พูดไม่ออกเลยจริงๆ สำหรับนักร้องหนุ่มเสียงดี บี พีระพัฒน์ ที่ล่าสุดโดนคนใกล้ตัวอย่าง กู๊ด ศุภวัฒน์ อดีตผู้จัดการส่วนตัวฉ้อโกงและลักทรัพย์ โดยเมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2560 ที่ผ่านมา นักร้องหนุ่มโพสต์ระบายเรื่องราวดังกล่าวผ่านโซเชียล ทั้งตัดพ้ออดีต ผจก.ว่าไว้ใจมากแต่ไม่น่าทำกันแบบนี้ รวมถึงประกาศมอบรางวัลนำจับเป็นจำนวนเงิน 1 แสนบาท หากใครชี้เบาะแสและพบเห็น ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา (19 พ.ย. 2560) เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้รวบตัว นายศุภวัฒน์ หรือ กู๊ด ได้แล้วที่หัวหิน และในเวลาบ่ายวันนี้ (20 พ.ย. 2560) นักร้องหนุ่มเดินทางไปยังศาล เพื่อนำตัวอดีต ผจก.ฝากขังและดำเนินคดี ซึ่งหนุ่มบีก็ชี้แจงรายละเอียดว่า
“วันนี้ยังไม่ได้นอนเลย ทำงานฟรีทุกวันเลย เมื่อวานมีน้องทักมาว่ามีเบาะแสเจอกู๊ดที่ร้านเหล้ามา 2 วันแล้ว เพราะเขาเป็นเด็กเสิร์ฟที่นั่น ถ้าไม่มาวันนี้ต้องไม่เจอเขาแน่ๆ เขาบอกจะไปแล้วเหมือนเขาก็รู้ตัว ก็เลยตัดสินใจไปเองและพลเมืองดี 2 คน ตอนแรกมีการแจ้งเจ้าหน้าที่ทางหัวหินด้วย แต่ไม่สามารถจับได้เพราะไม่มีหมายจับ ผมไม่สามารถรอได้เลยไปเอง ตอนเจอครั้งแรกเขาก็อึ้งเหมือนกัน เหมือนเมาด้วย ผมบอกทุกคนที่ไปด้วยว่าห้ามทำร้ายร่างกายเด็ดขาด จากนั้นก็มีการคุยกัน ถามเขาว่าสรุปทำผิดหรือเปล่า เขาก็ยอมรับ ถามเขาต่อว่าจะขึ้นโรงพักที่นี่หรือขึ้นโรงพักที่กรุงเทพฯ เขาบอกขึ้นที่กรุงเทพฯ ก็ขึ้นรถมาที่ สน.ทองหล่อ ทางสน.ทองหล่อ ให้ความร่วมมือช่วยทำสำนวนให้ เขายินยอมโดยดี
ตอนนี้แจ้งข้อหายักยอกทรัพย์ ความเสียหายของผมประมาณหนึ่งล้านบาท เป็นต่างกรรมต่างวาระกัน ผมถามว่าทำไมทำอย่างนี้ เขาบอกว่าติดพนันบอล ผมเซ็งเลยพอบอกติดพนันบอลคิดว่าเงินหมดแล้วแน่ๆ ผมก็ถามต่อว่าเริ่มจากงานแรกเมื่อไหร่ เขาบอกเริ่มเดือนกันยายนเอาไป 70,000 บาทเอาไปแทงบอล คือเป็นช่วงที่ผมทำงานหนักมาก เพราะเพิ่งเปิดหน้ากากมา (The mask singer) คือผมไว้ใจเขามาก พอแทงเสียก็อยากได้คืน ก็เริ่มมาเดือนพฤศจิกายน 360,000 บาท ผมเลยเอ๊ะใจว่าเงินก้อนนี้หายไปไหนเลยไปสอบถามเขา ตอนแรกเจ้าตัวบอกโอนให้แล้ว ผมเลยให้ไปเอาหลักฐานมา เขาก็บ่ายเบี่ยง หลังจากวันนั้นก็หายตัวไป แล้วยังมีงานที่รับไว้ล่วงหน้าที่โอนเงินมาแล้วเต็มจำนวน 3-4 งาน หมายความว่าผมต้องไปเล่นใช้หนี้
วันนี้เท่าที่เจอตัวเขา เขาก็สลด เหมือนคนสิ้นหวัง ไม่มีทางไปแล้ว เราก็เข้าใจเขา ถามว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดหรือเปล่า? ตอนแรกผมโกรธมาก เอามึงตายแน่ สุดท้ายพอมันผ่านไปจริงๆ พ่อตาและผู้ใหญ่ที่นับถือมาให้สติผม ต้องไม่ทำด้วยความเคียดแค้น แค่คนหลงผิดคนหนึ่ง หลงไปเล่นการพนัน ใจจริงผมไม่ได้อยากให้เขาเจ็บหรือไม่ต้องการให้เขาโดนกระทืบ แค่อยากได้เงินคืนและข้อสำคัญ อยากรักษาความรู้สึกดีๆ ยังอยากเชื่อใจคนอยู่ เราไม่อยากเสียสิ่งนี้ไป ต้องมานั่งระแวงทุกคนมันแย่ครับ ถามว่ารู้จักน้องเขามากี่ปีแล้ว รู้จักมาประมาณ 4 ปี เขาทำงานดีมาก แต่ในวงการมีอีกหลายวงที่โดนเขาโกง แต่ผมไม่อยากเอ่ยนาม เขามีประวัติแบบนี้ เพราะเขาติดพนัน แต่ข้อดีเขาทำงานดีมาก
ถามว่าเรียกร้องความรับผิดชอบอะไรจากเขาบ้าง เมื่อกี๊ได้คุยกับครอบครัว ก็ต้องคุยกับครอบครัวเขาว่าจะมีใครรับผิดชอบในส่วนนี้ได้บ้าง เราไม่ได้อยากให้เขาไปติดคุก แต่อยากให้เขาได้รับบทเรียนเบื้องต้น คือน่าจะมีโอกาสยอมความกันถ้าเขาชดใช้เงินคืน วันนี้ต้องฝากขังก่อน แต่เท่าที่ได้คุยกับครอบครัวเขา เขาก็เสียใจ คือเขามาจากครอบครัวที่ดีมาก ทุกคนรักเขามาก กู๊ดเขาก็ยอมรับผิดแล้วถามผมว่าจะเอายังไง ผมเห็นใจ พอเขาถามแบบนี้วันนี้ศาลตัดสินได้เลย เพราะเป็นคดีเลขแดง หลังจากศาลตัดสินแล้วเรามีเวลาไกล่เกลี่ยอีกหนึ่งเดือน ต่อไปจะเลือกผู้จัดการส่วนตัวคงต้องดูเยอะมากขึ้น ต้องขอบคุณ ลิเดีย ที่ส่งผู้จัดการส่วนตัวมาช่วย สุดท้ายอยากบอกลูกค้าทุกคนว่าผมยินดีรับผิดชอบทุกงานครับ”