ผ่าตัดศัลยกรรมถุงใต้ตา เป็นการผ่าตัดที่ทำกันอย่างแพร่หลายในสถานพยาบาลและโรงพยาบาล โดยศัลยแพทย์ตกแต่ง มักจะทำผ่าตัดภายใต้ยาชาเฉพาะที่ ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง เพื่อตัดไขมันที่ห้อยเป็นถุงอยู่ใต้ตา และกำจัดผิวหนังส่วนเกินออก แม้ว่าจะมีผลทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลง แต่ก็อาจจะมีผลข้างเคียงได้ ทั้งในระหว่างการผ่าตัดและหล้งผ่าตัด
แต่ถ้าทำภายใต้ความเข้าใจที่ถูกต้อง โดยศัลยแพทย์ที่ได้รับการฝึกอบรมและมีความชำนาญ ตลอดจนในสถานพยาบาลที่มีมาตรฐาน มีอุปกรณ์เพียงพอ โดยเฉพาะมีความสามารถที่จะรักษาผลแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างการผ่าตัด การผ่าตัดถุงใต้ตาก็ยังมีความปลอดภัยสูงค่ะ
การผ่าตัดศัลยกรรมเสริมสวย ที่จะประสบความสำเร็จและปลอดภัยได้นั้น ขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัยค่ะ นั่นคือ เราเองจะต้องมีความเข้าใจ ให้ความร่วมมือ แจ้งให้แพทย์ทราบถึงโรคประจำตัว ยาที่ใช้ประจำ และศัลยแพทย์ ที่ได้รับการฝึกอบรม ได้รับการรับรองจากสมาคมวิชาชีพ มีความชำนาญ และทักษะในการผ่าตัด ให้คำแนะนำได้ดี มีสถานพยาบาล มีห้องผ่าตัด อุปกรณ์ ที่ได้มาตรฐาน ซึ่งจะทำให้อันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นขณะผ่าตัดถุงใต้ตาลดลงได้
อันตรายที่อาจเกิดจากการใช้ยาชาเฉพาะที่
การใช้ยาชาเฉพาะที่ มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในสถานพยาบาลหรือโรงพยาบาล จะมีการควบคุมด้านความสะอาด แต่แพทย์จะควบคุมขนาดการใช้ยาไม่ให้มากเกินไป และอาศัยการฉีดที่ถูกต้อง ไม่ให้ยาเข้าไปในกระแสเลือดโดยตรง ผู้ป่วยเอง ก็ต้องไม่มีประวัติการแพ้ยาชา นอกจากนี้ จะต้องระมัดระวังการใช้ในผู้ป่วยที่มีโรคหัวใจ เนื่องจากในยาชามีสาร adrenaline ที่กระตุ้นการเต้นของหัวใจ นอกจากนี้ การฉีดยาชารอบๆ เบ้าตา ก็อาจจะเกิดปฏิกริยาทำให้การเต้นของหัวใจช้าลงได้
อันตรายจากการผ่าตัด
การผ่าตัดใดๆ ก็ล้วนมีความเสี่ยงกับภาวะเลือดออก โดยเฉพาะหนังตา เป็นบริเวณที่มีเลือดมาเลี้ยงมาก และผู้ป่วยที่มีเลือดออกผิดปกติ หรือทานยาที่ทำให้เลือดออกผิดปกติ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการเขียวช้ำ มีผลต่อการมองเห็น หรือทำให้ความดันโลหิตต่ำลง
••••••••••••••••••
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีโอกาสเกิดผลอันไม่พึงประสงค์ได้หลายแบบ แต่มีโอกาสต่ำ และถ้าสามารถพบอาการผิดปกติในระยะแรก เช่น ความดันต่ำ แน่นหน้าอก เวียนศีรษะ มีเสียงในหู ฯลฯ ก็สามารถแก้ไขได้อย่างปลอดภัย แต่ต้องมีอุปกรณ์ช่วยชึวิตที่พร้อมในห้องผ่าตัด เราก็จะปลอดภัยค่ะ
ขอบคุณที่มา : plasticsurgery.or.th
เรียบเรียงเนื้อหาโดย Dodeden.com