จากนโยบายของรัฐบาลให้ทุกหน่วยงาน ระดับ กระทรวง กรม หรือเทียบเท่า ต่างๆ จัดตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียน เพื่อให้ประชาชนได้ใช้เป็นช่องทางแจ้งเบาะแสความเดือนร้อนจากการกระทำ พฤติกรรมต่างๆ ตามภารกิจของหน่วยงานนั้นๆ
ในส่วนกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ( กรม สบส. ) มีภารกิจตามกฏกระทรวงมากมายหลายประการ เป็นองค์กรหลักคุ้มครองผู้บริโภค และส่งเสริมผู้ประกอบการด้านบริการสุขภาพเพื่อประชาชนมีสุขภาพดี ชุมชนมีศักยภาพในการพึ่งพาตนเอง และ พันธกิจ “มุ่งมั่นส่งเสริม พัฒนา และ อภิบาล ระบบบริการสุขภาพให้ได้มาตรฐานสากล
โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง” พร้อมทั้งค่านิยม สบส. ได้แก่ ส.สมรรถนะ เป็นฐาน บ.บริการด้วยใจ ส.ใฝ่สามัคคี ซึ่งมีเป้าหมายในระยะ 5 ปี
People Excellence 1.ประชาชนดูแลสุขภาพตนเองได้ 2.ชุมชนจัดการสุขภาพตนเองอย่างยั่งยืน Service Excellence 1.โครงการพระราชดำริฯ 2.รพ.ผ่านมาตรฐานระบบบริการสุขภาพ ( Green & Clean Hospital ) 3.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ยกระดับสู่สากล 4.ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ
Governance Excellence 1.องค์กร ผ่านเกณฑ์ PMQA 2.องค์กรมีระบบคุณธรรมและความโปร่งใส 3.วิจัย นวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์เพิ่มขึ้น 4.มีกฏหมายส่งเสริมรายได้และ บริการประชาชน
พันธกิจที่ไปพร้อมๆ กัน ซึ่งที่ผ่านมามีปัญหาเรื่อง หมอเถื่อน คลินิกเสริมความงามเถื่อน คลินิกศัลยกรรมเถื่อน และสถานพยาบาลไม่ได้มาตรฐาน ฯลฯ
ทั้งนี้ ศูนย์รับเรื่องราวร้องเรียนของ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ( กรม สบส. ) ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากประชาชน หลายๆ เคส เพราะให้ความสำคัญกับประชาชนทุกๆ คนที่ได้รับความเสียหาย หรือ บุคคลที่แอบอ้างว่าเป็นแพทย์ ถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่ง ทุกข้อร้องเรียนและความคิดเห็นของประชาชน ได้รับการใส่ใจ แก้ไขปรับปรุง ประชาชนสามารถส่งข้อเสนอแนะ หรือ ข้อร้องเรียนได้หลายวิธี
ได้แก่ เดินทางมาด้วยตนเอง พร้อมเอกสารหลักฐาน ที่ ศูนย์รับเรื่องราวร้องเรียนของ ชั้น 2 ของ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ( กรม สบส. ) กระทรวงสาธารณสุข จ. นนทบุรี , เฟสบุ๊คมือปราบสถานพยาบาลเถื่อน, เฟสบุ๊คสารวัตรสถานพยาบาลออนไลน์ และ สายด่วน สบส.
ศูนย์บริการธุรกิจสุขภาพ ในยุค นายแพทย์วิศิษฎ์ ตั้งนภากร อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ( กรม สบส. ) ซึ่งได้บุกเบิกงานสำคัญๆ มากมาย
สำหรับ พระราชบัญญัติสถานพยาบาลฉบับใหม่ ที่ร่าง และ กำลังจะคลอดออกมานั้น มีโทษรุนแรงมาก ทั้งจำคุก และ ปรับเงิน ผู้ประกอบการสถานเสริมความงามต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
โดย “คนไข้” หรือผู้ที่ต้องการเสริมความงาม นายแพทย์วิศิษฎ์ ตั้งนภากร อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ( กรม สบส. ) ได้เน้นย้ำว่าต้องดูแลให้เกิดความปลอดภัยอย่างสูงสุด โดยส่งเสริม และ สนับสนุน การให้ข้อมูลที่ถูกต้อง องค์ความรู้ต่างๆ ผ่านสื่อต่างๆ โดยกรมฯ ได้มีเอกสารเผยแพร่ ทั้งสิ่งพิมพ์ เอกสาร และ สื่อออนไลน์ รวมทั้งสื่อมวลชนต่างๆ
ดังนั้น ผู้ที่อยากป้องกันตนเองจากอันตรายที่เกิดจากการเสริมความงาม และการศัลยกรรมที่แพร่หลายเป็นจำนวนมากในตอนนี้ ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด เราต้องมีสติ พิจารณา ถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ไม่หลงไปกับการโฆษณาอวดอ้างเกินจริง และราคาที่ถูกจนเกินไป เช่น พวกโปรโมชั่นต่างๆ อยากให้ศึกษาข้อมูลและพิจารณาอย่างรอบคอบจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้
หากคุณ ตัดสินใจเลือกคลินิกเสริมความงามแล้ว อย่างแรกเลยต้องตรวจสอบว่าสถานพยาบาลที่เรากำลังจะทำนั้น เป็น “คลินิกเถื่อน หรือ “หมอเถื่อน” หรือไม่ ? โดย มือปราบสถานพยาบาลเถื่อน ให้พิจารณาจากสิ่งต่างๆ ต่อไปนี้
