เมื่อเวลา 10.20 น. วันที่ 19 ก.พ. พ.ต.ต.นันทพล เชื้อพรหมมา พงส.สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งจากเจ้าหน้าตรวจอาวุธและวัตถุระเบิดอันตราย ท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานี ว่าพบวัตถุระเบิดอยู่ในกล่องพัสดุไปรษณีย์ EMS ที่ส่วนบริษัทคาร์โก้ ซึ่งตั้งอยู่ภายในท่าอากาศยาน หลังได้รับแจ้งแล้ว จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี และ เจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิด (อีโอดี) ภ.จ.อุดรธานี นำกำลังรุดไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงพบว่าที่สายพานเครื่องเอกซเรย์ หรือเครื่องสแกนวัตถุระเบิด พบกล่องพัสดุไปรษณีย์ EMS ด่วนพิเศษ ระบุชื่อผู้ส่ง บอย บึงกาฬ (BBK) 182 แสนประเสริฐ ต.บึงกาฬ อ.เมือง จ.บึงกาฬ 48000 ชื่อผู้รับ “วราวัฒน์ จุลวัฒน์” สินมั่นคงสาขาพัทยา 1/44-45 หมู่ 6 ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี 20150 ส่งที่ไปรษณีย์ อ.เมือง จ.บึงกาฬ ส่งเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 17 ก.พ. นำส่งปลายทางวันที่ 18 ก.พ. ซึ่งภาพปรากฏบนหน้าจอเครื่องสแกน เป็นวัตถุทรงกลมคล้ายระเบิด 2 ลูก
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่นำยางรถยนต์มาครอบไว้ เพื่อป้องอันตรายและทำการเก็บกู้ และนำออกมาเปิดกล่องบริเวณลานจอดรถสนามบิน พบว่าเป็นระเบิดลูกขว้างแบบซ้อม เอ็ม 27 ผลิตในประเทศอิสราเอล จำนวน 2 ลูก สภาพพร้อมใช้งาน ซึ่งระเบิดดังกล่าวใช้ในการฝึกซ้อมมีเสียงดังและมีควัน ใช้ในการฝึกซ้อมเพื่อเป็นการชี้เป้า
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรศัพท์ประสานไปยังไปรษณีย์ อ.เมือง จ.บึงกาฬ ทราบว่าผู้นำส่งคือนายศุภษร ธีสุระ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 182 หมู่ 9 ต.บึงกาฬ อ.เมือง จ.บึงกาฬ และโทรศัพท์ไปประสานไปยังนายศุภษร เจ้าของกล่องพัสดุ รับสารภาพว่า เป็นผู้ส่งวัตถุระเบิดในกล่องพัสดุดังกล่าวจริง แต่เป็นระเบิดโมเดล และเพื่อความบริสุทธิ์ใจ จะเดินทางมายังท่าอากาศยานและ สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อให้การสอบสวนปากคำ
ต่อมาเวลา 12.00 น. วันเดียวกัน นายศุภษร เข้าให้ปากคำกับ พล.ต.ต.พีระพงศ์ โดยรับสารภาพว่า เป็นลูกชายของปลัดอำเภอเมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราวศูนย์ข้อมูลข่าวสาร ที่ว่าการอำเภอเมืองบึงกาฬ โดยตนอยู่ในกลุ่มที่นิยมสะสมยุทโธปกรณ์ของทหาร ทั้งในประเทศและต่างประเทศ มักสั่งซื้อสินค้าทางเว็บไซต์และตลาดโรงเกลือ เพราะว่าอยากเป็นทหาร แต่สมัครสอบไม่ได้เพราะน้ำหนักเกิน
ระเบิดชนิดขว้างแบบซ้อมดังกล่าวนั้น ซื้อมาจากเพื่อนราคาลูก 500 บาท รวมเป็นเงิน 1,000 บาท และตนนำมาลงประกาศขายในเฟซบุ๊กของตน ราคา 1,700 บาท แล้วได้บรรจุกล่องพัสดุไปรษณีย์ไปส่งลูกค้าแบบ EMS ด่วนพิเศษ โดยไม่รู้ว่าสินค้าดังกล่าวจะถูกส่งทางเครื่องบิน
พล.ต.ต.พีระพงศ์ กล่าวว่า จากการสอบสวนนายศุภษร เป็นความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่ได้มีเจตนาก่อวินาศกรรมเครื่องบินแต่อย่างใด และฝากเตือนผู้ชื่นชอบหรือสะสมอาวุธปืน ถ้าแม้ว่าจะเป็นวัตถุระเบิดแบบโมเดล ให้ระมัดระวังในการซื้อขาย และส่งพัสดุสิ่งของ เพราะเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจพบ จะทำให้เกิดความโกลาหล จะทำให้ถูกดำเนินคดีแม้ว่าจะไม่มีเจตนาก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ จึงแจ้งข้อหา “มีวัตถุระเบิดที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถอนุญาตได้ ไว้ในครอบครอง” แล้วดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป
