ป้าศรีเวียง ตันฉาย ผู้คร่ำหวอดวงการนางนามเผยว่า มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2014 แอลลที่ที่ได้ที่สอง เหมาะตำแหน่งมากกว่า นางงามควรงาม ไม่ใช่เฟ้นหาดารา
ทันทีที่ประกาศผลชนะเลิศการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2014 ‘น้องฝ้าย’ เวฬุรีย์ ดิษยบุตร วัย 22 ปี จาก จ.กาญจนบุรี กลายเป็นผู้คว้ามงกฎอันทรงเกียรตินี้ไปครอง และเป็นตัวแทนสาวไทยเข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
แต่เพียงชั่วข้ามคืนได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของคณะกรรมการตัดสินการประกวดฯ ถึงข้อกังขา ‘ล็อกสเปค’ ผลการตัดสินหรือไม่ ด้วยเดิมที ‘น้องฝ้าย’ เคยเป็นอดีตพิธีกรรายการวัยรุ่น ‘สตรอเบอรี่ชีสเค้ก’ และกำลังเป็นนักแสดงหน้าใหม่ทางช่อง 3 จึงปฏิเสธไม่ได้ที่จะทำให้กูรูนางงามหลายคนคิดว่าการได้มาซึ่งมงกุฎปีนี้ย่อมมีเบื้องลึกเบื้องหลังอย่างแน่นอน
‘ป้าศรีเวียง ตันฉาย’ ผู้คร่ำหวอดในวงการนางงามมานับสิบปี ก็เผยว่า
‘ล๊อกสเปค’ หรือไม่ว่า หากมีการวางมวยกันแล้ว เบอร์ 27 ‘เเอลลี่ พิมบงกช จันทร์แก้ว’ มีความเหมาะสมกับตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์มากกว่าเบอร์ 17 ‘ฝ้าย เวฬุรีย์ ดิษยบุตร’ แต่เมื่อผลการประกวดฯ เป็นเช่นนี้ก็ต้องยอมรับ เพราะบางทีผู้ได้รับมงกุฎอาจจะมีข้อดีก็ได้ ประกอบกับคอนเซปต์เวทีนางงามของ ‘คุณแดง’ สุรางค์ เปรมปรีดิ์ มักประกวดเพื่อปั้นเป็นดารามากกว่า ความจริงการประกวดนางงามกับดารามีลักษณะแตกต่างกัน โดยนางงามนั้นควรเฟ้นหาบุคคลที่มีความเหมาะสม ซึ่งค่ำคืนที่ผ่านมาหลายคนสวย โดยเฉพาะเมื่อเหลือ 10 สุดท้าย ในขณะที่ดารานั้นอยากมีคนเป็นเยอะอยู่แล้ว ฉะนั้นนางงามจะต้องงาม
สำหรับสาเหตุนางงามไทยไม่ประสบความสำเร็จในเวทีโลกนั้น ป้าศรีเวียง ชี้ว่าการประกวดนางงามต้องหานางงาม หากเมื่อใดนำความเป็นดารากับนางงามมาอยู่ในคนเดียวกันก็จะออกมาในรูปแบบนี้ บางทีกองประกวดฯ อาจไม่ซีเรียสก็ได้ ขอเพียงให้คนไทยได้มีส่วนร่วมในเวทีก็พอ
“เมื่อคณะกรรมการตัดสินแล้วก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ส่วนตัวคิดเพียงว่า ‘คงไปคาดสายสะพายบนเวทีมิสยูนิเวิร์สเท่านั้น แต่โอกาสจะได้รางวัลกลับมาคงยากเกิดขึ้น’ เพราะเท่าที่เห็นมายังไม่เคยมีมิสยูนิเวิร์สคนใดรูปร่างเตี้ยเลย” ป้าศรีเวียง ทิ้งท้าย .