จากกรณีนายนราวุฒิ พวงเกษร หรือ ปอ อายุ 28 ปี บัณฑิตเกียรตินิยมอันดับ 1 คณะบริหารธุรกิจ ม.กรุงเทพ เสียชีวิตอย่างปริศนา บริเวณทางขึ้นภูเขาทอง วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร (วัดภูเขาทอง) จนเวลาผ่านมานานหลายเดือนแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่สามารถฟันธงสาเหตุการตายได้
ความคืบหน้าล่าสุดมีการทำบุญ ทำกุศล ไปให้นายนราวุฒิ พวงเกสร เป็นประจำ ทั้งครอบครัว และเพื่อน หลายๆ คนอยากจะรู้ความจริง อยากจะติดต่อสื่อสารกับนายนราวุฒิให้ได้ เพราะการจากไปแบบนี้มันสร้างความทรมานใจและทิ้งปริศนาไว้มากมาย
ไปป์ วรุตม์ธร ( ขวามือสุด ) เพื่อนสนิทของ ปอ นราวุฒิ ที่เสียชีวิตปริศนาบริเวณทางขึ้นวัดภูเขาทอง
นายวรุตม์ธร ภิรมย์ภรณ์ภักดี หรือ ไปป์ เพื่อนสนิท นายนราวุฒิ พวงเกสร หรือ ปอ กล่าวกับเว็บไซต์โดดเด่นดอทคอมว่า “จนถึงวันนี้ หลังจากที่เพื่อนผมเสียไป ผมเข้าใจดีว่าทั้งตำรวจและทุกฝ่ายก็พยายามหาคำตอบ และทำงานกันอย่างสุดความสามารถแล้ว
แต่ด้วยพยาน หลักฐาน และส่วนประกอบที่จะใช้หาคำตอบในรูปคดีต่าง ๆ มันไม่กระจ่างชัด ทำให้เรื่องที่เกิดขึ้นมันยังคงเป็นปริศนา และยากที่จะหาข้อสรุปจนถึงทุกวันนี้
ถ้าถามผม ส่วนตัวผมเองก็ไม่อยากให้เรื่องมันเงียบหายไปหรอกครับ เพราะถ้าหากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นการทำร้ายร่างกาย และมีคนทำร้ายเพื่อนผมจริง ผมก็อยากให้จับตัวคนที่ทำมาลงโทษในสิ่งที่พวกเขาทำลงไปให้ได้
ผมไม่ได้ถือโทษโกรธ หรืออาฆาตอะไร เพียงแค่อยากรู้สาเหตุว่าทำไปทำไม และเพื่ออะไร แต่ถ้าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเพราะเพื่อนผมทำตัวเอง สิ่งที่ผมพอจะทำได้ ก็คือการทำบุญให้เค้า ทำในสิ่งที่ผมพอจะทำให้เพื่อนผมได้อย่างเต็มที่ที่สุด
จริง ๆ แล้ว ผมเป็นคนไม่ค่อยเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติ ที่หาข้อพิสูจน์ไม่ได้อะไรสักเท่าไร แต่ต้องยอมรับว่า ตอนนี้มันเป็นวิธีเดียว ที่เป็นสื่อกลางทำให้ผมคิดว่ายังได้ติดต่อสื่อสารกับเพื่อนผมได้
ถึงแม้ว่าเค้าจะไม่ได้ตอบอะไรกลับมา เหมือนอย่างที่เคยเป็น แต่มันก็ยังดีกว่าการที่ต้องทำใจยอมรับว่าไม่มีเค้าแล้ว อย่างน้อยที่สุดเค้าก็ยังอยู่ในใจผม ผมยังคิดถึงเค้าได้ในทุก ๆ วัน และถ้าหากเรื่องของบุญกรรม มีจริง ผมเชื่อว่ายังไง เราก็ต้องได้กลับมาเจอกันในสักวัน
สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คือเราจะต้องรักและดูแลคนสำคัญของเรา ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ เพื่อน หรือคนรักให้ดีที่สุด ในขณะที่เรายังมีชีวิตอยู่ เพราะเมื่อใดก็ตามที่เราสูญเสียเค้าไปแบบไม่มีวันกลับ มันทรมานจนบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้เลยครับ
พูดอะไรไป บอกอะไรไปก็ไม่รู้ว่าเค้าจะได้รับรู้ไหม ตัวผมเองเคยมองว่า การสูญเสียคนที่เรารักไป มันก็ไม่ได้ทำใจยากอะไรมากมาย แค่เราต้องเข้มแข็ง แต่พอเกิดกับตัวเองจริง ๆ ก็แทบไปไม่เป็น
ผมรู้ดีว่ามีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้เรื่องของเพื่อนผม เงียบหายไป แต่ผมคิดว่า เรื่อง ๆ นี้มันสามารถเป็นอุทาหรณ์ และ สอนอะไรใครหลาย ๆ คนดีอีกมาก ถ้าผมพอจะทำอะไรได้ ก็ยินดีเต็มที่ครับ”