ในยุคปัจจุบันนี้ หากพูดถึงเรื่องของการทำ ศัลยกรรม เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ บนร่างกาย ถือว่าเป็นเรื่องที่ธรรมดามาก ๆ ซึ่งแน่นอนว่า ผลข้างเคียง จากการทำศัลยกรรมนั้นก็มีเพิ่มขึ้นเช่นกัน เพราะอัตราการทำศัลยกรรมพลาสติกที่ค่อยๆ สูงขึ้นในทุกๆ ปี จากทั่วโลก
ความเพอร์เฟคของเหล่าดารา เซเลบบริตี้หลายคนที่ผ่านการทำศัลยกรรม และบรรดาคลินิกต่างๆ ที่ขยันออกโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดใจลูกค้า เหตุผลเหล่านี้เองที่ทำให้เราๆ เริ่มอยากที่จะทำศัลยกรรมกับเขาบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการทำจมูก คาง ตาสองชั้น หรือแม้แต่การทำศัลยกรรมที่แอดวานซ์ขึ้นไปอีกอย่างการผ่าตัดแปลงเพศ
แต่ก็ใช่ว่าเราทุกคนจะโชคดี ทำครั้งเดียวจบเสมอไป เพราะการทำศัลยกรรมให้ออกมาสวยและเป็นที่พอใจได้นั้น บางคนก็ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งเดียว อาจจะต้องแก้ซ้ำๆ ซากๆ หลายรอบ หรือเกิดพิษจากการทำศัลยกรรมที่ทำให้ต้องจิตตกพอสมควร เพราะฉะนั้น การศึกษาหาข้อมูลก่อนที่จะทำศัลยกรรมนั้นจึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญ การหาข้อมูลอย่างระมัดระวัง ข้อดี-ข้อเสีย จะช่วยให้คุณได้รับรู้ถึงพิษของการทำศัลยกรรมที่อาจจะมีหลายคนก่อนหน้านี้ประสบพบเจอมา เพราะผลข้างเคียงของการทำศัลยกรรมนั้นไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ถ้าเกิดข้อผิดพลาดขึ้นมาเมื่อไหร่ โอกาสที่จะแก้ไขให้กลับไปสวยได้เหมือนเดิมก็อาจจะเป็นเรื่องที่ยาก เอาล่ะ! ลองมาดูกันดีกว่าว่า ศัลยกรรมประเภทไหนบ้างที่เราควรระวังเป็นพิเศษ
ร้อยไหมเพื่อให้หน้ายก ตึงกระชับ อาจได้ริ้วคลื่น
การร้อยไหม เป็นหนึ่งในนวัตกรรมใหม่ที่มีผู้คนให้ความสนใจเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ซึ่งการร้อยไหมเป็นการยกกระชับใบหน้าด้วยไหมละลาย โดยสอดเข้าไปไต้ผิวหนัง เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและระบบการไหลเวียนของโลหิต เพื่อให้ร่างกายในส่วนนั้นได้ตอบสนองด้วยการสร้างคอลลาเจน ทําให้ผิวแลดูกระชับขึ้น โดยผลข้างเคียงที่สามารถพบได้หลังจากการร้อยไหม ได้แก่ปวด บวม ตึงกล้ามเนื้อ ฟกช้ำ ห้อเลือด ซึ่งอาการเหล่านี้สามารถหายได้เองภายหลังจากการร้อยไหมประมาณ 1-2 สัปดาห์ ทั้งนี้ขึ้นกับสภาพการฟื้นตัวของผิวของแต่ละบุคคล ซึ่งผลข้างเคียงจากการร้อยไหมที่ไม่ถูกวิธี ไม่ได้รับการทำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือจากสถานบริการที่ไม่ได้มาตรฐาน ก็อาจจะเกิดผลข้างเคียงตามมาได้ เช่น หากแพทย์ไม่ได้ทำการวิเคราะห์ปัญหาผิวหน้าก่อนลงมือทำ ใส่เส้นไหมมากเกินไป