ใครที่กำลังหาทางลดความอ้วนด้วยวิธี “กินยาลดน้ำหนัก” ควรระวังให้ดี หลายครั้งที่มีกรณีของผลกระทบจากการใช้ยา รวมไปถึงอันตรายที่เกิดจากการกินยาที่มีสารอันตรายอยู่ โทษของมันนั้นไม่คุ้มกับเงินที่เสียไปเลย วันนี้โดดเด่นมีอีกหนึ่งรายที่เคยเกิดปัญหาเกี่ยวกับ ยาลดความอ้วนมาฝาก
สมาชิกหมายเลข 1189989 จากเว็บไซต์พันทิพ ได้มาบอกเล่าประสบการณ์ว่า เมื่อสมัยอยู่ ม.4 (อายุ16) เป็นคนที่สูง 165 และอยากมีรูปร่างและน้ำหนักให้อยู่ในหลัก 4 เหมือนกับดาราที่หุ่นเล็กๆ เลยใช้การลดน้ำหนักด้วยการ กินยาลดความอ้วนเป็นครั้งแรก เพราะด้วยความเป็นเด็กจึงทำให้ไม่ได้ศึกษาถึงผลกระทบของมัน
ครั้งแรกที่กินยา กินอะไรก็อิ่มเร็ว เบื่ออาหาร ไม่หิวเลยทั้งๆที่ปกติจะหิวบ่อยมากตอนนั้นทานไปวันละ 2เม็ด 1เดือนน้ำหนักจาก 55เหลือ 51ตอนนั้นดีใจมากค่ะ มีแต่เพื่อนทักว่าผอมลง ไปทำไรมาเราก็ไม่กล้าบอกความจริงกลัวเพื่อนห้าม เลยบอกว่าอดอาหาร
แต่หลังจากนั้นก็เลิกกินยา กลายเป็นว่าตัวเองกลับมากินอาหารแบบเดิม กินจุกจิก ทำให้น้ำหนักกลับมาเท่าเดิมอีกครั้ง เลยหันกลับมากินยาลดความอ้วนตัวเดิม แต่คราวนี้เกิดอาการข้างเคียง จากที่เป็นคนความจำดีหัวไว เริ่มรู้สึกสมองมันตื้อๆ รับอะไรหนักๆไม่ได้ แอบปวดหัวนิดๆ แต่ไม่รู้ว่ามันเป็นผลจากยาลดความอ้วน เลยกินต่อจนหมดกระปุกไป เพราะน้ำหนักมันลดลงเหลือ 51 อีกครั้ง
แต่ผลมันค่อยๆรุนแรงขึ้น สมาธิสั้น หลงๆ ลืมๆ สมองแทบรับอะไรไม่ได้ ทำให้รู้ว่ามันอาจเป็นผลจากยาลดความอ้วน ก็เลยหยุดการใช้ยา หันมาพยายามลดเอง กินน้อยบ้าง ออกกำลังกายบ้างแต่เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงปิดเทอม เพื่อนก็ชอบชวนออกไปเที่ยวกิน น้ำหนักเลยขึ้นจาก 51 เป็น 55 เพราะเหตุนี้ทำให้หันมาพึ่งยาลดน้ำหนักอีกครั้ง แต่เปลี่ยนเป็นของยี่ห้ออื่นแทนหลายตัว
แต่พอได้รับมากๆร่างกายเริ่มต่อต้านเพราะเราได้รับสารอาหารไม่ครบทำให้เราเบลอ มึน ความจำไม่ดี นอนไม่หลับ สมองช้าขึ้นสมาธิสั้น ทำอะไรนานๆไม่ค่อยได้ เป็นโรคซึมเศร้าการเคลื่อนไหวช้าขึ้นเหมือนคนเป็นพาร์กินสัน เรามารู้ทีหลังว่ายามันทำลายสมองและลามไประบบประสาทค่ะซึ่งอาการเหล่านี้คือผลที่ตามมาในระยะยาวค่ะ จขกทโดนมาหมดแล้วนั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เราหยุดยาพวกนี้เพราะเริ่มกล้วผลข้างเคียง
การกินยาลดความอ้วนทำให้ผอมในช่วงเวลาสั้นๆแต่หลังจากนั้นคือผลระยะยาวของมัน นั่นคือ
ร่างกายสูญเสียกล้ามเนื้อไปมาก ออกกำลังกายเท่าไรก็ไม่ดีขึ้น ดูย้วยๆ กล้ามเนื้อน้อยกว่าไขมัน
และไขมันนั่นแหละค่ะที่ทำให้ร่างกายเราดูย้อยๆไม่กระชับ
ดังนั้นสิ่งที่เราต้องการบอกทุกคนก็คือ
1. อย่าอดอาหารแบบหักดิบ พวกสูตร 5วัน 5โลไรนั่นล้มเลิกเลยค่ะ เพราะน้ำหนักที่หายไปนั่นก็คือน้ำและกล้ามเนื้อ ส่วนเจ้าไขมันจะเป็นพลังงานสุดท้ายที่ร่ายกายจะเผาผลาญออก ถ้าคุณกลับมากินเท่าเดิมน้ำหนักคุณก็เท่าเดิม
2. อย่ากินยาระบายอย่างที่บอก ร่างกายจะขับของเสียกับน้ำเท่านั้น น้ำหนักหายไปก็จริงแต่ถ้ากล้บมากินปกติมันก็เท่าเดิมอ่ะคุณ เพราะที่หายไปก็น้ำล้วนๆ ไม่ใช่ไขมัน!!
