ปัญหาริ้วรอยใต้ตา กวนใจไม่หาย แก้วิธีไหนก็ไม่ได้ผล ต้องทำยังไงดีนะ? เพราะในปัจจุบันนี้ มีสาวๆ หลายคนที่ต้องพบเจอกับปัญหาริ้วรอยใต้ดวงตาเยอะมาก ยิ่งอายุมากก็ยิ่งเห็นชัด ซื้อครีมทาใต้ตามาหลากหลายยี่ห้อ ก็ไม่เห็นจะได้ผลที่น่าพอใจสักที ไปปรึกษาแพทย์ และทําการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามาแล้ว ก็ยังมีริ้วรอยอยู่ เป็นเพราะอะไร และมีทางแก้ไขไหมนะ?
ดวงตา ไม่ได้เป็นเพียงแต่หน้าต่างของหัวใจนะ ยังเป็นบริเวณที่ฟ้องอายุของเราได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว ซึ่งริ้วรอยรอบดวงตานี้ ก็เป็นปัญหาของใครต่อใครหลายคน ซึ่งสาเหตุนั้นก็เกิดขึ้นแตกต่างกันไปตามแต่ละชั้นของผิว โดยส่วนใหญ่ที่พบนั้น มักจะเป็นจากชั้นไขมันใต้ผิวหนังของบริเวณนี้ลดน้อยลง และประกอบกับผิวบริเวณนี้มีความบางอยู่แล้ว ยิ่งอายุมากขึ้น ก็จะยิ่งเห็นริ้วรอยเด่นชัด
ริ้วรอยนี้ จะมีลักษณะเป็นเส้นครึ่งวงกลมคล้ายวงเสี้ยวพระจันทร์ อยู่บริเวณใต้ขอบตาล่าง และมีความลึกชัดเจน จนทําให้พื้นผิวปกติที่อยู่ระหว่างเส้นขอบตาล่างและร่องนี้ ดูเสมือนโป่งพองย้อยลงมา จนทําให้หลายคนหลงผิดคิดไปว่าเป็นถุงใต้ตาห้อย และไปตัดไขมันในบริเวณผิวใต้ตาที่คิดว่าเป็นถุงนั้น เลยยิ่งทําให้ตาดูลึกไปลงไปอีก
ซึ่งปัญหานี้ สามารถแก้ไขได้ด้วยการเติมฟิลเลอร์ จะทําให้ริ้วรอยนั้นแลดูตื้นขึ้น และบริเวณที่คิดว่าเป็นถุงใต้ตานั้นหายไปโดยไม่ต้องผ่าตัด (เพราะไม่ใช่ถุงใต้ตาจริงนั่นเอง) แต่การเติมฟิลเลอร์นี้ ไม่ครอบคลุมถึงริ้วรอยอีกจำพวกหนึ่ง ซึ่งเกิดระหว่างร่องใต้ตานี้ กับเส้นขอบตาล่าง ซึ่งมักจะเห็นเห็นขีดเส้นเล็กๆ หลายเส้นวิ่งจากมุมตาด้านใน ขนานกับแนวขอบตาดำออกไปทางด้านนอก ริ้วรอยจําพวกนี้ เวลาเรายิ้มก็จะแลดูเส้นยาวยืดออกไปตามแรงกล้ามเนื้อ (ซึ่งต่างจากร่องใต้ตา ก็คือร่องจะแลดูลึกขึ้นเมื่อเรายิ้ม)
ริ้วรอยชนิดนี้ เกิดจากการเสื่อมของผิวหนังในชั้นหนังแท้ มีการเสื่อมสลายของเส้นใยอิลาสตินและคอลลาเจน ทําให้ความยืดหยุ่นของผิวเสียไป การแก้ไขด้วยฟิลเลอร์ จึงอาจจะไม่ใช่คําตอบ เพราะต้องแก้ไขด้วยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว อาจจะโดยการฉีดเดอร์โบทอกซิน (Dermotoxin) หรือที่ฉีดเดอร์มาพ้อยท์ (Dermapoint) , เลเซอร์ในกลุ่มแฟริกชั่นนัล (Fraxional Laser) , C02 fractional laser ก็จะทําให้ผิวหนังแลดูหนาตัวขึ้น ริ้วรอยจางลง โดยอาจใช้ร่วมกับการฉีดโบท็อกซ์บริเวณหางตาด้วยก็ได้
……………………………………………………..
ส่วนครีมบํารุงผิวรอบดวงตานั้น ไม่อาจช่วยแก้ไขปัญหาข้างต้นได้ เพราะปัญหานั้นเกิดในชั้นลึกนั่นเอง แต่ก็ยังมีความจําเป็นอยู่ เพราะผิวหนังชั้นตื้น หรือชั้นหนังกeพร้า ก็คงยังต้องการการปกป้องอยู่ดี และเป็นการชะลอความเสื่อมของผิวบริเวณนี้อีกด้วย
เนื้อหาโดย Dodeden.com
