เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2557 ที่ผ่านมา พล.อ.อ. ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมผู้ประกอบการรถร่วมบริการกับบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ว่า จากข้อมูลพบว่าการเดินรถด้วยรถโดยสารประจำทางไปยังจังหวัดต่าง ๆ มีผู้โดยสารที่ใช้บริการลดน้อยลง โดยเฉพาะเส้นทางไปยังจังหวัดใหญ่ ๆ เช่น เชียงใหม่, ภูเก็ต และบางจังหวัดในภาคอีสาน ทั้งนี้สาเหตุเนื่องมาจากมีสายการบินทุนต่ำอย่าง (โลว์คอสต์แอร์ไลน์) ให้บริการและมีโปรโมชั่นถูก ๆ ออกมามากมาย อีกทั้งยังมีรถตู้มาวิ่งให้บริการอีก

20-104

ส่วนราคาน้ำมันที่ปรับลดลงในตอนนี้ พล.อ.อ. ประจิน กล่าวว่า ยังไม่ขอพูดใด ๆ เพราะไม่อยากชี้นำผู้ประกอบการในการยื่นข้อเสนอเงื่อนไขในการปรับลดอัตราค่าโดยสารให้กับกรมขนส่งทางบก ซึ่งในวันที่ 22 ธันวาคมนี้ จะได้ข้อสรุปชัดเจนเกี่ยวกับการปรับค่าโดยสารทั้งระบบ

พล.อ.อ. ประจิน ยังกล่าวอีกว่า ทางกระทรวงคมนาคมต้องการให้มีมาตรฐานในการเดินรถ เพื่อให้มีความปลอดภัยในการใช้บริการและมีบริการที่ดีต่อผู้โดยสาร ขณะเดียวกันผู้ประกอบการก็ต้องอยู่รอดด้วย จึงต้องมาปรึกษาหารือกันทั้งในเรื่องปรับลดเที่ยววิ่ง, ทำประกันภับประเภทที่ 3 เพื่อเติม เป็นต้น

ในส่วนของสายการบินโลว์คอสต์ลดราคาค่าตั๋วนั้น พบว่า มีไลออนแอร์ทำโปรโมชั่นราคาตั๋วไป จ.ภูเก็ต 650 บาทต่อที่นั่ง ซึ่งค่าก็เท่ากับรถร่วมเลยทีเดียว ดังนั้นตนก็จะต้องดูแลในเรื่องค่าใช้จ่ายขั้นต่ำ ทั้งค่าดำเนินการ ค่าซ่อมบำรุง ค่าบริการของสายการบินโลว์คอสต์ ว่าจริง ๆ แล้วต้นทุนเท่าไร และหากพบว่าค่าโดยสารต่ำกว่าต้นทุน ก็จะต้องถามเหตุผล เพราะถือว่าเป็นการลดราคาที่ต่ำกว่าต้นทุน ทำให้ธุรกิจของทั้งโลว์คอสต์เองและรถโดยสารเองเสียหาย

นอกจากนี้ พล.อ.อ. ประจิน ยังกล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะต้องเร่งพัฒนาระบบขนส่งมวลชนและปรับปรุงสัญญาระหว่าง บขส. กับผู้ประกอบการเอกชนให้มีความเป็นธรรมมากขึ้น และดูแลรถผิดกฎหมายที่วิ่งทับเส้นทาง ส่วนกรณีที่มีนายหน้ามาดึงผู้โดยสารก็ขอมอบให้จัดทีมสำรวจ หากพบผู้กระทำผิดก็จะตักเตือนก่อน และหากทำซ้ำก็จะดำเนินการเอาผิดทางกฎหมายต่อไป

อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการรถร่วมระบุว่า จากการหารือเบื้องต้นกับ นางสุจินดา เชิดชัย หรือ เจ๊เกียว นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์โดยสารนั้น พร้อมที่จะปรับลดค่าโดยสารลง 2 สตางค์ต่อกิโลเมตร ถึงแม้ว่าค่าโดยสารที่เก็บในปัจจุบันจะอยู่ในเกณฑ์ราคาน้ำมันที่เป็นปัจจุบันก็ตาม คือไม่ต่ำกว่า 26 บาทต่อลิตร แต่ทั้งนี้เพื่อคืนความสุขให้ประชาชน ก็ต้องรอการเจรจาเงื่อนไข ที่ต้องการให้กระทรวงคมนาคมเข้ามาช่วยเหลือและลดภาระผู้ประกอบการด้วยว่าจะมีความเป็นไปได้แค่ไหน แต่ล่าสุดเมื่อวานนี้ (19 ธันวาคม) เจ๊เกียว ออกมายืนยันแล้วว่า จะไม่ลดค่าโดยสารแน่นอน เพราะอัตราน้ำมันที่ลดในตอนนี้ก็ยังอยู่ในเรตเดียวกับปี 2555 แถมยังมีรถตู้ สายการบินโลว์คอสต์มากขึ้น จึงจำเป็นต้องใช้อัตราเดิมต่อไป

ขณะที่ นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กล่าวว่าทาง บขส. พร้อมที่จะลดราคาค่าโดยสาร อีก 2 สตางค์ต่อกิโลเมตร เนื่องจากต้นทุนราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่จะลดราคาค่าโดยสารลงเมื่อไหร่และจำนวนเท่าไหร่ ต้องรอฟังนโยบายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมก่อน

ส่วนกำหนดอัตราค่าโดยสาร สำหรับรถโดยสารสาธารณะของรถ บขส. และรถร่วม บขส. ตามการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมันดีเซล ค่าโดยสารปัจจุบัน คำนวณจากราคาน้ำมันดีเซลลิตรละ 28.26 -29.38 บาท ได้แก่..

– ในช่วง 40 กิโลเมตรแรก คิดกิโลเมตรละ 0.53 บาท
– เกิน 40 กิโลเมตรแต่ไม่เกิน 100 กิโลเมตร กิโลเมตรละ 0.48 บาท
– เกิน 100 กิโลเมตร แต่ไม่เกิน 200 กิโลเมตร กิโลเมตรละ 0.44 บาท
– เกิน 200 กิโลเมตรเป็นต้นไป กิโลเมตรละ 0.40 บาท

และหลังจากราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศปรับลดอยู่ที่ลิตรละ 26.87 บาท ส่งผลให้ค่าโดยสารต่อราคาน้ำมันดีเซลอยู่ในช่วง 26.00-27.12 บาท ทำให้ค่าโดยสารต้องลดลงอีกระยะละ 2 สตางค์

– ในช่วง 40 กิโลเมตรแรก เหลือกิโลเมตรละ 0.51 บาท
– เกิน 40 กิโลเมตรแต่ไม่เกิน 100 กิโลเมตร เหลือ 0.46 บาท
– เกิน 100 กิโลเมตร แต่ไม่เกิน 200 กิโลเมตร เหลือ 0.42 บาท
– เกิน 200 กิโลเมตรเป็นต้นไป เหลือ 0.38 บาท

ขอขอบคุณ Kapook

เรื่องน่าสนใจ