ในอนาคตอาจจะทำให้เกิดการดึงรั้งจากพังผืดที่อยู่ใต้ผิว ทำให้ใบหน้าเกิดเป็นริ้วคลื่นดูไม่น่ามองได้ บางคนอาจมีปัญหาปลายไหมโผล่ออกมา อีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญคือ การร้อยไหมทองคำที่ดูจะเป็นที่นิยมมาก ซึ่งความจริงเเล้วไหมที่มีส่วนผสมของทองคำนั้นถือว่าค่อนข้างอันตรายค่ะ เพราะโลหะหนักในไหมทองคำนั้นถือว่าเป็นสารอนุมูลอิสระอย่างหนึ่ง อาจจะทำให้เกิดการอักเสบ ติดเชื้อจนยากที่จะแก้ไขได้
ศัลยกรรมปลูกผมก็ทำพิษได้เหมือนกันนะ
ปัญหาผมร่วงผมบางก็ถือว่าเป็นเรื่องหนักอกหนักใจของใครหลายคน บางคนอายุแค่ 20 ปลายๆ แตผมบริเวณหน้าผากก็เริ่มร่นขึ้นไปมากโขเเล้ว ทำให้เกิดความไม่มั่นใจในการดำรงชีวิต ทำผมทรงไหนก็ย๊ากกยากก เพราะฉะนั้น การปลูกผมจึงถือเป็นคำตอบที่ดีและถาวร หากแต่สิ่งที่ต้องระมัดระวังเป็นอย่างมากเลยก็คือ ผลข้างเคียงจากการทำนั่นเอง ที่พบได้มากที่สุดก็คือ อัตราการขึ้นของผมไม่ได้เป็นไปตามที่คาด ทำให้ต้องเจ็บตัวหลายรอบ ซึ่งในส่วนนี้ขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของแพทย์และสุขภาพผมที่นำมาปลูกโดยตรง ในบางรายอาจจะมีปัญหาในเรื่องของรูขุมขนที่ทำการปลูกผิดปกติ คล้ายๆ หนังไก่ หรือเป็นหลุมคล้ายๆ รูขุมขนกว้าง ทำให้เกิดปัญหาขนคุดและการอักเสบซ้ำๆ ตามมา ไม่สามารถแก้ไขได้ อีกหนึ่งเรื่องก็คือ แผลเป็นบริเวณท้ายทอยที่ทำการย้ายเซลล์รากผมมา ซึ่งตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของแพทย์และการสมานผิวของคนไข้ด้วย ในบางรายอาจพบอาการเนื้อตายในบริเวณนั้นๆ ซึ่งถือว่าเป็นผลข้างเคียงของการทำศัลยกรรมปลูกผมที่ร้ายแรงพอสมควร
ฉีดโบท็อกซ์ อาจไม่ได้ทำให้หน้าเรียว
ปัญหาของการฉีดโบท็อกซ์เเล้วไม่ค่อยเห็นผล อาจเกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน มีการใช้ของปลอม หรือผสมน้ำเกลือเยอะเกินไป ฝีมือของแพทย์ อีกทั้งการฉีดโบท็อกซ์นั้น ผลลัพท์ที่ได้ก็จะอยู่เพียง 6 เดือน – 1 ปี ไม่ได้คงอยู่ไปตลอดกาล (ทุกวันนี้ก็ยังมีหลายคนเข้าใจว่าฉีดครั้งเดียวอยู่ได้ตลอดชีวิต) อีกทั้งบางคนยังแยกความบานของใบหน้าว่าเกิดจากกระดูกสันกราม ไขมันบริเวณแก้ม หรือกล้ามเนื้อเยอะไม่ออก อาจจะทำให้การรักษาไม่ตรงตามเป้าหมายได้ นอกจากนี้ การฉีดโบท็อกซ์ก็ยังมีผลข้างเคียงที่อาจจะเป็นอันตรายต่อการใช้ชีวิตตามมาอีกมากมาย เช่น ใบหน้าดูแข็ง ยิ้มเเล้วไม่เป็นธรรมชาติ เคี้ยวอาหารลำบาก ใบหน้าดูไม่ค่อยสมดุล กล้ามเนื้ออ่อนแรง เกิดการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจส่วนบน และในกรณีที่เลวร้ายที่สุด การฉีดโบท็อกซ์ที่ผิดขนาดไปมากๆ อาจทำให้คนไข้เสียชีวิตได้เช่นกัน
ฉีดเมโสแฟตเสี่ยงติดเชื้อ
