ที่มา: Kapook.com

กลายมาเป็นที่จับตาของผู้คนอีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีภาพของสาว พลอย พลอยพรรณ คุณแม่สาวคนเก่งที่ป่วยหนักถึงขั้นต้องนอนให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาล ในขณะที่ฝ่ายสามีอย่าง ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรลดัล กลับมีภาพว่าไปออกทริปบิ๊กไบท์กับกลุ่มเพื่อนเสียอย่างนั้น 

01
งานนี้ล่าสุด (29 ตุลาคม 2558) รายการข่าวลึกบันเทิงร้อน ทางช่อง 2 จึงได้มีรายงานคำสัมภาษณ์จากปากของสาวพลอยถึงประเด็นดังกล่าว โดย พลอย พลอยพรรณ ระบุว่า ก่อนหน้านี้เธอป่วยจากการติดเชื้อในกระแสเลือด จากนั้นเมื่อออกจากโรงพยาบาลลูกก็ป่วยอีก แล้วเมื่อเธอป้อนลูกก็ใช้ช้อนเดียวกัน ทำให้ตัวเองที่ยังร่างกายไม่แข็งแรงติดเชื้อจากลูกอีกรอบ ก็อยากให้ ปีเตอร์ เข้ามาช่วยดูแลลูกบ้าง เพราะบ้างครั้งเธอก็แอบคิดว่าทำไมต้องเป็นเธอคนเดียวที่ต้องมานั่งดูแลลูกทั้งวันทั้งคืนแบบนี้ เพราะแม้มันจะเป็นหน้าที่แม่อยู่cล้ว แต่หากมีคนเข้ามาช่วยก็จะผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ 

ตอนนี้กำลังใจเพียงอย่างเดียวให้สู้ต่อก็คือลูก ตอนนี้เราไม่อยากใช้คำว่าซิงเกิ้ลมัมเพราะยังไม่ได้หย่า อยากให้ใช้คำว่าคุณแม่ผู้ทุ่มเทมากกว่า ส่วนเรื่องที่มีภาพว่า ปีเตอร์ ไปออกทริปกับคนชื่อ แอนนี่ ซึ่งเคยเป็นข่าวด้วยกันในช่วงที่เธอป่วยนั้น ก็ได้เห็นรูปแล้ว แต่ก็คิดว่าฝ่าย แอนนี่ คงไม่ได้ตั้งใจอะไรให้มันออกมาเป็นแบบนั้น เธอเชื่อว่าคงไม่มีใครที่จะใจร้ายใจดำ ใจหมูใจหมา ขนาดนั้นถ้าเขาตั้งใจเธอก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่คาดว่าฝ่ายนั้นไม่น่าใช่คนแบบนั้น

เอาจริง ๆ ถ้าจะมีภาพเขากับผู้หญิงเราก็ไม่ซีเรียสมาก เพราะเขาอาจจะไม่ได้มีแค่คนเดียว ถ้าไม่ใช่คนนี้ก็ต้องเป็นคนอื่น ถ้าเราต้องมานั่งกังวลว่าเขาจะอยู่กับ แอนนี่ หรือผู้หญิงคนอื่นก็คงไม่มีประโยชน์กับชีวิต อย่างไรก็ตามอยากให้ทุกคนเลิกต่อว่า ปีเตอร์ ได้แล้ว เพราะเมื่อทุกคนไปผลักเขามาก ๆ จนล้ม เขาก็ไม่มีทางลุกได้ อยากให้เปิดทางมีโอกาสให้เขาได้หายใจดีกว่า

ตอนนี้เธอยอมรับว่าไม่ได้คุยกับ ปีเตอร์ มา 5 เดือนแล้วนับตั้งแต่มีข่าว มีคนมาเล่าว่าเร็ว ๆ นี้ฝ่ายนั้นอาจจะเข้ามาเคลียร์ ซึ่งส่วนตัวหากจะเคลียร์กันจริง ๆ อยากให้มีผู้ใหญ่เข้ามาคุยด้วย ไม่อยากให้เคลียร์กันตัวต่อตัว ส่วนกระแสข่าวเรื่องฟ้องหย่า จริง ๆ คนที่ฟ้องน่าจะเป็นฝ่ายเธอไม่ใช่ ปีเตอร์ อย่างไรก็ตามหากเขาอยากหย่าก็คงหย่าไปแล้ว เพราะเขาเคยพูดให้ฟังหลายทีว่าจะแต่งแค่ครั้งเดียว

และถ้าจะถามว่ามีโอกาสกลับมาเป็นครอบครัวกันไหม เธอให้ความเป็นครอบครัวกับเขาในฐานะพ่อของลูกได้ ส่วนความเป็นสามีภรรยา ก็ไม่เป็นไร ยังอยู่บ้านเดียวกันได้ เธอไม่ซีเรียส หรือเขาอยากจะพาแฟนใหม่มาอยู่บ้านเดียวกันเธอก็ไม่ซีเรียสเช่นกัน ตอนนี้งานหลัก ๆ ของเธอก็คือการดูแลลูกให้ดีที่สุด เขาอยากจะทำอะไรก็โอเค แต่หากเขาจะช่วยดูแลลูกอย่างการช่วยเลี้ยงดูในชีวิตประจำวัน หรือช่วยทำงานหาเงินมาสนับสนุน เราก็ยินดี 

เรื่องน่าสนใจ