เนื้อหาโดย Dodeden.com

หนึ่งในอาการของโรคภูมิแพ้ที่ก่อให้เกิดความรําคาญ ก็คือผื่นแดงตามข้อพับแขน-ขา ซึ่งมักมีอาการคัน ที่สําคัญ ผื่นแดงมักอยู่นานเป็นสัปดาห์ และทิ้งรอยผื่นเอาไว้ให้ดูต่างหน้าด้วยนี่สิ

สังเกตอย่างไร
อาการคันที่สุดแสนทรมานและเกิดผื่นแดงที่มีลักษณะเป็นปื้นนูนใหญ่นั้น ทางการแพทย์เรียกว่าโรคผื่นภูมิแพ้ เป็นโรคเรื้อรังที่พบได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ คนไข้ที่เป็นโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง มักจะมีประวัติเป็นๆ หายๆ ส่วนใหญ่จะมีประวัติของโรคภูมิแพ้ในครอบครัว และตัวคนไข้ก็มักจะมีอาการภูมิแพ้ในระบบอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น น้ำมูกไหล หรือแพ้อากาศ บางคนมีอาการคันตา น้ำตาไหล เยื่อบุตาอักเสบ บางรายอาจเป็นหอบหืดด้วย ซึ่งผื่นภูมิแพ้ผิวหนังอักเสบ ก็เป็นการแสดงอาการของภูมิแพ้ทางผิวหนัง โดยลักษณะผื่นจะเป็นปื้นนูน บางครั้งมีสะเก็ด ตําแหน่งที่เป็นผื่นก็จะแตกต่างกันตามกลุ่ม อายุ เช่น วัยเด็ก 2-3 เดือน จนถึง 2-3 ขวบ มักเกิดผื่นบริเวณศีรษะ แก้ม หรือข้อศอกและข้อเข่า พออายุเกิน 2-3 ขวบ ผื่นจะไปอยู่ตามข้อพับแขน-ขา ซึ่งหากเป็นตั้งแต่วัยเด็ก อาการมักจะหายเองเมื่อโตขึ้น แต่บางคนที่แสดงอาการในวัยผู้ใหญ่มักเกิดผื่นตามข้อพับแขน-ขา หรือฝ่ามือ-ฝ่าเท้า ในรายที่เป็นรุนแรงอาจมีผื่นขึ้นที่ใบหน้าด้วย

เกิดขึ้นได้จากสิ่งใกล้ตัว
คนที่มีอาการผื่นขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ โดยเฉพาะเมื่ออากาศร้อน มีเหงื่อออก หรือบางช่วงที่รู้สึกเครียด นอนไม่หลับ ปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ซึ่งเมื่อไหร่ก็ตามที่ค้นพบสาเหตุของการเกิดโรคที่แท้จริง ย่อมมีโอกาสป้องกันการเกิดผื่นและสามารถหาวิธีรักษาได้อย่างถูกต้อง จริงๆ แล้วสาเหตุหลักของโรคนี้มาจากพันธุกรรมและการถูกกระตุ้นจากปัจจัยภายนอก โดยกลุ่มที่มีความผิดปกติทางพันธุกรรมนั้นเกิดจากสารที่ให้ความชุ่มชื่นในผิวหนังหายไป ผิวจึงแห้งกว่
ปกติ เมื่อผิวขาดความชุ่มชื่น เชื้อโรคหรือสารระคายเคืองต่างๆ จึงเข้าสู่ผิวได้ง่าย ทําให้เกิดผื่นได้ง่าย ส่วนปัจจัยกระตุ้นจากภายนอก คนไข้จะเกิดผื่นขึ้นเมื่อผิวไปสัมผัสกับสิ่งระคายเคืองบางอย่าง เช่น สบู่ที่ออกฤทธิ์เป็นด่างแรงๆ ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่มหรือเนื้อผ้าบางชนิด ทําให้ระคายผิวและผื่นผิวหนังเห่อขึ้นมา โดยเฉพาะในหน้าร้อน รวมทั้งความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็มีส่วนทําให้ผื่นพวกนีเกิดขึ้นได้เช่นกัน

วิธีป้องกันและรักษา
วิธีเบื้องต้น คือต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจําวันก่อน ตั้งแต่การอาบน้ำ และการเลือกผลิตภัณฑ์สําหรับผิว โดยเฉพาะผู้ที่เป็นผื่นภูมิแพ้ผิวหนังจากสาเหตุทางพันธุกรรม หรือมีความผิดปกติเกี่ยวกับความชุ่มชื่นของผิวหนัง ต้องเริ่มตั้งแต่อาบน้ำในอุณหภูมิปกติ ไม่ควรอาบน้ำร้อนจัด ซึ่งจะยิ่งทําให้ผิวระคายเคือง ควรฟอกสบู่ในปริมาณพอเหมาะ เพราะสบู่บางชนิดมีฤทธิ์เป็นด่าง ยิ่งฟอกเยอะยิ่งทําให้ไขมันที่ดีของผิวหนังโดนชะออกมากเกินไป และหลังอาบน้ำ เมื่อซับตัวให้แห้งแล้ว ต้องทาโลชั่นทันที ผิวจะยิ่งอุ้มน้ำไว้ได้เยอะ ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น นอกจากนี้ ควรอยู่ในที่ที่มีอากาศถ่ายเท หลีกเลี่ยงความเครียด และนอนหลับให้เพียงพอ ก็จะช่วยให้อาการผื่นดีขึ้นได้ แต่หากทําทุกอย่างแล้วไม่ดีขึ้น ควรพบแพทย์เพื่อหาวิธีรักษา โดยมีทั้งการให้ยาทาและยากิน สําหรับยากินเป็นยากดภูมิ ซึ่งจะกดภูมิต้านทานในร่างกายให้ทํางานลดลง ถือเป็นยาอันตรายและไม่ควรซื้อกินเองอย่างเด็ดขาดค่ะ

การทาคาลามายด์เมื่อเกิดผื่นคัน จะช่วยให้ผิวเย็นสบาย และอาการคันลดลง แต่มักทำให้ผิวเเห้งขึ้นด้วย ในบางคนจึงยิ่งทายิ่งคัน ลองทามอยซ์เจอร์ไรเซอร์ ที่จะให้ผลดีกว่า และในปัจจุบันก็มีโลชั่นสำหรับผู้ที่มีอาการนี้โดยเฉพาะ นอกจากจะช่วยเติมความชุ่มชื่นได้เเล้ว ยังช่วยลดการอักเสบได้ด้วย

 

เรื่องน่าสนใจ