ในรายของคนที่แก้มป่อง จนทำให้ใบหน้าดูบาน ถ่ายรูปมุมไหนก็ไม่สวย หรือต้นขาต้นแขนใหญ่เนื่องจากการสะสมของไขมัน คงต้องพึ่งเทคนิคการสลายไขมันด้วยเมโสแฟตเเล้วล่ะ แต่ข้อเสียของการฉีดเมโสแฟตก็มีอยู่นะคะ เพราะนอกจากจะเจ็บแสบผิวพอสมควรเเล้ว ก็อาจจะทำให้ผิวหนังกิดเป็นลอนคลื่น เนื้อตาย หรือเกิดการติดเชื้อจนเข้ากระแสเลือดได้
ฉีดฟิลเลอร์เติมเต็ม ระวังผิดตำแหน่ง
การฉีดฟิลเลร์ถือเป็นคำตอบสุดท้ายของคนที่คิดอยากจะทำศัลยกรรมแต่ยังกล้าๆ กลัวๆ หรือต้องการเสริมในจุดนั้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เช่น การฉีดหน้าผาก ฉีดจมูก ฉีดคาง ฉีดเพื่อเติมเต็มผิวบริเวณร่องแก้ม ถือว่าเป็นการทำศัลยกรรมที่ไม่ใหญ่ ใช้เวลาน้อย แต่ถ้าผิดพลาดมาก็ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่เลยทีเดียว เพราะการฉีดสารเติมเต็มผิวประเภทนี้ ข้อควรระวังก็คือ การฉีดสารที่ไม่ได้มาตรฐาน ฉีดผิดตำแหน่ง ที่อาจทำให้เสียโฉมหรือร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ค่ะ
ซิลิโคนทะลุจากการเสริมจมูกสมัยนี้คนนิยมทำจมูกกันเยอะมาก คลินิกต่างๆ ก็ผุดขึ้นมาราวกับดอกเห็ด สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การศึกษาหาข้อมูลของแพทย์ผู้ที่จะทำการเสริมจมูกให้ รวมไปถึงรูปทรงจมูกที่เราต้องการจะเสริมด้วย “เสริมให้พอเหมาะกับเนื้อเดิมจะดีทีี่สุด” บางคนเนื้อจมูกน้อยมาก แต่อยากได้แบบโด่งพุ่ง หยดน้ำ ทำให้ต้องฝืนเนื้อมากเกินไป จะรองปลายด้วยเนื้อเยื่อเทียมหรือกระดูกหลังหูก็อาจจะไม่ได้ช่วย 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะในระยะยาวนั้น จมูกของคนเราจะบางลงเรื่อยๆ หากทำทรงที่ฝืนเนื้อมากเกินกว่าจะรับไหว ในอนาคตก็อาจจะต้องเจอกับปัญหาปลายบาง ปลายทะลุ ติดเชื้อได้ค่ะ
อยากตัดปีกจมูกให้เล็กลง กลายเป็นคนจมูกบี้ซะงั้นถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ของหลายๆ คนเลยค่ะ กับเรื่องปีกจมูกบานเป็นจมูกหมู ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่จะต้องพบเจอกับปัญหานี้ การตัดปีกจมูกถือเป็นการศัลยกรรมที่สำคัญมาก ต้องทำกับแพทย์ที่มีความชำนาญเท่านั้นจึงจะออกมาสวย ซึ่งปัญหาของปีกจมูกใหญ่ไม่ได้รูป ก็มีสาเหตุหลายอย่าง บางคนปีกบานเพราะเนื้อเยอะ บางคนปีกบานเพราะเนื้อจมูกเยอะ อันนี้ก็ต้องอยู่ที่การพิจารณาของคุณหมอเเล้วว่า จะทำการแก้ไขอย่างไรให้ออกมาดูดี สมดุล บางคนเกิดความผิดพลาด กลายเป็นคนจมูกบี้ ปีกบาง รูจมูกหดเหลือนิดเดียว รูจมูกไม่เท่ากัน หายใจไม่สะดวก หรือเป็นแผลเป็นที่ดูน่าเกลียด ติดเชื้อ กลายเป็นปัญหาชีวิตไปซะอย่างนั้น
อยากปากบางๆ ทรงกระจับ แต่สิ่งที่ได้รับคือปากเบี้ยว!
