กระแสสืบเนื่องจากกรณีที่ “ออฟฟี่ แม็กซิม” ซึ่งถูกเพื่อนๆ ออกมาถล่มยับเรื่องเงินทำบุญ อารมณ์ส่วนตัว รวมไปถึงเรื่องผู้ชาย และหนึ่งในนั้นที่ออกมาถล่มคือ “ขนเพชร“ เน็ตไอดอล ลูกรักออฟฟี่ ที่ออกมาแฉว่าได้เงินค่าตัวแค่ครั้งละ 5 พัน ทั้งที่ถูกจ้างมา 2 หมื่น จนต้องขอร้องให้เพิ่มเงินค่าตัวให้เป็นครั้งละ 1 หมื่น ถูกอีกฝ่ายงุบงิบซองทำบุญ เคยรักมากถึงขนาดเช็ดโถส้วม และเช็ดรองเท้าให้ และเคยถูกอีกฝ่ายทำร้ายร่างกายมาก่อน
หลังมีประเด็นดังกล่าวเกิดขึ้น “บาส” อดีตแฟนเก่าขนเพชร ออกมาไลฟ์สวนขนเพชรทันทีว่าทำไมพูดแบบนั้น จริงๆ ออฟฟี่เป็นผู้มีบุญคุณ ตอนที่ขนเพชรไปยืมเงินคนอื่นมาใช้ ไปโกงเงิน ทำไมไม่พูดบ้าง หนำซ้ำยังถูกขนเพชรกล่าวหาว่าบาสว่าเป็นผัวเช่า ให้เงินเดือน เดือนละ 4 หมื่นและชอบทำร้ายร่างกาย
ล่าสุดรายการโหนกระแสวันที่ 1 ก.ค. โดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ได้เปิดใจสัมภาษณ์ บาส แฟนเก่าขนเพชร ซึ่งอัดอั้นตันใจ และขอโอกาสชี้แจงข้อเท็จจริง โดยยืนยันไม่ได้ถูกออฟฟี่เอาเงินฟาดหัวเพื่อปกป้องออฟฟี่
คุณเป็นอดีตแฟนขนเพชร คบมานานมั้ย?
“ถ้าอยู่ในวงการ คบ 3 เดือน แต่ก่อนหน้านั้นรู้จักมาหลายปี ถามว่าเป็นแฟนจริงจังให้คนอื่นรับทราบ 3 เดือน คือเพชรเขาเหมือนคนคุยหนึ่งคนในชีวิตผม อารมณ์เหมือนเราต้องมีคนคุย ผมเป็นหนึ่งคนที่เพชรเขาคุยด้วย และให้คำปรึกษาในหลายๆ อย่าง เราเป็นเพื่อนกันในเฟซบุ๊ก เราให้คำปรึกษากัน เราช่วยเหลือกัน สมมติผมมีงานก็จะบอกว่าเพชรจ๋าช่วยพี่แชร์หน่อยนะจ๊ะ เขาก็ช่วยผมแชร์”
เลิกกันไปนานหรือยัง?
“เลิกกัน 20 ม.ค. ครับ”
ล่าสุดทางออฟฟี่กับทางขนเพชรมีปัญหา คุณออกมาไลฟ์และบอกว่าการที่เพชรออกรายการโหนกระแส หรือไลฟ์อะไรก็แล้วแต่ และไปพาดพิงออฟฟี่ ไม่นึกถึงบุญคุณออฟฟี่ อกตัญญู?
“ต้องเท้าความแบบนี้ ตลอดระยะเวลาคบกัน 3 เดือน ใน 3 เดือน ต้องดูแลน้องทุกเรื่อง ขับรถรับส่ง บ้านอยู่บางขุนเทียนพระราม 2 บ้านน้องอยู่บางบัวทอง ผมต้องตื่นตี 2 แล้วเอาง่ายๆ ตีสองตีสี่คือเวลานอนของผม เวลาที่เหลือผมต้องอยู่กับเพชร ผมดูแลน้องตลอดระยะเวลา 3 เดือนมา วันที่เลิกกัน น้องให้สเตตัสผมว่าผมคือผัว 4 หมื่น วิธีการให้ของน้องคือ เราเลิกกัน 20 ม.ค. แต่คนเริ่มรู้ว่าเราเลิกกันเพราะขนเพชรได้โพสต์เวลา 11 โมงของวันที่ 10 กพ. ว่าผมดีทุกย่าง ดูแลเพชรดีอย่างโน้นอย่างนี้ ดีทุกเรื่อง แต่สุดท้ายน้องบอกว่าให้ค่าตอบแทนผมเดือนละ 4 หมื่นบาท”
เขาให้เงินเดือนคุณ 4 หมื่น คุณได้จริงมั้ย?