3. อย่าออกกำลังกายหักโหมจนลืมโปรตีน ในวันหนึ่งเราควรจะกินโปรตีนให้เท่าน้ำหนักตัวถึงจะเพียงพอต่อร่างกาย ยิ่งออกหนักก็ควรรับโปรตีนเบิ้ลไปอีกเพื่อไปบำรุงให้มากกว่าเดิมเพราะร่างกายสูญเสียกล้ามเนื้อจากการออกกำลังกายไปมาก ดังนั้นอย่าปล่อยให้ร่างกายหักโหมเพราะไม่งั้นแทนที่คุณจะสุขภาพดี จะยิ่งกลายเป็นแย่กว่าเดิม
4. หันมาเวทเทรนนิ่งดีกว่า การเวทเทรนนิ่งเป็นอีกตัวเลือกที่ดีในการลดความอ้วน เพราะเป็นการเสริมสร้างกล้ามเนื้อและบริหารอย่างตรงจุด หากเรามีความสม่ำเสมอกับมัน แน่นอนค่ะรูปร่างคุณจะเฟิร์มขึ้นแน่นอน เวทเทรนนิ่งก็คือพวก ซิทอัพ สควอท ไรพวกนั้นค่ะคือการต้านแรงตัวเอง มันจะอาจจะเหนื่อยในช่วงแรกๆนะค่ะ แต่สู้ต่อไปเถ่อะค่ะ ผลลัพธ์จะตามมาแน่นอนยิ่งมีกล้ามเนื้อเยอะและเเข็งเเรงมากเท่าไหร่ ไขมันก็จะค่อยๆลดลงอย่างแน่นอนค่ะระบบเผาผลาญก็จะดีขึ้นเพราะกล้ามเนื้อแข็งแรง ดังนั้น กินเยอะเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนเพราะระบบเผาผลาญทำงานดี
5. การกินสำคัญที่สุด อาหารเป็นตัวเลือกที่สำคัญมากในการลดความอ้วน และอาหารที่ควรทานที่สุดในช่วงลดความอ้วนนั่นก็คืออาหารคลีนค่ะหรือพวกอาหารที่ไขมันน้อยๆ บางคนบอกว่าวันนี้ทานน้อยแต่ทานมาม่า บอกไว้เลยมาม่ามีไขมันไม่ดี ถ้ากินแล้วใช้น้อยร่างกายก็จะสะสมและเก็บไว้ในรูปของไขมัน ดังนั้นควรกินไขมันดีจากถั่ว ข้าว โฮลวีตจะดีกว่าเพราะร่างกายจะสามารถนำไปใช้ได้อย่างเต็มที่ และไขมันดีเหล่านี้ก็จะไปทำลายไขมันเลวด้วยค่ะ
ใช้น้อยกว่าที่กิน=อ้วน
ใช้มากกว่าที่กิน=ผอม
6. หมั่นดูแคลอรี่เวลาจะทานอาหารควรจะศึกษาแคลอรี่ไว้ให้มาก เลือกที่มีแป้งกับไขมันให้น้อยที่สุด
อย่ากินน้อยกว่าพันแคลนะคะ ไม่งั้นร่างกายจะเคยชินที่จะเผาผลาญอยู่ที่พันแคลเมื่อคุณกลับมากินเท่าเดิม แล้วเกินพันแคล ส่วนเกินเหล่านั้นจะถูกเก็บไว้ในรูปของไขมันเพราะฉะนั้นผญที่จะลดควรอยู่1500แคล แล้วควรจะเน้นที่โปรตีนกับผักเป็นหลักอย่าเน้นไขมันกับคาร์โบไฮเดรตมากไม่งั้นถึงให้กินน้อยยังไงคุณก็ไม่ผอมหรอกค่ะ
7. อย่าลดน้ำหนักแต่จงลดความอ้วน น้ำหนักลดแล้วไงถ้าที่ลดไปดันเป็นกล้ามเนื้อและน้ำในร่างกาย ดังนั้นอย่าสนตาชั่งแต่จงสนรูปร่างแทนค่ะ บางคนน้ำหนักเยอะแต่เพรียว กระชับกับอีกคนน้ำหนักน้อยแต่ดูย้วยๆ บวมๆ นั่นแหละจะเป็นตัวชี้วัดว่าใครผอมกว่าใครกันแน่
8. เลิกกินยาลดน้ำหนัก ถ้าอยากผอมในระยะสั้นๆแต่อ้วนในระยะยาวก็กินไปเลยค่ะ พวกที่กินแล้วไม่หิวก็เพราะมันกดประสาทค่ะคุณพวกบล็อคไขมันนั่นก็ทำให้ท้องอืดท้องเฟ้อได้ง่ายเพราะไปบังคับร่างกายให้ผิดปกติ ดังนั้นหากใครที่อยากผอมระยะยาวสิ่งที่คุณต้องทำก็คือ การกิน และการออกกำลังกายเท่านั้น
สุดท้ายสำหรับใครที่อยากลดน้ำหนัก ลองหันมาดูแลสุขภาพตัวเอง ทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายควบคู่ไปกับการควบคุมอาหาร จะได้ผลที่ดีกว่าการหันไปพึ่งยาลดน้ำหนัก ได้สุขภาพที่ดี กล้ามเนื้อรูปร่างสวยด้วย การใช้ยาลดน้ำหนักผลของมัน ร้ายแรงและตกค้างระยะยาว บางรายอาจถึงขั้นเสียชีวิตเหมือนที่เป็นข่าวบ่อยๆ ได้เลยนะคะ โดดเด่นเป็นห่วง