เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 17 มกราคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อดีตครูโรงเรียนบ้านม่วงไข่ประชาราษฎร์สงเคราะห์ ต.ด่านม่วงคำ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร ถูกศาลตัดสินถึงที่สุดคดีขับรถชนคนตาย กระทั่งพ้นโทษ และเข้าร้องขอให้รื้อคดี โดยยืนยันว่าไม่ได้กระทำผิดว่า มอบหมาย พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ลงไปตรวจสอบความเป็นมาเรื่องนี้ ขอเวลาเจ้าหน้าที่ทำงานก่อน เรื่องนี้กำลังจะเริ่มแล้ว
ด้าน พล.ต.อ.ปัญญากล่าวว่า ผบ.ตร.มอบหมายให้ลงไปตรวจสอบ เพราะเป็นห่วงกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบ รวมถึงตำรวจที่ถูกกล่าวหา จึงไปตรวจสอบว่าทำถูกต้องหรือไม่ จากการลงไปที่ บก.ภ.จว.นครพนม รับรายงานจาก บก.ภ.จว.นครพนม และ บช.ภ.4 พบว่าการทำคดีนี้เมื่อปี 2548 การปฏิบัติงานทั้งของฝ่ายสอบสวน นิติวิทยาศาสตร์ รวมถึงผู้บังคับบัญชาระดับต่างๆ ในตอนนั้น ทำอย่างครบถ้วน ถูกต้องตามระเบียบ เป็นเรื่องที่น่าชมเชยที่ดำเนินการต่างๆ จนมีการลงโทษในคดีนั้น
“หลังจากตรวจสอบกรณีนี้ เมื่อมีความพยายามรื้อฟื้นคดี โดยอ้างว่านางจอมทรัพย์เป็นแพะ มีนายสับ วาปี รับว่าเป็นคนขับรถชน มารับผิดแทน พบความผิดปกติหลายอย่าง มีการดำเนินการที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายหลายอย่าง ในชั้นนี้จะให้ บช.ภ.4 ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษ รับเลขคดี คาดว่าทำได้ภายในวันนี้เพื่อดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้องการกระทำผิด จากความผิดปกติที่ตรวจสอบพบการกระทำผิดในพื้นที่ จ.นครพนม เชื่อว่าภายใน 2 วัน ทุกอย่างจะกระจ่างขึ้น การร้องทุกข์กล่าวโทษนี้ จะมีทั้งในส่วนที่ให้การไม่ตรงกับความจริง การได้พยานหลักฐานบางส่วนที่ได้มาอย่างไม่ถูกต้อง และยังตรวจสอบพบขบวนการรับจ้างรับผิด โดยผู้เสียหายในชั้นนี้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ได้รับฟังข้อมูลและลงบันทึกประจำวัน ย้ำว่าไม่ใช่เรื่องของการหมิ่นประมาท แต่เป็นเรื่องของการพบขบวนการในการกระทำผิดตรงนี้” จตช.กล่าว
เมื่อถามว่า พบว่านางจอมทรัพย์สมอ้างตัวเองเป็นแพะในคดี หรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับการว่าจ้างขบวนการนี้หรือไม่ จตช.กล่าวว่า ชั้นนี้ยังไม่แน่ใจว่านางจอมทรัพย์ไปร่วมด้วย เกี่ยวข้องหรือไม่ เพราะว่าคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับขบวนการนี้เราได้ข้อมูลมาว่าเป็นกลุ่มที่ดำเนินการในเรื่องนี้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ในข้อเท็จจริงตามที่ศาลฎีกาพิพากษาไป ตอนนี้นางจอมทรัพย์ยังถือว่าเคยเป็นผู้กระทำผิด ตามสถานะที่เป็นไปตามคำพิพากษา เบื้องต้นยังคงสืบสวนสอบสวนความเกี่ยวข้องของนางจอมทรัพย์กับขบวนการนี้ ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไร
