ที่มา: Khaosod Online

วันที่ 21 มค. ที่ สยามพารากอน มีการจัดงานประกาศผลผู้ชนะเลิศจากการประกวด “ดาววิ้ง เดือนว้าว คนรุ่นใหม่ ใส่ใจสุขภาพ” ซึ่งในงานนี้พระเอกหนุ่ม บี้-สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว มาร่วมแสดงโชว์ในงาน หลังจากจบงาน บี้-สุกฤษฎิ์ ได้เปิดใจถึงความสัมพันธ์กับนักแสดงสาว “โม มนชนก” ว่า “จริงๆเราห่างกันได้สักพักแล้ว แต่เราไม่ได้มีโอกาสมาบอกกับสื่อ เพราะว่าสภาพจิตใจของเราสองคนยังไม่พร้อม ที่จะให้สัมภาษณ์ เลยไม่ได้บอกกว่าอะไร ตอนนี้ห่างมาได้สักระยะนึงแล้ว เราก็ยังมีความห่วงใยกัน มีอะไรเราก็ยังช่วยเหลือได้ปกติ”

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าเป็นเพราะอะไร “มันเป็นปัญหาเรื่องความเข้าใจของคนสองคน เราห่างกันด้วยดี เจอกันได้ ทักทายกัน มีอะไรก็ช่วยเหลือกันได้เหมือนเดิม ถามว่าเฮิร์ตไหม มันก็ต้องมีกันบ้าง แต่ว่าเราเข้าใจได้ว่ามันต้องมีความเป็นไป”

หลายคนมองว่ามันเป็นเพราะความไม่ชัดเจนของเรา “ไม่เกี่ยวกับเรื่องความไม่ชัดเจน แต่ในเรื่องของเราสองคนมันมีความไม่เข้าใจกันมากกว่านั้น ที่เราและคนรอบข้างรู้ มันก็มีหลายอย่างที่เราบอกสื่อได้ และอีกหลายอย่างที่บอกไม่ได้ ก็ยังดีที่เรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันครั้งนึง ถามว่าเสียดายไหม ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีนะ ที่เรามีกันและกัน แต่ว่าหลังจากนี้เราก็เจอกันได้นะ เรายังไปไหนมาไหนด้วยกัน มีปัญหาก็ยินดีช่วยเหลือ ไม่ได้ตัดกันออกจากชีวิตทั้งหมด”

แล้วทางด้านโมเป็นไงบ้าง “ต่างคนต่างเฮิร์ต เราปลอบใจซึ่งกันและกัน เราลองปรับกันดูแล้ว ลองทุกวิถีทาง แต่อย่างที่บอกว่าเราห่างกันด้วยดี”

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ห่างกันนานแค่ไหน “ประมาณ 4 เดือน แล้วครับ เพียงแต่ว่าเรายังไม่พร้อมในเรื่องของสภาพจิตใจ ตอนนี้ยังไม่ได้แข็งแรง แต่ว่าวันนึงเราก็ต้องตอบ เรายังไม่ได้แข็งแรงมากที่จะตอบ และผมเชื่อว่าน้องเองก็ยังไม่ได้แข็งแรงมากที่จะตอบ สภาพจิตใจเราสองคนดีขึ้นนิดนึงแล้ว ยังไงเราก็ต้องตอบ เรายังต้องอยู่ในวงการบันเทิงถูกสัมภาษณ์อยู่ดี”

ถามว่าเป็นเพราะก่อนหน้านี้ โมมีข่าวกับ เจษ-เจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์ หรือเปล่า “เรื่องนั้น เราขอไม่กล่าวถึง เราขอพูดแต่เรื่องของเราดีกว่า”

ความสนิทกันระหว่างเรากับโม จะหายไปไหม “เราสนิทกันนะ ครั้งนึงเราเคยเป็นคนรู้ใจกัน ความรู้ใจตรงนั้นมันก็ยังอยู่ เพียงแค่ว่าความสนิทมันลดลงเท่านั้น”

ถามต่อมันเป็นเรื่องมือที่ 3 หรือเปล่า “ไม่ใช่หรอกครับ เป็นเรื่องของเราสองคนมากกว่า คือ มันก็มีหลายๆเรื่อง ไม่ใช่แค่ความคิดหรือทัศนคติไม่ตรงกันอย่างเดียว ถ้าพูดถึงความเข้าใจของคนสองคน มันก็เรียบเรียงมาได้หลายรูปแบบ แต่ถ้าจะตอบแล้วให้มันฟังง่ายที่สุด ก็เป็นเรื่องของความเข้าใจของคนสองคน”

ก่อนหน้านี้โมก็บอกว่ายังแฮปปี้ “ผมเข้าใจน้องนะ ณ เวลานั้นสภาพจิตใจของน้องอาจจะยังไม่พร้อมที่จะตอบพี่ๆนักข่าว พอโดนถามก็อาจจะต้องตอบไปแบบนั้นก่อน หลังจากนี้ถ้าสภาพจิตใจเขาดีขึ้น เขาก็คงจะพร้อมตอบเรื่องนี้”

ยังมีการติดต่อพูดคุยกันอยู่ไหม “เราทั้งคู่ก็ยังให้กำลังใจกันและกัน เพราะว่าครั้งหนึ่งเราเคยสนิทกัน เคยเข้าใจกันและกัน จะให้ตัดขาดไปเลยมันเป็นไปไม่ได้ ยังไงเราก็ช่วยเหลือซึ่งกันและกันอยู่ตลอด”

เรียกว่าเป็นช่วงพักใจได้ไหม “มันก็ตอบไม่ได้ เอาเป็นว่าเป็นอีกช่วงหนึ่งที่ต้องทำใจมากกว่า”

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาก็มีคนเห็นโมไปเที่ยวเชียงใหม่ “จริงๆช่วงนั้นเราก็ห่างกันแล้วแหละ แต่ว่าอย่างที่บอกเราก็ยังเป็นห่วงเป็นใยกันอยู่เสมอ น้องไปเชียงใหม่ สถานที่ท่องเที่ยวอะไร หรือเขาอยากไปไหน เราเป็นเจ้าบ้าน ในฐานะพี่น้องเราก็ยินดีจะพาไปได้ เรายินดีทำทุกอย่างครับ”

เรื่องน่าสนใจ