ศัลยกรรมปากบาง ปากทรงกระจับ ยกมุมปาก ก็นิยมในบ้านเราเช่นเดียวกันค่ะ เพราะทำให้ใบหน้าดูจิ้มลิ้ม ในรายที่หน้าค่อนข้างดุ ดูไม่เป็นมิตร การทำศัลยกรรมยกมุมปากก็ช่วยในเรื่องนี้ได้เช่นเดียวกัน แต่ในรายที่เกิดการผิดพลาดจากการผ่าตัด จากปากบางๆ จุ๋มจิ๋ม ก็อาจจะกลายเป็นรูปปากที่ดูเผยอเหมือนคนหุบปากไม่ลงตลอดเวลา พอยิ้มก็เห็นเหงือกจนดูน่าเกลียด ต้องไปฉีดฟิลเลอร์เพิ่มอีกซะงั้น บางคนอาจจะเจอกับรูปปากเบี้ยว หนาบางไม่เท่ากัน ต้องเจ็บตัวซ้ำๆ เพื่อแก้ไขให้ออกมาเป็นปกติมากยิ่งขึ้น
อยากฉีดดอลลี่อายให้ตาดูแบ๊ว แต่กลายเป็นตาบวมเหมือนเพิ่งร้องไห้
เป็นเทรนด์การศัลยกรรมที่เพิ่งมาฮิตในบ้านเราได้ไม่นานค่ะ สำหรับการฉีดใต้ตาให้ดูแบ๊วๆ กลมโตเหมือนไอดอลเกาหลี แต่เอาเข้าจริงเเล้ว ผลที่ได้มักจะออกมาค่อนข้างแย่มากกว่า เพราะหลายคนกลับได้ดวงตาที่ดูบวมๆ ง่วงๆ เหมือนคนอดนอนไปซะอย่างนั้น อีกทั้งยังเป็นการฉีดสารบริเวณใกล้ดวงตาด้วย จึงต้องอาศัยความชำนาญของคุณหมอมากเป็นพิเศษ จึงจะได้เกิดผลข้างเคียงและออกมาดูดี (แต่เป็นการศัลยกรรมที่เราไม่อยากแนะนำเท่าไหร่ เพราะแก้ไขยากและเสี่ยงอันตรายต่อดวงตาเกินไปค่ะ)
อยากทำคางให้รับกับใบหน้า แต่กลับดูเหมือนแม่มด
ในคนที่คางถอย คางสั้น ทำให้ใบหน้าดูไม่ค่อยสมดุล จะหันหน้าหรือหันข้างก็ดูไม่ค่อยสวยงามนั้น การศัลยกรรมคางก็ดูจะเป็นเรื่องธรรมดาไปซะเเล้ว สมัยนี้การทำคางก็ได้รับความนิยมมากพอๆ กับการทำจมูกเลยค่ะ ถ้าทำออกมาสวย ใบหน้าก็จะดูเพอร์เฟคขึ้นหลายเท่าตัว แต่ถ้าทำออกมาเเล้วพลาด หากไม่ใช่การติดเชื้อที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ก็อาจจะเกิดการจับตัวเเข็งเป็นก้อนของพังผืดได้ ในบางรายอาจจะรู้สึกปวดๆ เจ็บๆ ยิ่งหมอที่ไม่มีความชำนาญในด้านสรีระของร่างกาย เราก็อาจจะได้คางยาวเหมือนแม่มด หรือคางเบี้ยวดูไม่สมดุลกลับมาเป็นของฝาก
กรีดตาสองชั้น อาจจะได้สามชั้น หรือตาปลิ้น
หนุ่มๆ สาวๆ บ้านเรามักมีดวงตาที่ไม่ค่อยเปิดกว้าง ชั้นตาไม่เท่ากัน หรือไม่มีชั้นตาเลย ซึ่งการทำศัลยกรรมตาก็จะช่วยแก้ในเรื่องนี้ได้ แต่หากไม่ได้รับการทำจากคุณหมอที่มีความเชี่ยวชาญ ปัญหาต่างๆ ก็จะตามมาอีกนับไม่ถ้วน เช่น เปลือกตาปลิ้น ชั้นตาดูปรือ ไม่รับกับใบหน้า เมื่อแผลหายดีเเล้วกลายเป็นตา 3 ชั้น เกิดรอยแผลเป็นที่ค่อนข้างน่าเกลียด หรือที่หนักเลยก็คือการติดเชื้อ เพราะฉะนั้น ก่อนที่จะทำศัลยกรรมตา ควรศึกษาข้อมูลของแพทย์ให้ดีซะก่อน เพราะถ้าเกิดปัญหามาเเล้ว แก้ไขยากค่ะ