1 มีการแสดงป้ายชื่อสถานพยาบาลและเลขที่ใบอนุญาตจำนวน 11 หลักติดไว้ด้านหน้าสถานพยาบาล 2. มีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลและใบอนุญาตดำเนินการสถานพยาบาล 3. แสดงไว้ในที่เปิดเผยเห็นได้ชัดเจน แสดงหลักฐานการชำระค่าธรรมเนียมประจำปี
4.มีแผ่นป้ายสีน้ำเงินแสดงรูปถ่ายแพทย์ ท่านผู้อ่านต้องสังเกตให้ดีว่าคนที่ให้บริการท่านอยู่นั้นตรงกับรูปแพทย์ที่ติดไว้หน้าห้องตรวจหรือไม่
นอกจากนี้ เข้าไปที่เว็บไซต์แพทยสภา www.tmc.or.th ตรวจสอบว่าใช่แพทย์จริง หรือ แพทย์เถื่อน ขณะเดียวกันเทคโนโลยีที่ไปไกลมาก แต่ทาง ศูนย์รับเรื่องราวร้องเรียนของ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ( กรม สบส. ) ได้มีเครือข่ายติดตามอย่างใกล้ชิด เช่น เว็บไซต์ เฟสบุ๊ค เพจ กรุ๊ปไลน์ ฯลฯ ซึ่งโซเชียลเหล่านี้แม้จะเป็นเรื่องใหม่ แต่สิ่งที่ใหม่กว่าคือ เฟสบุ๊คกลุ่มปิด และ กลุ่มลับ ที่มีสมาชิกระดับหมื่น หรือ แสนคน ซึ่งเป็นช่องทางที่มีการหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ
โดย กลุ่มปิดของเฟสบุ๊คจะมีลักษณะเฉพาะ กดขอเข้าได้ แต่จะไม่เห็นโพสต์ จนกว่าจะขอเข้าได้สำเร็จ ส่วน กลุ่มลับ หาไม่เจอ และจะเข้าได้เมื่อต่อเมื่อมีคนเชิญมาเท่านั้น ซึ่งเทคโนโลยีนี้เครือข่ายจะเข้าไปแฝงตัวและนำเอาผู้กระทำผิดออกมารับโทษ
ขณะที่ ขั้นตอนการรับเรื่องร้องเรียน เจ้าหน้าที่จะเน้นการ รับฟังข้อมูล คุยอย่างเป็นมิตร ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และขอบคุณในทุกความคิดเห็นของผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่ ของศูนย์บริการรับเรื่องร้องเรียนจะพยายามแก้ไขปัญหาต่าง ๆ โดยทันที
หากเรื่องดังกล่าวไม่สามารถแก้ไขได้ในทันที เจ้าหน้าที่จะนำข้อมูลรายละเอียดต่าง ๆ รวมถึงความต้องการของผู้เสียหาย ส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรับผิดชอบโดยตรง เพื่อตรวจสอบและหาทางแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว
ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนจะแจ้งให้ผู้เสียหาย ทราบถึงผลการตรวจสอบและแนวทางการแก้ไขปัญหา ในกรณีที่ต้องใช้ระยะเวลาเพิ่มเติมในการดำเนินการ ศูนย์บริการรับเรื่องร้องเรียนจะแจ้งให้ทราบถึงความคืบหน้าเป็นระยะจนกว่าเรื่องร้องเรียนจะแล้วเสร็จ
อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือประชาชน คนไข้ เน้นการศึกษาข้อมูลที่ถูกต้องจากทางกรมฯ ที่สื่อออกไปอย่างต่อเนื่อง เอกสารหลักฐาน
ทั้งนี้ จากเรื่องร้องเรียนที่ผ่านมา มักมีคลินิกฉวยโอกาสเพราะเห็นแก่รายได้ โดยเฉพาะราคา ค่าบริการที่เป็นคอร์สต่อเนื่องกัน ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นการรักษาผิวหน้า ลดริ้วรอยโดยไม่ต้องผ่าตัด และมักจะแข่งขันกันที่ราคา
ซึ่งหลายคนอาจตัดสินใจซื้อโดยมิได้ไตร่ตรองก่อน อาจมีความเสี่ยงรับบริการจากผู้ที่ไม่มีความรู้ หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ผ่านการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ทำให้เกิดผลเสีย ทั้งติดเชื้อ อักเสบ เสียโฉมซึ่งยากต่อการแก้ไขให้กลับมาเหมือนเดิม สร้างความทุกข์ทรมานในการดำเนินชีวิต
ดังนั้น ศูนย์รับเรื่องราวร้องเรียนของ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ( กรม สบส. ) จะสามารถตอบโจทย์ปัญหาตรงนี้ จำเป็นต้องมีเครือข่ายที่ใกล้ชิดกับแหล่งข้อมูลจริงๆ …ซึ่งจะทำให้ปัญหาลดน้อยลงไป รวมทั้งการเจรจาปัญหาต่างๆ เน้นการปรองดอง ตามภารกิจกรมฯ ที่คุ้มครองผู้บริโภค และส่งเสริมผู้ประกอบการด้านบริการสุขภาพให้ทำธุรกิจอย่างถูกต้อง ได้รับการยอมรับว่า เมืองไทย เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ
เว็บไซต์แพทยสภา www.tmc.or.th ตรวจสอบว่าใช่แพทย์จริง หรือ แพทย์เถื่อน
แผนที่ตั้ง กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ( กรม สบส. ) กระทรวงสาธารณสุข จ. นนทบุรี
รายงานพิเศษโดย คริษฐ์ ขันทอง
สนใจหาข้อมูลและปรึกษาศัลยกรรมได้ที่นี่