ผลการวิจัยใหม่ พบ เชื้อไวรัสอีโบลาสามารถอยู่ในอสุจิของผู้ชายที่หายป่วยจากการติดเชื้อไวรัสมรณะ อีโบลา นานสุดถึง 9 เดือน เตือนผู้ชายที่เคยติดเชื้ออีโบลาต้องสวมถุงยางอนามัยระหว่างมีเพศสัมพันธ์
เมื่อวันที่ 15 ต.ค.58 สำนักข่าวต่างประเทศเผยแพร่รายงานที่ตีพิมพ์ลงในวารสารการแพทย์นิว อิงแลนด์ ระบุ เชื้อไวรัสมรณะอีโบลา สามารถมีชีวิตอยู่ในอสุจิของผู้ชาย ซึ่งรอดชีวิตจากการติดเชื้ออีโบลา ได้นานสุดถึง 9 เดือน และที่น่าวิตกก็คือ ผลจากการศึกษาวิจัยอีกเรื่องหนึ่ง ยังพบว่า เชื้อไวรัสอีโบลาสามารถติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายที่รอดชีวิตจากการติดเชื้ออีโบลาในช่วง 6 เดือนด้วย
จากการศึกษาวิจัยที่ตีพิมพ์ลงในวารสารการแพทย์นิว อิงแลนด์ พบว่า 2 ใน 3 ของผู้ชายที่หายป่วยจากการติดเชื้ออีโบลา ยังคงมีไวรัสอีโบลาอยู่ในอสุจิ อีกทั้งผู้ชายที่รับการวิจัย จำนวน 1 ใน 4 มีไวรัสอีโบลาในอสุจินานถึง 9 เดือน หลังติดเชื้ออีโบลา ด้วยเหตุนี้ จึงมีการรณรงค์เรียกร้องให้ผู้ชายที่หายป่วยจากการติดเชื้ออีโบลา ควรสวมถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์
ก่อนหน้านี้ เคยมีนักวิจัยหลายคนได้วิเคราะห์รหัสพันธุกรรมของไวรัสอีโบลาในอสุจิของผู้ชายคนหนึ่งในประเทศไลบีเรีย และเลือดของผู้หญิงที่เขามีเพศสัมพันธ์ด้วย ปรากฏว่าหญิงที่หลับนอนกับชายคนดังกล่าวติดเชื้ออีโบลาโดยตรงจากผู้ชายคนนี้ ซึ่งในรายงานดังกล่าวยังระบุด้วยว่า ไวรัสอีโบลาสามารถอยู่ในอสุจิของผู้ชายอย่างน้อย 179 วันหลังจากชายคนดังกล่าวแสดงอาการติดเชื้ออีโบลา
ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก เคยระบุถึงการติดต่อของเชื้ออีโบลาผ่านการมีเพศสัมพันธ์นั้น เป็นเรื่องยาก แต่ผลการวิจัยดังกล่าวที่ตีพิมพ์ลงในวารสารการแพทย์นิว อิงแลนด์ จึงถือเป็นความแตกต่างจากรายงานของอนามัยโลก ซึ่งเรื่องนี้จะต้องมีการศึกษาวิจัยในระยะยาวต่อไป