“ผมได้จริงครับ”
ก็ไม่ผิดนี่ที่จะบอกแบบนั้น?
“ใช่ครับ ไม่ผิด ผมถึงไม่ออกมาเถียง แต่ความจริงในเงิน 4 หมื่น เขาไม่ได้อธิบายนี่ครับ ว่าให้ผมเอามาใช้อะไร เพราะอะไร”
แล้วมันคืออะไร?
“15 วันให้ 2 หมื่นบาท ผมใช้จ่ายเรื่องค่าน้ำมัน ค่ากิน ค่าอยู่ ทุกเช้า ผมใส่ใจรายละเอียดมาก เพชรต้องทานเอแคร์ของอเมซอนทุกวัน กาแฟดำทุกวัน ตอนกลางวันเพชรต้องทานข้าวอะไรก็ได้ เพราะเพชรต้องทานยาประจำตัว”
เขาป่วยเหรอ?
“ผมไม่ทราบครับว่าน้องป่วยเป็นอะไร แต่น้องเขาทานยา เป็นวิตามิน เบ็ดเสร็จเงินพวกนี้ น้องจะใช้คำว่าพี่บาสจ๋าออกไปก่อนนะจ๊ะ มันเป็นเหมือนเงินหมุน 2 หมื่นบาท มันคือเงินหมุนในชีวิตขนเพชร ที่ขนเพชรใช้เราเป็นเครื่องมือด้วยซ้ำ ทีนี้ผมคิดว่าน้องใช้เราเหมือนเป็นเงินหมุน เพราะเราออกไปก่อนทุกอย่าง 15 วันต่อมา น้องก็โอนมาอีก 2 หมื่น ก็เป็น 4 หมื่น นี่คือเงินเดือนผมที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งผมไม่ได้เอาไปใช้ส่วนตัวครับ ผมเอาเงินตรงนี้มาดูแลน้อง แต่ในฐานะคนเป็นแฟน เงิน 4 หมื่นตรงนี้มันคือเรื่องเล็กน้อยมาก ผมเลยไม่ใส่ใจ เพราะเราตกลงกันแล้วว่าเมื่อไหร่เรามีปัญหา มันเหมือนผมเป็นผู้จัดการส่วนตัวเพชร แล้วเป็นค่าจ้างของผม”
พอถึงเวลาเลิก เขาให้เงินคุณ 4 หมื่น คนก็เลยประณามคุณว่าเป็น?
“แมงดา เกาะเขากิน”
เจ็บปวดมั้ย?
“วันนั้นผมโคตรเจ็บ ผมเจ็บมาก แต่ในความเจ็บเรายังมีความรักให้เขาอยู่ ผมดูเหมือนจัญไรแต่ให้ใจเขาจริงๆ ตั้งแต่วันที่เขาออกข่าวไปผมเป็นผัว 4 หมื่น แฟนคลับคนรักเพชรเยอะมาก ประณามผมเยอะมาก วันนั้นผมเจ็บกว่าวันนี้ที่ผมโดนอีก”
คนบอกว่าคุณเป็นผัวเช่า ต่อว่าต่อขานคุณ?
“ใช่ครับ”
คุณเป็นเน็ตไอดอลมั้ย?
“ผมไม่ใช่เน็ตไอดอล ผมเป็นคนธรรมดา และไม่ได้อยากจะดัง แต่เพชรเขาเป็นครับ”
มาถามเรื่องออฟฟี่ คืออะไร วันก่อนคุณไลฟ์ออกมา บอกว่าเพชรอกตัญญู ?
“ต้องบอกว่าตลอดระยะเวลาที่อยู่กับน้อง ผมก็มีความรู้จักออฟฟี่พอสมควร หลายๆ เหตุการณ์ที่ผมอยู่กับน้องมา ถามว่าน้องออกมาไลฟ์สด ผมไลฟ์คู่กับน้อง ซึ่งก่อนหน้านี้ผมดูไลฟ์สดน้องมาแล้วเป็นระยะเวลาหนึ่ง ผมเห็นว่าในไลฟ์สดน้อง น้องไม่ได้พูดความจริงทั้งหมด”
เรื่องอะไรที่ไม่จริง?