เสริมหน้าอกจนแข็งผิดธรรมชาติ
สาวเอเชียอย่างเราๆ เรื่องหน้าอกหน้าใจนั้นก็ไม่ค่อยจะสู้สาวๆ ฝั่งยุโรปสักเท่าไหร่ แต่ในสมัยนี้เค้ามีการทำศัลยกรรมหน้าอกกันเเล้ว จากคัพ A กลายเป็นคัพ D ได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นการผ่าตัดใหญ่ ต้องอาศัยความพร้อมหลายทาง ทั้งแพทย์ สถานที่ เครื่องมือต่างๆ ต้องทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและทำให้สถานที่ที่ปลอดภัยเท่านั้น มีวิสัญญีแพทย์คอยดูแลตลอดเวลา เพราะอันตรายสามารถเกิดได้ทุกเมื่อ นอกจากนี้ ผลข้างเคียงของการทำหน้าอกก็ยังมีมากมาย เช่น ภาวะเลือดไหลไม่หยุด เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ เสริมใหญ่เกินไปจนดูแข็งเป็นบล็อก ไม่เป็นธรรมชาติ บางรายอาจจะเจอกับปัญหานมห่าง นมแฝด หัวนมไม่เท่ากัน หน้าอกไม่เท่ากันได้
ดูดไขมันหวังให้เล็กเรียว อาจได้หนังเหี่ยวมาแทนที่
การดูดไขมันถือว่าเป็นการทำศัลยกรรมอย่างหนึ่งที่ค่อนข้างแพร่หลายในบ้านเรา อย่างการทำเวเซอร์ที่นิยมเอามากๆ เพราะสามารถดูดไขมันได้หลายที่ ทั้งหน้าท้อง ต้นขา ต้นแขน เอว สะโพก ซึ่งผลข้างเคียงของการดูดไขมันนี่แหล่ะ ที่เป็นฝันร้ายสุดๆ บางคนอาจจะเกิดอาการบวมช้ำ เป็นไต ผิวเหี่ยวย่นเหมือนคนที่ลดความอ้วนในเวลาอันรวดเร็ว จนผิวหนังกระชับตามไม่ทัน เกิดเป็นผิวที่หย่อนคล้อยตามมาได้ เพราะฉะนั้น หลังจากที่ทำการดูดไขมันเสร็จเเล้ว ต้องทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด การเลือกสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือ และฝีมือคุณหมอ ก็เป็นเรื่องที่ต้องหาข้อมูลให้เยอะๆ เช่นกัน
ทุกการทำศัลยกรรมมักมีข้อผิดพลาด หรือผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้ เพราะฉะนั้นควรหาข้อมูลก่อนทำ เช็คประวัติแพทย์และสถานพยาบาลนั้นๆ ว่าเคยเกิดเรื่องร้ายแรงหรือไม่ ปรึกษาคุณหมอให้แน่ใจถึงผลข้างเคียงที่จะตามมาและวิธีป้องกัน แก้ไข การทำศัลยกรรมจึงจะออกมาสมบูรณ์ ถูกใจเราค่ะ
เนื้อหาโดย โดดเด่นดอทคอม
