ผักบุ้ง นับว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่เรารู้จักมักคุ้นกันดี เพราะมีส่วนช่วยในการบำรุงสายตาได้อย่างที่รู้ๆ กันอยู่เเล้ว แต่จริงๆ แล้ว ประโยชน์ของผักบุ้ง ยังมีมากกว่าที่เราคิดค่ะ
ในบ้านเราสามารถแบ่งออกเป็น 2 สายพันธุ์หลักๆ คือ ผักบุ้งไทย และ ผักบุ้งจีน สำหรับผักบุ้งไทย จะเป็นผักบุ้งสายพันธุ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นเองตามแม่น้ำลำคลอง จึงมียางมากกว่าผักบุ้งจีน ส่วนผักบุ้งจีน จะเป็นพันธุ์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ซึ่งส่วนมากที่นิยมปลูกขายก็คือผักบุ้งจีน เพราะจะมีลำต้นค่อนข้างขาวอวบ ใบเขียวอ่อน ดอกขาว มียางน้อยกว่าผักบุ้งไทย จึงเป็นที่นิยมในการทานมากกว่าผักบุ้งไทย
ผักบุ้ง 100 กรัม จะให้พลังงานถึง 22 กิโลแคลอรี่ และประกอบไปด้วยด้วยเส้นใย วิตามินและแร่ธาตุอื่นๆ เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 แคลเซียม ฟอสฟอรัส และธาตุเหล็ก เป็นต้น ซึ่งผักบุ้งไทยนั้น จะมีวิตามินซีสูงและมีสรรพคุณทางยามากกว่าผักบุ้งจีน แต่จะมีแคลเซียมและเบต้าแคโรทีน น้อยกว่าผักบุ้งจีน หากทานแบบสดๆ ได้ ก็จะทำให้คุณค่าของวิตามินและแร่ธาตุไม่เสียไปกับความร้อนอีกด้วย การทานผักบุ้งเป็นประจำ ก็จะช่วยบำรุงสายตา รักษาอาการสายตาสั้น ตาต้อ ตาฝ้าฟาง ตาแดง และอาการคันนัยน์ตาบ่อย ๆ (หากคุณทำงานที่ต้องจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ หรืออาชีพที่ต้องใช้สายตาบ่อยๆ การทานผักบุ้งเป็นประจำ ก็เป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยเสริมสร้างวิตามินเอให้กับร่างกาย เป็นการทานอาหารเพื่อบำรุงสายตาโดยตรง)
นอกจากนี้ ในผักบุ้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยให้ผิวเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล ช่วยป้องกันและลดโอกาสในการเป็นโรคมะเร็ง เพิ่มศักยภาพในการบำรุงสมอง และเพิ่มความสามารถในการจดจำ มีกากใยมากช่วยในการขับถ่าย ป้องกันการท้องผูก บำรุงโลหิต และช่วยรักษาโรคโลหิตจาง สามารถลดน้ำตาล และคอเรสเตอรอลในเลือด ช่วยลดโอกาสการเกิดโรคเบาหวาน ช่วยให้เจริญอาหาร ช่วยบำรุงหัวใจ ลดการเกิดไขมันอุดตันเส้นเลือด และหัวใจวาย แถมยังมีแคลอรี่ต่ำ เหมาะสำหรับคนที่กำลังควบคุมน้ำหนักอยู่ด้วยค่ะ
แต่มีข้อยกเว้นคือ ผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตต่ำ ควรหลีกเลี่ยงการทานผักบุ้ง เนื่องจากผักบุ้งจะมีคุณสมบัติไปช่วยลดความดันโลหิต จนทำให้ความดันยิ่งต่ำลงไปอีก อาจจะก่อให้เกิดการเป็นตะคริวได้ง่ายและบ่อยขึ้น และทำให้ร่างกายอ่อนแอ
หลาย ๆ คนมักจะชอบกินผักบุ้งจีนมากกว่าผักบุ้งไทย เพราะนำไปผัดแล้วอร่อยกว่ากันมาก ทั้งยังมีใบที่ใหญ่ อ่อนนุ่ม ไม่แข็งเหมือนผักบุ้งไทย แต่ผักบุ้งไทยได้ถูกนิยมนำไปทานดิบ ทานร่วมกับส้มตำและลาบ แต่ผักบุ้งจีนก็ถือได้ว่าเป็นพืชที่มีคุณค่าทางอาหารสูงกว่า รวมไปถึงมีแคลเซียม และเบต้าแคโรทีนมากกว่าผักบุ้งไทย ดังนั้นประโยชน์ของทั้งผักบุ้งทั้งสองประเภทจึงมีในด้านที่แตกต่างกันค่ะ (เลือกทานได้ตามความชอบ)
เห็นคุณประโยชน์มากมายแบบนี้แล้ว ก็ลองคิดเมนูที่ทำจากผักบุ้งเอาไว้ได้เลย ทั้งอร่อย ทั้งมีประโยชน์ แถมราคาถูกมากอีกด้วย แต่ถ้าให้ดีควรทานผักบุ้งสดๆ หรือผักบุ้งลวกก็จะได้ประโยชน์อย่างครบถ้วนกันเลยทีเดียว!
เนื้อหาโดย Dodeden.com