“ผมเห็นว่าไม่ใช่เรื่องจริง แต่อยู่ที่จิตใต้สำนึก น้องอยากจะพูดก็ให้น้องพูดก่อน แต่มันมีเรื่องค่าตัว ซึ่งผมรู้มา ผมมีหลักฐานนะครับ”
ทางออฟฟี่ในอดีต ทางขนเพชรบอกออฟฟี่ให้เงิน 5 พัน จนตอนหลังยกมือไหว้ขอหมื่นนึง ไม่จริงเหรอ?
“ให้ 1 หมื่นบาทจริงครับ แต่ตอนน้องมาพูดว่า 5 พัน ในไลฟ์สดน้องไม่ได้พูดแบบนี้ครับ แต่มาออกรายการโหนกระแสพูดแบบนี้ ในไลฟ์สดน้องบอกว่าออฟฟี่โกงค่าตัวน้อง กรณีโกงค่าตัวเหมือน 5 พันบาทตลอดเวลา คนในสังคมโซเชียล เข้าใจว่าออฟฟี่ให้ค่าตัวขนเพชรแค่ 5 พัน ซึ่งที่รู้มาไม่ใช่ 5 พันบาท”
เป็นเท่าไหร่?
“สืบเนื่องก่อนนะครับ เขามีการคุยกันและน่าจะไม่ลงตัว เขาทวงเงินอะไรสักอย่างผมไม่ทราบ แต่ออฟฟี่ส่งสลิปเงินมาให้ผม ว่าในฐานะเป็นแฟนขนเพชร โอนเงินกลับมาให้ฉันด้วย 3 แสนบาทเพราะฉันโอนเงิน 3 แสนบาทให้ขนเพชร และ 30 คิว 3 แสน เท่ากับคิวละหมื่นนะพี่”
คุณต้องโอนกลับมั้ย?
“ผมไม่ทราบครับ ผมไม่ค่อยวุ่นวายกับเรื่องงานของเขา ตลอดระยะเวลาที่ทำงานกับเขา ผมมีหน้าที่แค่รับส่งไปฟิตเนส”
ทางขนเพชรได้เงินก้อน 3 แสน ถ้าไม่มีงาน ก็ค่อยเอาไปคืน แต่คืนเมื่อไหร่ไม่รู้?
“เรื่องนี้ผมไม่รู้ว่าเขาคืนกันยังไง แต่ในกรณีนี้ มันคือความโชคร้ายของเพชรหนึ่งอย่าง คือมันไม่มีสลิป แต่เขาโอนเงินคืนเข้าบัญชีแล้ว ผมไม่รู้หรอกว่าบัญชีออฟฟี่มีอะไรบ้าง แต่ด้วยความที่ผมเป็นแฟนขนเพชร ผมก็ลิงค์เข้าไปในแอปพลิเคชั่นของเขาว่าสามารถดูตรงนี้ได้นะ ขนเพชรก็บอกว่าที่รักจ๋า ส่งไปให้แม่หน่อยนะจ๊ะ เพชรไม่อยากคุยกับเขา ในเดือนม.ค.”
แสดงว่าหมางใจมาตั้งแต่ ม.ค.?
“ตอนที่ขนเพชรหายไปจากออฟฟี่ คนคิดว่าหายไปเพราะผมเป็นคนพาออกไป ถามว่าจริงไหม ผมก็สารภาพเลยว่าอยากให้ออกจากออฟฟี่จริงๆ ผมพูดเลยว่าอยากให้น้องออกจากตรงนั้น ผมรู้สึกว่าเวลาผมอยู่กับเพชร ผมอยากได้รับความรักจากเขา แต่เวลาเขาอยู่กับผม เขาใช้เวลากับโทรศัพท์ กับโซเชียลเน็ตเวิร์ก มันอยู่กับเขา และที่สำคัญ เวลาเขาอยู่กับผม เขาเอาเรื่องงานมาปนกับเรื่องความรักทั้งหมด”
ทางเพชรเคยบ่นกับคุณเรื่องออฟฟี่มั้ย?
“บ่นมานานแล้วครับ”
เขาบอกว่เคยถูกตบหน้า?
“เรื่องนี้ผมเคยห้ามน้องไปแล้ว บอกว่าที่รักลองมองอีกมุมหนึ่งมั้ย ซึ่งขนเพชรบอกว่าตบจริง”
คุณรู้มั้ยขนเพชรต้องไปเช็ดรองเท้า เช็ดโถส้วม?