เมื่อถามว่า พบเหตุจูงใจที่นางจอมทรัพย์ออกมาร้องให้รื้อฟื้นคดีหรือไม่ พล.ต.อ.ปัญญากล่าวว่า ไม่อยากพูดลับหลัง พูดออกไปตอนนี้ไม่ดี ขอทำงานก่อน โดย ผบ.ตร.สั่งการให้ บช.ภ.4 ตั้งคณะทำงานเรื่องนี้ โดยตนจะลงไปช่วยดู
พล.ต.อ.ปัญญากล่าวต่อว่า เรายังไม่อยากกล่าวหานางจอมทรัพย์ ตราบใดที่พยานหลักฐานยังไม่ชัดเจน ตอนนี้ยังอยู่ในชั้นของการตรวจสอบ แต่ในชั้นนี้มั่นใจว่านายสับ ที่สมอ้างว่าเป็นคนขับรถชน เป็นการออกมารับแทน ส่วนที่ศาลพิพากษาไปแล้ว จะไม่ก้าวล่วงแต่เชื่อมั่นว่าจากพยานหลักฐานที่พนักงานสอบสวนรวบรวมไปไม่น่าจะผิด เรื่องนี้มีการสมอ้างรับผิดแทนและมีขบวนการที่ได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้ แต่ย้ำว่าไม่อยากฟันธงไปถึงความเกี่ยวข้องกับนางจอมทรัพย์กับขบวนการ เนื่องจากยังไม่มีพยานหลักฐานยืนยัน รวมถึงเหตุจูงใจที่เอาตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการนี้
จตช.กล่าวอีกว่า วันนี้เราจะสอบปากคำอดีต ส.ว.มุกดาหาร คนหนึ่งในฐานะพยาน รับรู้เรื่องนี้ เนื่องจากเมื่อประมาณปี 2557 หลังศาลฎีกาพิพากษาแล้ว มีบุคคลเข้ามาติดต่อกับ ส.ว.ท่านนี้ ขอให้รับเป็นทนายคดีนี้ ตอนนั้น ส.ว.อยู่กับกำนันคนหนึ่ง แต่ ส.ว.คนนี้ไม่รับงานนี้ มีการเสนอว่าจ้างราคาประมาณ 2-3 แสนบาท ทั้งนี้ พบว่าขบวนการนี้เริ่มเข้ามาจับคดีนี้ตั้งแต่ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง คล้ายเห็นช่องทางก็เข้ามา และในกระบวนสู่ศาลฎีกาก็เห็นทางไม่ค่อยดี ขบวนการนี้เริ่มดำเนินการ เท่าที่พบตอนนี้มีคนเข้ามาเกี่ยวข้องและอาจต้องแจ้งข้อกล่าวหา ประมาณ 6 คน ในนี้ยังไม่รวมนางจอมทรัพย์ วันนี้คาดว่าจะเริ่มแจ้งความ รับคดีและเริ่มกระบวนการสืบสวนสอบสวนคดี ขบวนการนี้มีการรับเงินกันแล้วบางส่วน ส่วนจะสอบนางจอมทรัพย์เป็นพยานหรือไม่ ตอนนี้ยังไม่จำเป็นต้องใช้หลักฐานตรงนี้ แต่กำลังตรวจสอบอยู่ รวมถึงยังไม่ต้องสอบนายวันชัย สอนศิริ ทนายความในชั้นอุทธณ์ ยังไม่เกี่ยวข้อง ส่วนเหตุจูงใจก็ยังชี้ไม่ได้ชัด จะบอกว่าเพื่อดิสเครดิตองค์กร ก็ไม่ต้องทำขนาดนี้ อย่างไรก็ตาม จากการสืบสวนพบว่าขบวนการนี้ทำแบบนี้มาหลายครั้งในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บางคดีสำเร็จ บางคดีมีปัญหาเกี่ยวพันร้องเรียนภายหลัง บางคดีพยายามทำก็ไม่สำเร็จ มีการอ้างเป็นแพะ มีคนรับผิดแทน คอยดูว่ามีคดีไหนมีช่องทางจะเข้ามาได้ก็จะไปติดต่อรับงาน
เมื่อถามว่า มีคนมีสี หรือคนในกระบวนการยุติธรรม กระบวนการกฎหมาย ทั้งรัฐ เอกชนเกี่ยวกับขบวนการนี้หรือไม่ พล.ต.อ.ปัญญากล่าวว่า คงไม่หรอก ตนไม่พาดพิง มันเป็นสไตล์ของพวกนี้ พวกคนดื้อๆ บางคนก็รับราชการอยู่ รอให้พยานหลักฐานชัดกว่านี้ ทั้งนี้ ภาวนาให้นางจอมทรัพย์เป็นเพียงเหยื่อของขบวนการนี้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผู้ช่วย ผบ.ตร. ลงพื้นที่ติดตามคดีนี้ ตนจะไปติดตามอีกครั้งใน 2-3 วันนี้ อยากให้เรื่องนี้กระจ่างโดยเร็วที่สุด ตอนนี้สังคมสับสน ย้ำว่าเราไม่มีเจตนาทำร้ายฝ่ายใด เพราะไม่รู้จักใครเป็นการส่วนตัว