“บัวลอย” ขนมแบบไทยๆ ที่มีรสชาติอร่อยถูกปากใครหลายๆคน มักมีรูปแบบหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นบัวลอยธรรมดาๆ, บัวลอยไข่หวาน, บัวลอยน้ำขิง, บัวลอยหลากสี ที่เติมแต่งด้วยสีผสมจากธรรมชาติต่างๆ ให้ดูน่ากินยิ่งขึ้นไป วันนี้โดดเด่นดอทคอม พามาทำ “บัวลอยมุ้งมิ้ง“ ไอเดียน่ารักๆ จากคุณหมอคนสวย หมอแป๊ก (พญ.นวพร ผิวผัน) เจ้าของเพจ Cute Foodies by Peaceloving Pax (ปัจจุบันเป็นแพทย์ประจำคลินิกความงาม Viva Clinic ^^) ที่ทำบัวลอยออกมาได้น่ารัก น่ารับประทานมาก ใครที่สนใจเรื่องราวน่ารักๆ อย่าลืมไปติดตามกันด้วยนะ
ส่วนผสมแป้ง
1. แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย
2. น้ำเปล่า1/2 ถ้วย (อาจจะใช้น้อยกว่านี้นะคะ อันนี้โดยประมาณค่ะ ต้องค่อยๆ ผสมน้ำทีละส่วนค่ะ)
ส่วนผสมไส้งาดำ
สูตรที่ 1
1. งาดำคั่วบด 1 ถ้วย
2. น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
3. เนยถั่วชนิดหยาบ 170 กรัม
สูตรที่ 2 (สูตรจาก bloggang)
1. งาดำคั่วบด 1 ถ้วยตวง
2. น้ำตาลทรายแดง 1/4 ถ้วย+ 1/2 ช้อนโต๊ะ
3. coconut cream 1 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำ 1/8 ถ้วย
5. เกลือ 1/8 ช้อนชา
วิธีการทำ
ไส้สูตรที่ 1
เอาทั้งสามอย่างมาผสมให้เข้ากัน แล้วก็ปั้นเป็นก้อนกลมๆ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.5 -2 cm (ทำเล็กใหญ่ตามชอบเลยนะคะ) เอาไปเข้าฟรีซไว้ แล้วกลับมาทำตัวแป้ง
ตัวแป้ง
เอาแป้งข้าวเหนียวใส่ชาม ค่อยๆ เอาน้ำมาผสม ทีละนิด (ค่อยๆ เติมน้ำประมาณ 4-5 รอบ) คนๆ นวดๆ ให้เป็นเนื้อเดียวกัน ถ้าส่วนผสมมีความนิ่มเท่าเนื้อส่วนติ่งหู ก็แปลว่าเป็นอันได้ที่แล้ว (ถ้าแข็งไปก็เติมน้ำทีละนิด ถ้าเหลวไป ก็เติมแป้งอีกทีละนิด จนได้ที่นะคะ) แป้งกับไส้ เสร็จแล้วค่ะ ง๊ายยยยง่ายเนอะ
ผสมสีลงในแป้ง เราใช้สีผสมอาหารชนิดเจล(เราใช้ยี่ห้อ americolor สั่งซื้อในเน็ตค่ะ ลองค้นกูเกิ้ลได้ค่ะ เป็นสีที่ใช้ที่ใช้สำหรับทำหน้าเค้กหรือคุ้กกี้…แต่เราทำเค้กไม่เป็นนะคะ แหะๆ) ผสมเพียงเล็กน้อย ไม่ต้องผสมจนสีเข้มนะคะ เพราะว่าหลังจากเอาไปต้มแล้ว สีจะเข้มขึ้นอีกค่ะ ผสมพอให้เป็นสีอ่อนๆ และเป็นเนื้อเดียวกัน
การห่อและตกแต่ง
1. นำแป้งที่ผสมเสร็จแล้วแบ่งเป็นส่วนๆ กะๆ เอาว่าจะห่อไส้ที่ทำได้พอดี มาแผ่เป็นแผ่นกลมๆ บนฝ่ามือ ไม่ต้องบางมากนะคะ เดี๋ยวไส้แตก (โรยแป้งข้าวเหนียวเล็กน้อยก่อน เพื่อไม่ให้แป้งที่ผสมติดมือ)
