วันนี้ (13 ธ.ค.) การประชุมประชาคมชาวบ้านในพื้นที่ชุมชนหลังเนิน หมู่ที่ 3 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อขอมติลงความเห็นเกี่ยวกับปัญหาที่พักอาศัยของผู้ป่วยเอดส์จากมูลนิธิกระท่อมพระสิริ ที่มีปัญหาเรื้อรังมานานกว่า 1 เดือน หลังชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวทำหนังสือร้องเรียนไปยังเทศบาลเมืองหนองปรือ เพื่อให้ประสานไปยังมูลนิธิกระท่อมพระสิริ ทำการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยเอดส์ พร้อมเจ้าหน้าที่ จำนวน 48 คน ออกจากชุมชนดังกล่าวไป
เนื่องจากหวั่นเกรงปัญหาเรื่องของการติดเชื้อเพราะการอยู่อาศัยของผู้ป่วยดูจะไม่มีระบบการป้องกันที่เป็นสัดส่วน และใช้ชีวิตปะปนกับชาวบ้านตามปกติ อีกทั้งการเข้ามาของผู้ป่วยยังส่งผลให้เศรษฐกิจในชุมชนได้รับความเสียหาย ด้วยห้องพัก และอพาร์ตเมนต์ในพื้นที่ถูกยกเลิกจากผู้เช่าไปเป็นจำนวนมาก
โดยการประชุมครั้งนี้ มีชาวบ้านในพื้นที่เข้าร่วมกว่า 150 คน พร้อมผู้สังเกตุการณ์ กลุ่มผู้ป่วย เจ้าหน้าที่จากมูลนิธิกระท่อมพระสิริ เทศบาลเมืองหนองปรือ ศูนย์วิจัยเอดส์พัทยา รวมทั้งชาวบ้านและผู้ให้กำลังใจอีกจำนวนหนึ่ง
นายวิเชียร เวฬุวัน ประธานชุมชนหลังเนิน กล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกรังเกียจผู้ป่วยเอดส์ แต่คงอยู่ร่วมกันไม่ได้เพราะเป็นเรื่องของความรู้สึก อีกทั้งการเข้ามาของผู้ป่วยก็ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจชุมชนโดยรวม โดยเฉพาะผู้ประกอบการห้องเช่าที่ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก เนื่องจากชาวบ้านหลายรายนำที่ดินไปกู้เงินจากธนาคารเพื่อมาทำห้องเช่า แต่พอผู้ป่วยเข้ามาผู้เช่าก็ยกเลิกการเข้าพัก จึงทำให้ส่งผลต่ออาชีพทำกิน
อย่างไรก็ตาม รู้สึกเห็นใจผู้ป่วยเช่นกัน แต่อยากให้ไปหาพื้นที่บำบัดใหม่ที่ไกลจากแหล่งชุมชน และหากมีการเคลื่อนย้ายชุมชนก็พร้อมบริจาคเงินเพื่อสนับสนุน
ขณะที่ นางพรสวรรค์ คิสต์ภิรักษ์ ผู้อำนวยการมูลนิธิกระท่อมพระสิริ ศูนย์ดูแลผู้ป่วย HIV ได้ขึ้นกล่าวแสดงความรู้สึก และขอความเห็นใจจากชุมชนด้วยน้ำตา โดยระบุว่า มูลนิธิไม่มีทางเลือก และไม่มีเจตนาให้ชุมชนวิตกกังวล ทุกอย่างทำไปเพื่อดูแลผู้ป่วยที่ถูกทอดทิ้งให้มีชีวิตอยู่ในสังคมได้ พร้อมกับร้องเพลงร่วมกัน ซึ่งช่วงเวลานั้นพบว่ามีเสียงโห่ฮาจากชาวบ้านอยู่ตลอดเวลา สร้างบรรยากาศที่อึมครึมเป็นอย่างยิ่ง
สุดท้ายหลังจากการชี้แจงของทุกฝ่ายจึงได้จัดให้มีการลงคะแนนประชามติ ซึ่งผลปรากฏว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้ผู้ป่วยเอดส์พำนักอยู่ในชุมชน 131 เสียง ต้องการให้อยู่ต่อไป 30 เสียง ส่งผลให้ทางมูลนิธิฯ ต้องดำเนินการจัดหาพื้นที่ใหม่เพื่อย้ายออกจากชุมชนต่อไป
ด้าน นายมาย ไชยนิตย์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองหนองปรือ กล่าวว่า เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อนอย่างมาก ซึ่งแม้จะพยายามอธิบายถึงเรื่องโรคให้ชุมชนรับทราบ แต่ส่วนใหญ่ก็ยังรู้สึกไม่สบายใจ ขณะที่กระแสสังคมเองก็ให้ความเห็นใจ จึงได้จัดทำประชาคมขึ้นซึ่งเมื่อมีผลออกมาเช่นนี้ก็ต้องดำเนินการไปตามเสียงส่วนใหญ่ ซึ่งจากนี้ทางเทศบาลก็รับปากว่าจะไปจัดหาที่ดินแปลงใหม่ที่ห่างไกลจากชุมชนให้แก่ทางมูลนิธิเพื่อย้ายไปจัดตั้ง ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เวลาประมาณ 6-8 เดือน
ขอขอบคุณ Manager