้องออกมาพอใจ ไม่งั้นนอนไม่หลับ ถ้าทำแบบไม่เต็มที่หรือรู้ว่าต้องทำเพิ่มนิดถึงจะสวย แต่ไม่ทำ เพราะประมาณว่าไม่เป็นหรอกแค่นี้พอแล้ว แต่หมอจะเซ็งตัวเอง  ทำไมไม่ทำเพิ่มนะ หลังจากนั้นก็ ทุกเคสเต็มที่ โดนพยาบาลบ่นบ้าง รอนานบ้าง หมอก็บอก ทำทั้งทีต้องให้สวย ใจเค้าใจเรา เค้าก็จะเข้าใจหมอ 555+
วิธีสังเกตคลินิกเถื่อน หมอเถื่อน และอันตรายของการทำศัลยกรรมกับหมอเถื่อน ศัลยกรรมกับหมอเถื่อนที่ไม่น่าจะมี เพราะการลงมีด เย็บโน่นนี่นั่นไม่ค่อยมีคนทั่วไปทำได้ แต่ที่เห็นข่าวเถื่อนๆกัน ส่วนใหญ่จะแค่ ไปตรวจรักษา ให้ยา จากเคยทำงานใน โรงพยาบาล ในคลินิกแพทย์  หรือที่รับฉีดหน้า ฉีดตูดกันตาม บ้าน คอนโด ในรถ ก็จะมีให้เห็นเยอะหน่อย อันนี้ อันตราย ทั้งตัวสารที่จะฉีดก็เถื่อน คนฉีดก็เถื่อน  เห็นแก่ของถูก แรงยุ แรงชวนเชื่อ ทำเสร็จหายเข้ากลีบเมฆ  สังเกตง่ายมาก ไม่มีหมอที่ไหนนะที่เค้ารับทำข้างนอก ยกเว้น สนิทกัน ทำให้คนในครอบครัว อย่างหมอก็เป็นหมอหิ้วกระเป๋า เอาไปฉีดให้ภรรยาเป็นประจำ (ไม่งั้นโดนบ่น ดูแลแต่คนอื่นภรรยาตัวเองไม่ดูแล)  ต้นกำเนิดของศัลยกรรมแต่ละอย่าง มันเริ่มมาจากไหน อย่างร้อยไหมเนี่ย (อันนี้น่าจะใหม่สุดที่คนธรรมดาได้ยิน) มันมายังไง จริงๆ  ต้นกำเนิดน่าจะมาจากตอนแรกเป็นการรักษาคนไข้ใน รพ.ที่มีปัญหาจากโรคต่างๆ แล้วทำให้เกิดความผิดปกติที่ดำเนินชีวิตอยู่ปกติได้ยากลำบาก แก้ไขให้ใช้งานได้มากที่สุด  แล้วค่อยๆกลายเป็นศัลยกรรมเพื่อความสวยงามล้วนๆ  อย่างร้อยไหม อันที่จริงมันมาจากพื้นฐานความคิดที่ไม่ค่อยต่างกัน ต่างแค่วิธีการ และความแปลกใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเลเซอร์ ร้อยไหม ใช้เครื่องมือกระตุ้น  ทำยังไงก็ได้ให้ใบหน้าที่มันเสื่อมไปตามวัย กลับมาดูดีขึ้น ย้อนวัยหนุ่มสาว ไหมที่ใช้ก็ไม่ต่างกัน หลักการกระตุ้นเซลล์ใหม่ คอลลาเจน เพิ่มความแข็งแรงให้หน้า และมีหลักทางวิชาการที่สนับสนุน ส่วนเรื่องผลก็แล้วแต่ จะมากจะน้อย อย่างที่ต้องการหรือเปล่า พื้นฐานหน้าเดิม หมอที่ความชำนาญต่างกัน ผลไม่เหมือนกัน บนพื้นฐานวิชาชีพแพทย์ที่ได้มาตรฐาน  ง่ายๆ เอาหมอสูติมาผ่ากระดูก อาจจะพอทำได้ในบางอย่าง แต่ความชำนาญก็ต้องเริ่มนับ 1 กันใหม่
ทิ้งท้ายก่อนจบ ผู้ชายกับเรื่องความหล่อ และทำศัลยกรรม  ที่เข้ามาปรึกษาหมอมีเคสผู้ชายไม่น้อยเลยนะ คือผู้หญิงยังอยากสวยได้ ผู้ชายก็ต้องอยากหล่ออยากดูดีด้วย ยุคสมัยมันต่างออกไป จนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว มาเสริมจมูก ทำตา หน้าเล็กเรียวกันก็เยอะ ทั้งชายแท้ ชายเทียม ถ้าทำแล้วเค้ามีงานที่ดีขึ้น สุขมากขึ้น มั่นใจมากขึ้น  เปิดโลกให้เค้าได้ไปอยู่อีกที่ อย่างเต็มภาคภูมิ ทำไมล่ะจะต้องรอ

หมอพศวีร์
กองจูคลินิก

Logo Kongju Clinic1

เรื่องน่าสนใจ