2. เอาไส้มาวาง และก็ห่อเป็นลูกกลมๆ คลึงๆ บนฝ่ามือเบาๆ ให้มันกลมๆ
3. นำแต่ละก้อนที่ปั้นเสร็จ มาวางลงบนกระดาษไข ที่ตัดไว้ใหญ่กว่าก้อนเล็กน้อย(อันนี้สำคัญต้องมีนะคะ ตอนนำลงต้มหู จมูก ตา จะได้ไม่หลุดออกจากกันค่ะ)
4. เช็คดูว่าตรงเนื้อแป้งมีตรงไหนไม่เรียบหรือมีรอยแตก ถ้ามีรอยแตก ก็เอานิ้วจุ่มน้ำหมาดๆ มาลูบๆ รอยแตกก็จะหายไปค่ะ
5. จากนั้นก็แปะหู แปะจมูก แปะตา ตามต้องการ
ตัวอย่าง
หมีพูห์ – เราใช้แป้งสีเหลืองห่อไส้ แล้วก็ปั้นก้อนเล็กๆ อีก 2 ก้อนมาแปะเป็นหู
อียอร์ – เราใช้สีเทามาห่อไส้ และทำหู และส่วนตรงปาก ใช้สีฟ้า เอามาแปะทับด้านบนสีเทาอีกที และกดลงไปเบาๆ ให้ติดกัน
พิกเล็ต – เราใช้สีชมพูอ่อนห่อไส้ และส่วนหูกับจมูกใช้สีชมพูเข้ม (แบ่งแป้งสีชมพูอ่อนมาผสมสีเพิ่มอีกนิดเท่านั้นเองค่ะ)
ตา – เราผสมสีดำใส่ในแป้ง แล้วก็เอามาปั้นเป็นก้อนกลมๆ เล็กๆ แล้วก็เอาไปแปะบนหน้า
ส่วนคิ้ว – ใช้ไม้จิ้มฟัน จุ่มสีดำแล้วก็วาดลงไปบนหน้าค่ะ
เสร็จขั้นตอนการปั้นและตกแต่งแล้ว
จากนั้นก็นำมาต้ม
1. ต้มน้ำใส่หม้อให้เดือด
2. ค่อยๆ เอาบัวยังไม่ลอย ใส่ลงในน้ำเดือดทีละตัว ย้ำว่าต้องค่อยๆ นะคะ เพราะตาหูจมูก อาจจะหลุดออกจากกันได้(ตอนทำครั้งแรก หย่อนแรงแล้วหน้าคว่ำ จมูกหลุดค่าาาา) เคล็ดลับก็คือ เอาตัวบัวไม่ลอย(ทั้งกระดาษไข)มาวางบนทัพพี แล้วค่อยๆ หย่อนทัพพีลงไปจนถึงก้นหม้อ เพื่อให้ตัวบัวไม่ลอยวางหงายหน้าอย่างสวยงามอยู่ตรงก้นหม้อเลย วางลงไปทีละตัว
3. ดูว่าตัวไหนที่สุกแล้วก็คือ ตัวนั้นจะลอยขึ้นมาค่ะ ตอนสุกไม่ต้องกลัวหลุดแล้วค่ะ เพราะแป้งเหนียวติดกันแล้ว
4. ตักตัวที่สุกแล้วมาใส่ถ้วยที่มีใส่น้ำเปล่าไว้ เพราะแป้งจะเหนียวติดหนึบ และอย่าวางให้บัวลอยแต่ละตัวชิดกันนะคะ เพราะจะติดกันหนึบหนับเลย
5. นำบัวลอยที่ทำไว้ มาใส่ในน้ำขิง ก็เป็นอันพร้อมทานค่ะ
ส่วนเรื่องน้ำขิง เราใช้เครื่องดื่มขิงผงสำเร็จค่ะ เพราะว่าง่ายดี และปั้นบัวลอยก็นานแล้ว หากใครอยากทำน้ำขิงเอง ก็ลองดูในลิ้งค์ข้างบนได้นะคะ
ขอบพระคุณมากๆ ที่ให้ความสนใจและทนอ่านค่ะ ขอให้สนุกกับการทำอาหารมุ้งมิ้งนะคะ มันเป็นงานศิลปะที่ต้องใช้ความอดทนอย่างหนึ่งค่ะ แต่ทำออกมาแล้วรับรองว่าภูมิใจแน่ๆ ค่ะ ตัวเราเองฝึกทำอาหารแนวนี้มาพักนึงแล้วรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในตัวเองค่ะ คือเป็นคนใจเย็นขึ้นและภูมิใจในความพยายามของตนเองค่ะ ซึ่งเราชอนนะคะ มันเป็นสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต ^^