ทีมปราบคลินิกเถื่อน กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ บุกจับคลินิกย่านจังหวัดปทุมธานี ใช้แพทย์ปลอม ลวงขายยาลดอ้วนชื่อ ฟิต โคลสลี่ อ้างเป็นสมุนไพร มีงานวิจัยความเชื่อถือ ทางไลน์กลุ่มพูดคุยสุขภาพและชวนทดลอง หลังใช้ยาปรากฎมีอาการปวดศีรษะ ท้องเสียอย่างรุนแรง ปากลิ้นชา ใจสั่น นอนไม่หลับ

พร้อมย้ำเตือนประชาชนระวัง การโฆษณาแฝง ในสื่อสังคมออนไลน์ทุกรูปแบบ โดยเฉพาะยาลดอ้วน ขอให้พบแพทย์ที่รพ.หรือคลินิกมีแพทย์รักษาที่มีหลักฐานถูกต้องกฎหมาย และแจ้งเบาะแสที่มือปราบสถานพยาบาลเถื่อนตลอด 24 ชั่วโมง

12380682_1243663075650211_1536193226_o

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2558 ที่จังหวัดปทุมธานี นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรมสบส.)พร้อมเจ้าหน้าที่กองกฎหมาย กรมสบส. ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี เข้าตรวจสอบ คลินิกเมดิซีน ตั้งอยู่เลขที่ 99/111-2 หมู่ 13 อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี

หลังจากได้รับหนังสือร้องเรียนจากประชาชนว่าคลินิกแห่งนี้ได้ทำการเปิดการรักษาโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีการลักลอบจำหน่ายยาลดน้ำหนักที่ได้เพิกถอนทะเบียนตำรับยาไปแล้ว ยี่ห้อฟิตโคลสลี (Fit Closely) โดยอ้างว่าทำจากสมุนไพร มีงานวิจัยรองรับ วิธีการขายจะชวนสมาชิก เข้ากลุ่มไลน์ (LINE) คุยเรื่องสุขภาพ หลังจากนั้นจะชวนทดลองใช้ยา และสั่งซื้อยาดังกล่าวผ่านทางไลน์กลุ่มของคลินิก

นอกจากนี้ยังขยายผลไปถึงกลุ่มอาจารย์มหาวิทยาลัย ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชวนนักศึกษาเป็นตัวแทนจำหน่ายยาดังกล่าวทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ประชาชนที่อยู่ในจังหวัดปทุมธานี นนทบุรี และพระนครศรีอยุธยา หลงเชื่อและซื้อยาไปกินทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ ท้องเสียอย่างรุนแรง ใจสั่น ปากและลิ้นชา นอนไม่หลับ ท้องผูก จึงร้องเรียนไปที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี

12389224_1243663085650210_1098938371_o

นาวาอากาศตรี นายแพทย์บุญเรืองฯ กล่าวว่า จากการตรวจสอบสถานพยาบาลดังกล่าวพบว่าเป็นคลินิกเวชกรรม ซึ่งมี นายสมรัช เรียงเครือ อายุ 32 ปีเป็นเจ้าของสถานที่ เบื้องต้นพบการกระทำความผิด 6ข้อหา ได้แก่

  1. ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541มาตรา 16 มีโทษตามมาตรา 57 จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  2. ดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 มาตรา 24 มีโทษตามมาตรา 57 จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  3. ประกอบวิชาชีพเวชกรรม โดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและรับอนุญาต มีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 มาตรา 26 มีโทษตามมาตรา 43 จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  4. จำหน่ายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 จำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท
  5. จำหน่ายยาโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา มีความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ
  6. ผลิตอาหารโดยไม่ได้รับอนุญาตมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 มีโทษจำคุก 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

12394284_1243663102316875_424602274_o

ของกลางที่ตรวจพบในวันนี้มีมากกว่า 20 รายการ ทั้งผลิตภัณฑ์อาหาร เช่น กาแฟเครื่องสำอาง เช่น สบู่ และวิตามินซีชนิดฉีด และยาลดความอ้วนชนิดแคปซูลบรรจุแผงละ 10 แคปซูล ยี่ห้อฟิตโคลสลี (Fit Closely) จะส่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ดำเนินการตรวจสอบส่วนประกอบหากพบว่ามีสารต้องห้าม จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

