ที่มา: khaosod

หลังจาก เมื่อ วันที่ 13 ก.ย. นางปราณีย์ จอดสันเทียะ อายุ 48 ปี ชาว อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา พาน.ส.นฤดี จอดสันเทียะ หรือ น้องทราย อายุ 17 ปี นักเรียนชั้นม.5 โรงเรียนโชคชัยสามัคคี อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ที่อยู่ในสภาพใบหน้าเสียโฉม มีลักษณะปากเบี้ยวและตาซ้ายปิด ไม่สนิท เข้าร้องเรียนกับมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี จ.ปทุมธานี หลังถูกครูพลศึกษาปาแก้วเซรามิกใส่ใบหน้าบริเวณกกหูและ คิ้วซ้าย

นางปราณีย์ จอดสันเทียะ แม่น้องทราย เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ลูกสาวมีรูปร่างหน้าตาดี แต่เมื่อโดนครูพละใช้แก้วปาใส่ทำให้ใบหน้าเสียโฉมและบิดเบี้ยว หลังเกิดเหตุได้พาลูกสาวเข้าพบผอ.โรงเรียน โดยโรงเรียนเจรจาว่าจะรักษาลูกจนกว่าจะหาย ซึ่งตอนนั้นดีใจมากที่โรงเรียนแสดงความรับผิดชอบ ก่อนพาลูกสาวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลในจ.นครราชสีมาหลายแห่ง

1473820252_p0102140959p1

แต่อาการไม่ดีขึ้น เพราะเส้นประสาทคู่ที่ 7 บวมหลังกระทบกระเทือน จึงมารักษาตัวที่ร.พ.รามาธิบดี ค่าใช้จ่ายคาดไม่ต่ำกว่า 3 แสนบาท ก่อนมาพูดคุยกับผอ.โรงเรียน เพื่อให้ดูแลค่าใช้จ่ายในการรักษาอีกครั้ง แต่โรงเรียนยอมจ่ายเพียง 80,000 บาท และให้ไปรักษากันเอง

“เหตุการณ์ เกิดขึ้นคนเป็นครูไม่สมควรกระทำเช่นนี้ อีกทั้งตั้งแต่เกิดเรื่องจนวันนี้ครูที่ปาแก้วใส่ลูกสาวจนเสียโฉมไม่เคยสนใจ หรือโทร.มาพูดคุยขอโทษกับการกระทำเลยซักครั้ง แถมคดีที่แจ้งความไว้ก็ไม่คืบหน้าด้วย จึงตัดสินใจพาลูกสาวเข้าร้องเรียนกับมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อให้ช่วยเยียวยาค่ารักษาและดำเนินการกับครูพละที่ก่อเหตุ ไม่ให้เป็นแบบอย่างกับครูคนอื่นต่อไป” แม่น้องทรายกล่าว

นายนิพนธ์ ภักดีแก้ว ผอ. โรงเรียนโชคชัยสามัคคี กล่าวชี้แจงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า หลังเกิดเหตุตนและครูไม่ได้ นิ่งเฉย โดยได้สอบถามสารทุกข์สุกดิบตลอด จากการสอบถามพยานที่เกี่ยวข้องทราบว่านายไพฑูรย์ แกลงกระโทก อายุ 58 ปี ครูพลศึกษาได้ปาแก้วพลาสติกจริง

โดยเจตนาต้องการให้น.ส.นฤดีและเพื่อนที่กำลังเล่นส่งเสียงดังอยู่หลังห้อง เรียนหยุดพูดคุยแล้วให้ความสนใจสิ่งที่เป็นสาระ โดยนายไพฑูรย์ยืนยันปาแก้วใส่ผนังห้อง แต่แก้วกระเด็นมาถูกใบหน้าน.ส. นฤดี เบื้องต้นไม่มีบาดแผล

กระทั่งวันรุ่งขึ้นมีอาการผิดปกติ โรงเรียนได้จัดรถส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลประจำอำเภอ แต่อาการไม่ดีขึ้นเลยย้ายไปรักษาที่ร.พ.มหาราชนครราชสีมา และได้พบแพทย์รวม 6 ครั้ง ต่อมาครอบครัวแจ้งขอไปพบแพทย์เองและต้องการย้ายไปรักษาที่ร.พ.เซนต์แมรี่ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังและเสนอขอค่าเดินทาง 1 พันบาท และค่าใช้จ่ายอื่นอีก 1 พันบาท ซึ่งนายไพฑูรย์ไม่ได้ปฏิเสธและดำเนินการตามที่ร้องขอ

นอกจากนี้ ค่ายาและค่าปรึกษาแพทย์ซึ่งเป็นส่วนเกินที่ไม่สามารถใช้สิทธิ์เบิกได้ เราได้รับผิดชอบประมาณ 8 พันบาท นอกจากนี้ ยังนำกระเช้าของขวัญไปเยี่ยมด้วย

นายนิพนธ์ กล่าวอีกว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา ครอบครัวน.ส.นฤดีนัดเจรจากับนายไพฑูรย์เป็นครั้งที่สามที่สภ.โชคชัย โดยร้องขอค่ารักษาพยาบาลและค่าทำขวัญ 3 แสนบาท แต่นายไพฑูรย์จ่ายให้ได้ไม่เกิน 1 แสนบาท จึงตกลงกันไม่ได้

ครอบครัวผู้เสียหายจึงแจ้งความร้องทุกข์นายไพฑูรย์เป็นผู้ทำร้ายร่างกายเป็น เหตุให้บาดเจ็บสาหัส โดยเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน ขณะที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 31 นครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและอยู่ระหว่างแสวงหาข้อมูล พร้อมยืนยันโรงเรียนไม่ได้ละเลยและขอความเป็นธรรมด้วย

ขณะ ที่นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม โพสต์แนะนำผู้ปกครองว่า สิ่งแรกไปแจ้งความดำเนินคดีกับครู ถ้าไม่มีเงินจ้างทนายให้ขอกองทุนยุติธรรมได้ที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัด โดยมอบหมายให้ยุติธรรมจ.นครราชสีมาไปดูแลแล้ว

 

เรื่องน่าสนใจ