“เขาเคยบอก แต่ลองมองในมุมคนทำงานด้วยกัน ผใเคยเห็นพฤติกรรมออฟฟี่ เขาเป็นผู้หญิงง้องแง้ง โถส้วมเปื้อนจังเลย แล้วขนเพชรเขาเป็นคนที่อยากให้ออฟฟี่รักเป็นเบอร์หนึ่ง เขาเลยอาสาเช็ดให้ ความจริง ถ้าเป็นเรา เราจะชี้ให้เขาไปเช็ด เราจะเช็ดมั้ย เขาไม่ได้มีอิทธิพลขนาดนั้นนะ สิทธิของคนต้องมีมั้ย มันก็เลยโยงมาว่าผมพาน้องออกมาเพื่อทำเอง มันเลยโยงถึงคนทำเพลง”
สรุปคุณไม่ได้ถูกออฟฟี่จ้างมา?
“ไม่ได้โดนออฟฟี่จ้างมาครับ”
คุณออกมาไลฟ์สวนขนเพชร?
“ใช่ครับ ผมยอมรับว่ากระทำเหตุการณ์นั้นด้วยความรู้สึกโกรธมาก ไม่ได้โกรธที่ขนเพชรไม่ได้พูดถึงผมนะ ไม่ได้ขอโทษผมนะ แต่ถามว่าผมอยากให้น้องขอโทษมั้ย เรื่องที่เขาพูดต่างๆ นานา ทำไมไม่อธิบายว่าเงิน 4 หมื่นเอามาใช้ทำอะไรบ้าง”
เพราะเรื่องนี้ทำให้คุณออกมาพูดสวนขนเพชรหรือเปล่า?
“พูดได้เลยว่าเรื่องนี้มีประเด็นแค่สิบเปอร์เซ็นต์ ผมอยู่กับมันมา 6 เดือน”
สิบเปอร์เซ็นต์หมายถึงเรื่องอะไร?
“ในเรื่องความรู้สึกครับ แต่ที่รับไม่ได้เลยคือในกรณีผมพาขนเพชรออกมา ทุกครั้งที่ขนเพชรไม่มีงาน ขนเพชรกลับไปหาออฟฟี่ ออฟฟี่อ้าแขนรับตลอดเวลา เขาเคยมีปัญหากันมาแล้ว ครั้งแล้วครั้งเล่า ผมมั่นใจว่าคนอย่างขนเพชร แม้แต่แม่บังเกิดเกล้าไม่มีใครสามารถบังคับเขาได้ ถ้าเขาจะไม่ทำอะไร ผมอยู่กับเขามารู้นิสัยว่าเขาเป็นยังไง”
ไม่กลัวเพชรออกมาสวนเหรอ?
“ถ้าสิ่งที่พูดคือความจริง ก็ต้องยอมรับ ตอนนี้เราเอาความจริงมาพูดครับ”
คุณบอกคุณไม่ได้สนิทออฟฟี่ แต่คุณมีรูปถ่ายกับออฟฟี่?
“เรื่องนี้ผมอธิบายได้ครับ ผมไปส่งของให้ออฟฟี่ 13 มิ.ย. โดยปกติเราเจอคนดัง เราห่างกันมานานแล้ว ตั้งแต่เลิกกับขนเพชร ผมไม่ได้เจอออฟฟี่เลย แต่ถามว่าเราถามสารทุกข์สุขดิบกันมั้ย ถามครับพี่หนุ่ม ไม่ได้มีแค่รูปกับออฟฟี่ ผมถ่ายกับทีมงานทุกคน”
คุณไม่ใช่สาวกของเธอนะ?
“ไม่ครับ ผมถ่ายกับทีมงานทุกคน เราเคยทำงานด้วยกัน เคยกินด้วยกัน ที่สำคัญคนมองว่าผมถ่ายรูปนี้ถ่ายลงโซเชียล ติ๊กตอก เขาเลยบอกว่าผมสนิทกับออฟฟี่ แต่ผมถ่ายกับทุกคน ออฟฟี่ไม่ได้มีอภิสิทธิ์อย่างอื่นจากผมว่าผมต้องส่งของให้ในราคาถูก มีสลิปการโอนที่ถูกต้อง”
เขาเป็นลูกค้า?
