การศัลยกรรมเป็นเรื่องที่น่าสนใจและมักจะมีอะไรให้ฮือฮาในสังคมเสมอ มีคนบางส่วนไม่เห็นด้วยกับการศัลยกรรมเพราะมองเห็นว่าสิ่งที่พ่อแม่ให้มาตั้งแต่เกิดเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ซึ่งตามหลักความเป็นจริงสิ่งที่เป็นธรรมชาติย่อมดีที่สุด แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนบนโลกจะโชคดีกับธรรมชาติของตัวเองเสมอไป และธรรมชาติของจิตใจคนมันโหดร้ายยิ่งกว่าความไม่สวยงามของใบหน้า การล้อเลียนคนอื่นหรือแม้กระทั่งการเรียกจุดเด่นบนใบหน้าของผู้อื่นให้กลายเป็นชื่อแทนตัว อย่างเช่น ไอ้ปากห้อย ไอ้คางยื่น ไอ้จมูกบาน อีดำตับเป็ด ช้างน้ำ ไอ้แหว่ง ซึ่งคำพูดล้อเล่นเหล่านี้มันกลายเป็นสิ่งที่สร้างปมด้อยให้กับคนที่ถูกล้อเลียนโดยไม่รู้ตัว บางทีเค้าอาจจะไม่ได้แย่ขนาดนั้น แต่เมื่อเป็นคำล้อเลียนที่มันตอกย้ำตั้งแต่เล็กยันโต พอโตขึ้นมีเงินมีชีวิตเป็นของตัวเองก็เลยทำศัลยกรรม เพื่อลบปมด้อยของตัวเอง
แต่บางคนก็ไม่ได้เป็นหนักขนาดนั้น แต่รู้สึกว่าถ้าตัวเองได้พบแพทย์ ได้โดนเข็มแล้วมีความสุข! เฝ้ามองใบหน้าของตัวเองแล้วก็ถามว่าทำอะไรอีกได้บ้าง? จากที่เห็นถ้าทำดีสวยหล่อแล้วเปลี่ยนแปลงไปเยอะจากอดีตก็จะโด่งดังตามโลกโซเชียล มีรูป before and after ให้เห็น ทั้งดาราและเน็ตไอดอล สมัยก่อนจะมายอมรับกันน้อยมาก สมัยนี้ยอมรับกันมากขึ้นว่าทำศัลยกรรมมา แต่ก็ยังมีบางคนที่ไม่ยอมรับแถมยังให้เหตุผลแปลกๆ อย่างเช่น แค่ดัดฟัน แค่ติดขนตาปลอม แค่นอนหลับวันละ 8 ชั่วโมง สวดมนต์ก่อนนอน ดื่มน้ำเยอะๆ ทำไมคนดังถึงไม่ค่อยยอมรับเรื่องการศัลยกรรม เพราะเขามองว่าการที่เอาเข็มจิ้มโบท็อกซ์ เติมฟิลเลอร์ ทำเลเซอร์โดยที่ไม่ใช้มีดหมอไม่ถือเป็นการศัลยกรรม
และมีคนจำนวนไม่น้อยที่อยากทำศัลยกรรม ให้ตัวเองดูหล่อดูสวยมากขึ้น เพราะคนเหล่านี้ยอมรับว่ามีผลกับการทำงานและความมั่นใจในตัวเอง จึงไม่แปลกที่เราจะเห็นคลินิกศัลยกรรมกระจายเกลื่อนทั่วไป จากราคาแพงสุดขั้วเหลือเพียงไม่กี่พันบาท ซึ่งนอกเหนือจากราคาที่คนไข้พิจารณาแล้วก็ยังดูจากรีวิวของผู้ที่เคยไปผ่าตัดหรือผลงานของหมอ แต่ใครจะรู้ว่าผลงานนั้นเป็นของจริงหรือไม่? ดีไม่ดีก็ก๊อบรูปมาจากในเน็ต ทำออกมาดีก็ถือว่ารอด แต่ทำออกมาเละแล้วต้องออกรายการให้สัมภาษณ์ก็เพียบ
แต่สิ่งหนึ่งที่บุ๋มแปลกใจก็คือ เวลาที่มีผู้เสียหายโดนทำศัลยกรรมหน้าเละ กลับไม่สามารถลงข่าวพูดชื่อคลินิกและฝีมือหมอได้ ทั้งที่มันควรเป็นสิทธิ์ของผู้บริโภคอย่างเราในการปกป้องตัวเองและรับรู้ข้อมูลข่าวสารว่าหมอไหนดีจริงหรือหมอไหนห่วย
แต่ปัจจุบันเท่าที่เห็นสำหรับคนไข้ที่ร้องเรียน ตอนแรกก็โวยวายอย่างหนัก ซึ่งเราก็พอเข้าใจเพราะใบหน้าพังยับเยิน ไม่สามารถออกไปเจอะเจอผู้คนได้ แต่พอหมอเอาเงินฟาดหัว 50,000 กลับบอกว่ายอมรับได้ (เจ๊ละเซ็ง!!)
แต่ล่าสุดมีข่าวจากกระทรวงสาธารณสุข ได้มีการจับกุมคลินิกคิวดับเบิ้ลยูคลินิกเวชกรรม ซึ่งตั้งอยู่ชั้น 10 ของห้างดังแถวพระราม 9 ตัวคนที่อ้างเป็นหมอจริงๆ จบแค่วิทยาศาสตรบัณฑิตเท่านั้น ซึ่งที่นี่เปิดตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2551 บุ๋มอ่านข่าวแล้วตกใจมากเพราะเปิดมานานมากแล้วทำไมเพิ่งโดนจับ? แต่ก็คิดว่าคงเป็นเพราะเพิ่งมีผู้แจ้ง
สำหรับใครที่อยากร้องเรียนหรือต้องการให้ไปตรวจสอบ สามารถเข้าไปร้องเรียนได้ที่ Facebook มือปราบสถานพยาบาลเถื่อน, Facebook สารวัตรสถานพยาบาลออนไลน์ หรือสายด่วน 02-193-7999 หรือจะตรวจสอบแพทย์ว่าเป็นแพทย์จริงหรือไม่ จากเว็บไซต์ของแพทยสภาhttp://www.tmc.or.th โดยพิมพ์ชื่อนามสกุลของแพทย์ที่ให้บริการ ถ้าชื่อไม่ปรากฏแสดงว่าเป็นหมอเถื่อน ส่วนสถานพยาบาลและคลินิก สามารถตรวจสอบได้จากเว็บไซต์กรมสนับสนุนบริการสุขภาพhttp://hss.moph.go.th โดยพิมพ์ชื่อสถานพยาบาลเป็นภาษาไทยและสะกดถูกต้องก็จะทราบทันที ซึ่งในเว็บไซต์จะบอกจำนวนสาขาและสถานที่ตั้งอย่างชัดเจน (ขอบคุณข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข)
อะไรที่อยากจะดูดีโดยการศัลยกรรม ถ้าทำแต่พอดีรู้จักหยุดรู้จักพอ ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร ทำแล้วมีความสุขก็ทำไป แต่ต้องศึกษาอย่างดีและอยู่อย่างฉลาด ตราบใดที่คุณยังชื่นชมคนแค่ภายนอก เมื่อนั้นก็จะมีคลินิกศัลยกรรมเต็มบ้านเต็มเมือง
ขอขอบคุณที่มาและภาพจากสกู๊ปคนดังนั่งเขียน ไทยรัฐออนไลน์