ตร.อุดรฯสืบจนรู้ตัวแก๊งขโมยกะโหลกผีตายโหง รวบสาวลูกศิษย์หมอผี สารภาพนั่งรถไปทุบเบ้าขโมยจากในวัด ผงะเข้าค้นสำนัก ‘อาจารย์อ๋อง’ กับ ‘อาจารย์อึ่ง’ คู่หูจอมอุบาทว์ เจอหม้อเคี่ยวสมองกับหนังศีรษะทำน้ำมันพราย ส่วนหมอผีทั้งสองเผ่นไปแล้ว…
จากกรณีมีคนร้าย 3 คน ขับรถเก๋งสีขาว เข้าไปทุบเบ้าปูนเก็บศพภายในวัดนาเมืองไทย ต.น้ำโสม อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี ลักกะโหลกศพนายธีระพงษ์ ศีรบุรินทร์ อายุ 27 ปีที่ผูกคอตายในสวนยางซึ่งถือว่าเสียชีวิตผิดธรรมชาติ หรือตายโหง ตามธรรมเนียมของชาวบ้านในพื้นที่จะนำศพไปฝังไว้ครบ 3 ปี จึงจะขุดขึ้นมาทำพิธีฌาปนกิจ แต่มีชาวบ้านไปกรีดยางผ่านมาพบเบ้าปูนถูกทุบและกะโหลกศพได้หายไป จึงแจ้งญาติและตำรวจ ออกสืบสวนตามไล่ล่าแก๊งหมอผีตั้งแต่เมื่อเช้าวันที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา ตามข่าวที่เสนอมาโดยลำดับนั้น
ต่อมาในเวลา 22.00 น. วันที่ 21 ก.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจ จ.อุดรธานี ได้สืบทราบว่า 1 ในแก๊งคนร้ายลักศพคือน.ส.บังอร หรือออม ศรีนานาม อายุ 27 ปี จึงเชิญตัวมาโรงพักทำการสอบสวน น.ส.บังอร ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับนายณรงค์ ภูมิภูชิต หรืออาจารย์อึ่ง อายุ 35 ปี และนายอาทิตย์ คงกะเรียน หรืออาจารย์อ๋อง อายุ 35 ปี ซึ่งอาจารย์ทั้ง 2 คน เปิดสำนักหมอผีจอมขมังเวท รับทำไสยศาสตร์ มนต์ดำ ทำเสน่ห์ ลักหัวกะโหลกศพไปจริง
ทั้งนี้ น.ส.บังอร ให้การว่า ตนเป็นลูกศิษย์ของนายอาทิตย์ เพราะเลื่อมใสศรัทธา และชอบเรื่องไสยศาสตร์ มนต์ดำ ทำเสน่ห์ ส่วนนายอาทิตย์กับนายณรงค์ นั้นเป็นเพื่อนกัน เมื่อตอนเช้าวันที่ 13 ก.ย. ที่ผ่านมานายณรงค์ได้โทรศัพท์ชวนนายอาทิตย์ให้ไปเอาของดี คือกะโหลกผีตายโหง นายอาทิตย์นึกว่า มีกะโหลกผีตายโหงรออยู่แล้ว จึงชวนตนขับรถเก๋งมาสด้า 2 สีขาว หมายเลขทะเบียน กง 9946 อุดรธานี ไปเอาของดีด้วยกัน เมื่อไปถึงบ้านนายณรงค์กลับบอกว่าต้องไปทุบเบ้าเอากะโหลกผีตายโหงที่วัดนาเมืองไทย ต.น้ำโสม จากนั้นจึงพาขับรถไปดูหลุมศพเป้าหมาย แต่ยังไม่ได้ลงมือ เพราะยังไม่ถึงวันที่กำหนดไว้ จึงไปพักอยู่บ้านนายณรงค์ เพื่อรอให้ถึงวัน
น.ส.บังอร ให้การต่อว่า กระทั่งเช้าตรู่วันที่ 15 ก.ย. พวกตนได้กลับไปที่วัดนาเมืองไทย และนำอุปกรณ์ไปทุบเบ้าเพื่อเอากะโหลกศีรษะศพนายธีระพงษ์ ศรีบุรินทร์ อายุ 27 ปี ที่ผูกคอตายเมื่อ 3 เดือนก่อน โดยนายณรงค์ เป็นคนทุบเบ้าปูน ส่วนนายอาทิตย์กับตนยืนดู จนนายณรงค์ได้หัวกะโหลกขึ้นมา จึงนำขึ้นรถกลับไปที่บ้านนายณรงค์ และผ่ากะโหลกแบ่งชิ้นส่วนกันคนละครึ่ง เสร็จแล้วได้กลับมาที่บ้านนายอาทิตย์ ซึ่งนายอาทิตย์บอกกับตนว่าจะนำไปทำน้ำมันพราย ขี้ผึ้งเสน่ห์ ส่วนปั้นเหน่ง หรือชิ้นส่วนกะโหลกตรงกลางหน้าผาก จะมีคนมารับซื้อในราคา 5 หมื่นบาท
