ที่มา: มติชน

นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมช.คมนาคม กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาขึ้นค่าโดยสารแท็กซี่รอบสองอีก 5% ว่า ยังระบุไม่ได้ว่าการปรับขึ้นค่าแท็กซี่จะเกิดขึ้นภายใน ปีนี้หรือไม่ เพราะต้องรอให้กรมการขนส่งทางบกนำการศึกษาผลกระทบการขึ้นค่าแท็กซี่ และแนวทางปรับปรุงคุณภาพการให้บริการหลังปรับราคากลับมาเสนอ โดยต้องพิจารณาดูผลกระทบอย่างรอบด้าน ทั้งการบริการ ผลกระทบค่าครองชีพประชาชน รวมถึงความเป็นอยู่ผู้ขับแท็กซี่

14500593561450059372l

“แม้ผลการศึกษาเดิมที่ส่งมาให้จะระบุว่า ผู้ขับแท็กซี่ปรับปรุงบริการที่ดีขึ้นและอยู่ในเกณฑ์ที่กระทรวงกำหนด แต่ที่ผ่านมายังเห็นว่ามีประชาชนร้องเรียนปัญหาแท็กซี่เข้ามาต่อเนื่อง ทั้งตามข่าวสื่อมวลชน และโซเชี่ยลมีเดีย ดังนั้นจึงอยากให้กรมการขนส่งฯ ไปดูอย่างละเอียดว่ากลุ่มตัวอย่างที่สำรวจมีความน่าเชื่อถือ และมีจำนวนเพียงพอที่จะเป็นดัชนีชี้วัดประกอบพิจารณาการขึ้นราคาหรือไม่”

รวมถึงให้ไปรวบรวมข้อมูลจากการร้องเรียนผ่าน สายด่วนโทรศัพท์ แอพลิเคชั่น โซลเชี่ยลเน็ตเวิร์ก เช่น เฟซบุ๊ก ด้วย เพื่อให้มีข้อมูลรอบด้านที่สุด ตลอดจนดูต้นทุนค่าเชื้อเพลิง รายได้ของคนขับแท็กซี่จะต้องมาใช้ประกอบการตัดสินใจและประเมินอีกครั้ง

ด้านนายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาปรับปรุงข้อมูลการสำรวจความพึงพอใจการให้บริการแท็กซี่อยู่ โดยคาดว่าจะเสร็จในปีหน้า ดังนั้นในปีนี้จึงไม่มีการปรับขึ้นค่าแท็กซี่รอบสองอีก 5% แน่นอน เนื่องจาก รมช.คมนาคม ต้องการให้เก็บข้อมูลที่ละเอียดมากขึ้น รวมทั้งหาแนวทางการพัฒนาการให้บริการ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาการปฏิเสธผู้โดยสาร ตลอดจนการไม่กดมิเตอร์

“ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะให้ปรับขึ้นค่าโดยสารตามเต็มเพดานที่กำหนดไว้ 5% หรือไม่ เพราะต้องพิจารณาองค์ประกอบหลายด้าน ทั้งเรื่องความพึงพอใจของประชาชนที่ใช้บริการ การไม่ปฏิเสธผู้โดยสาร รวมถึงผลกระทบจากประชาชน”

อย่างไรก็ตามการพิจารณาปรับราคาค่าโดยสารรถแท็กซี่รอบสอง จะไม่เกี่ยวข้องกับอัตราเริ่มต้น โดยคิด ค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 35 บาทเท่าเดิม เมื่อรถวิ่งไปในระยะที่ 2 แล้วจึงจะมีการคิดค่าบริการเพิ่มเติมตามระยะทาง

เรื่องน่าสนใจ