“ขณะนี้ กระแสสุขภาพกำลังมาแรง ประชาชนให้ความใส่ใจในกระแสสุขภาพกันมากขึ้นแต่ขณะเดียวกันขอย้ำเตือนประชาชนให้ระมัดระวัง การโฆษณาชวนเชื่อทางสื่อทั้งทีวี หนังสือพิมพ์ นิตยสาร และอินเทอร์เน็ต ซึ่งขณะนี้มักจะแฝงในรูปแบบของเรื่องสุขภาพมากขึ้นและมีรูปแบบทั้งโฆษณาโดยใช้ดารา หรือบุคคลที่มีชื่อเสียงในสังคม มาเป็นผู้แนะนำสนค้า ผลิตภัณฑ์ และนำผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ออกมาพูดถึงผลต่อสุขภาพตนเองหลังใช้เป็นเสมือนผู้ให้การรับรองสรรพคุณแทน

รวมทั้งการตั้งกระทู้ถามทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งอาจจะทำให้ได้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง และอาจจะตกเป็นเหยื่อ หลงเชื่อได้ ดังนั้นประชาชนจะต้องรู้เท่าทัน และเลือกใช้ช่องทางที่ถูกต้องในการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อป้องกันอันตรายจากการใช้บริการ หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้คุณภาพ มาตรฐาน

ซึ่งขณะนี้กรม สบส. ได้จัดทำระบบอำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถตรวจสอบสถานพยาบาลภาคเอกชน/คลินิกได้รับการรับรองมาตรฐาน จำนวน 14,330 แห่ง ในหน้าเว็บไซต์กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ซึ่งกว่า 94เปอร์เซ็นต์มีการระบุพิกัดที่ตั้งชัดเจน จะเร่งทำให้ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2559 นี้” นาวาอากาศตรี นายแพทย์บุญเรืองฯ กล่าว

ด้าน นายแพทย์ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล ผู้ช่วยอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่าในการเลือกรับบริการจากสถานพยาบาล และคลินิกทุกประเภท ขอให้ประชาชนสังเกตหลักฐานต่างๆ ที่สถานพยาบาลจะต้องแสดงตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ดังนี้

  1. มีการแสดงใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล และใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาลไว้ในที่เปิดเผยและเห็นได้ง่าย
  2. ด้านหน้าสถานพยาบาลต้องมีแผ่นป้ายขนาดใหญ่แสดงชื่อสถานพยาบาล ประเภทและลักษณะการให้บริการของสถานพยาบาล รวมทั้งเลขที่ใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาลซึ่งมีเลขจำนวน 11 หลัก
  3. ในส่วนของแพทย์ที่ทำการรักษาจะต้องตรงตามป้าย ที่แสดงรูปถ่ายของผู้ประกอบวิชาชีพหรือผู้ประกอบโรคศิลปะ พร้อมชื่อ-สกุล และเลขที่ใบอนุญาตของแพทย์หรือผู้ประกอบวิชาชีพ โดยต้องตรวจสอบแพทย์ที่ทำการรักษาว่าตรงกับรูปถ่ายที่แสดงหรือไม่ และให้ตรวจสอบข้อมูลจากเว็บไซต์แพทยสภา (www.tmc.or.th)

หากมีข้อสงสัยหรือพบสถานพยาบาลและหมอเถื่อนสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่เว็บไซต์สารวัตรสถานพยาบาลออนไลน์(http://www.mrd.go.th/mrdonline2014),เฟซบุ๊คสารวัตรสถานพยาบาลออนไลน์ (สพรศ.), เฟซบุ๊คมือปราบสถานพยาบาลเถื่อน และสายด่วน สบส. 02-193-7999 ตลอด 24 ชั่วโมง

เรื่องน่าสนใจ