ภายหลังสอบสวน น.ส.บังอร แล้ว ต่อมาเวลา 06.00 น.วันที่ 22 ก.ย. พ.ต.ท.มานิตย์ แก้วเจริญ สว.สส.ภ.จ.อุดรธานี ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านนายณรงค์ หรืออาจารย์อึ่ง พบว่านายณรงค์ ได้หลบหนีไปแล้ว จากการตรวจค้นพบหิ้งบูชา พบผ้ายันต์ โถบรรจุขี้เถ้า 5 โถ ของเหลวคล้ายขี้ผึ้ง 1 ขวด กล่องพลาสติกใส่ดินและเถ้าถ่าน ขวดโหลบรรจุเศษกระดูก เครื่องรางของขลัง และอุปกรณ์ประกอบพิธีไสยศาสตร์ มนต์ดำ นอกจากนี้ยังพบหนังศีรษะและสมองมนุษย์อยู่ในหม้อต้ม จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน
จากนั้นเวลา 10.00 น. วันเดียวกัน ร.ต.อ.วิบูลย์ นนทะแสง รอง สว.สส.ภ.จ.อุดรธานี นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านนายอาทิตย์ หรืออาจารย์อ๋อง ที่ตั้งเป็นสำนักฤาษีนครมนต์ โดยมีนายนิรันดร เทศฉิม อายุ 51 ปี ประธานชุมชนเก่าน้อย นำเข้าตรวจค้น แต่นายอาทิตย์ไหวตัวทันหลบหนีไปแล้วเช่นกัน จากการตรวจค้นพบไหดินเผาพร้อมผ้าปิด 2 ใบ โถแก้วใส่รูปปั้นชายหญิงมัดด้วยสายสิญจน์เส้นผมมนุษย์ 1ใบ ขวดน้ำมันพราย 10 ขวด มีดดาบ 2 ฟุต 2 เล่ม สายสิญจน์ 2 ม้วน หน้ากากทองเหลือง 1 ชิ้น แผ่นทองเหลืองลงยันต์ 1 แผ่น จีวร 1 ผืน ป้ายโฆษณา 1 แผ่น จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน
ด้านนายนิรันดร เทศฉิม ประธานชุมชนเก่าน้อย กล่าวว่า นายอาทิตย์กับภรรยามาอยู่เช่าบ้านหลังนี้อยู่ได้ประมาณ 1 ปี จากนั้นได้ขนอุปกรณ์มาตั้งสำนักได้ 3 เดือน มีลูกค้ามาสักยันต์ ลงอักขระ ครอบครู บูชาเครื่องรางของขลังเสนห์ยาแฝดไม่ขาดสาย โดยเฉพาะเมียฝรั่งมาทำจำนวนมาก นอกจากนี้ วัยรุ่นหญิงชาย สาวแก่แม่ม่ายก็มา ช่วงเย็นวานนี้ตนพบเห็นนายอาทิตย์และภรรยาขับรถปิกอัพสีขาวออกจากบ้านไปแล้วไม่กลับมาอีก สงสัยว่าจะไหวตัวหลบหนีไปแล้ว
ขณะที่ พ.ต.ท.มานิตย์ แก้วเจริญ สว.สส.ภ.จ.อุดรธานี เเผยว่า นายณรงค์และนายอาทิตย์ เปิดสำนักจอมขมังเวท รับทำเสน่ห์ คุณไสย มีความสนิทสนมคุ้นเคยกันและพากันตระเวนหาของขลัง โดยเฉพาะศพตายโหงในป่าช้ามาประกอบพิธี นำกะโหลกมาเจาะปั้นเหน่งขายให้กลุ่มนิยมเครื่องรางของขลัง
ส่วนสมองและหนังศีรษะจะมาต้มเคี่ยวทำน้ำมันพรายและขี้ผึ้งเสน่ห์บรรจุขวดขาย ซึ่งลูกค้าส่วนมากจะเป็นกลุ่มเล่นคุณไสย เนื่องจากเชื่อว่าสิ่งของเหล่านี้จะช่วยในการปกป้อง คุ้มครอง รวมถึงกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่นำไปบูชาเพื่อการค้าจะได้เจริญรุ่งเรือง ซึ่งตำรวจจะนำกะโหลกและชิ้นสมองที่ตรวจยึดได้ ไปตรวจดีเอ็นเอ ส่วน น.ส.บังอร ได้แจ้งข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ และเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับนายณรงค์กับนายอาทิตย์ หมอผีขโมยศพมาดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ เมื่อกลางเดือนเม.ย.58 ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายลอบเข้าๆชไปขุดศพในป่าช้าบ้านโนนสา ต.นาม่วง อ.ประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี ลักกะโหลกศพไปจำนวน 2 ศพ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้ 4 คน โดยมีพระรูปหนึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง อ้างว่านำกะโหลกไปเจาะเอา ‘ปั้นเหน่ง’ ขายให้กลุ่มที่ทำเครื่องรางของขลัง ส่วนที่เหลือได้นำไปโยนทิ้งน้ำ จนเป็นข่าวฮือฮามาแล้วครั้งหนึ่ง.