“ใช่ครับ เขาเป็นลูกค้าสั่งเสื้อผ้าของผม เพราะผมขายเสื้อผ้า เสื้อโปโล เสื้อทีมงานเสื้อนี้เขาก็เอาไปถ่ายคลิป เป็นคอลเลคชั่นครับ”
หลังคุณไลฟ์ว่าขนเพชรอกตัญญู คนโจมตีคุณเยอะมาก เห็นว่าออฟฟี่ส่งข้อความถึงคุณ?
“เอาตรงๆ พอผมไลฟ์สดจบปุ๊บ ในไลฟ์ผมทำ ก็คิดว่ากิริยาที่ผมทำมันไม่สุภาพ ทำให้ออกไปสู่สายตาเด็กหรือคนที่มองอยู่ มันทำให้ผมดูรุนแรง ก้าวร้าว แต่มั่นใจคนรู้จักผมจริงๆ จะรู้ว่าผมเป็นคนยังไง ก็ถือโอกาสนี้ขอโทษสำหรับกิริยาที่ออกไปทางโซเชียล ผมไม่มีเจตนาทำให้คนมองผมไม่ดี ผมรู้สึกว่าตรงนั้นคือจุดที่ผมเดินออกมาแล้ว จะกลับเข้าไปอีกทำไม”
ออฟฟี่ส่งแมสเซสเจอร์มาคุยกับคุณ?
“ครับ ก็ปกติ เขาก็ต้องเห็นข่าวคนมาด่าผมกับด่าเขา เขาก็ถามว่าบาสเป็นไงบ้าง เมื่อวันพฤหัส”
เขาบอกว่ากูขอโทษนะ ไม่รู้ว่าทำไรผิด แต่ขอโทษไว้ก่อน ?
“ผมก็บอกว่าช่างมัน ผมไม่อยากจะไปวุ่นวาย เพราะเป็นเรื่องเขาสองคนด้วยซ้ำ จริงแท้เขาก็ต้องคุยกัน”
คุณอึดอัดถูกกล่าวหาทำร้ายร่างกายขนเพชร?
“เรื่องนี้มีแรงสัมผัสหนึ่งอย่าง ออฟฟี่เขาเกลียดผมมาก ว่าผมไปทำร้ายลูกรักเขา”
ออฟฟี่รักขนเพชรมากขนาดนั้นเลยเหรอ?
“ในมุมคนรักแม่มากอย่างผม ผู้หญิงคนหนึ่งที่ทุกครั้งขนเพชรมีปัญหา เจอเรื่องราวอะไร เขาก็ให้คำปรึกษา ไม่รู้หรอกว่าเขาให้คำปรึกษากันยังไง ให้คำปรึกษาด้วยการเล่นเกมหรือปั่นกันผมไม่ทราบ แต่ผลลัพธ์ทำให้น้องมีงานมีเงินมาจุนเจือครอบครัวเขา”
ขนเพชรไปฟ้องว่าคุณตบหน้าเขา?
“ผมไม่เคยทำร้ายร่างกายขนเพชร จะมีแค่วันที่ผมจะขอขนเพชรแต่งงานแล้วคุยกันไม่ลงตัว แล้วผมก็บีบมือน้องแค่นั้น ผมตั้งปฏิญาณแล้วว่าจะไม่บีบมือน้องอีก”
คุณมีคลิป?
“คลิปเต็มครับ ที่เหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในคลิป แต่มีในโซเชียล ผมไม่รู้ว่าหลุดไปได้ยังไง”
คุณไม่ได้ทำร้ายร่างกายเพชร แล้วหน้าเขาเป็นรอยใครทำ?
“ขนเพชรตีหน้าตัวเอง แล้วเอาหน้าที่ตีตัวเองนั้นไปบอกออฟฟี่ว่าผมทำ”
เขาทำร้ายตัวเอง คุณไม่ได้เกี่ยว?
“ผมไม่เกี่ยวครับ”
วันนี้ยังรักมั้ย?
“วันนี้ผมเห็นน้องมีงานผมดีใจแล้วครับ ผมรู้สึกดีกับน้อง แต่ความรักหมดไปตั้งแต่วันที่น้องทำลายแล้วครับ ความปรารถนาดีคือผมอยากให้น้องมีงาน มีเงินดูแลครอบครัว อยากให้ต่างคนต่างอยู่เถอะ เพราะผมทำธุรกิจของผม ผมรู้สึกว่าผมแฮปปี้แล้ว จุดตรงนั้นคือไม่ใช่ ผมก็เดินออกมา และคงไม่ไปวุ่นวายกับเขาแล้ว”