หลังจากที่ไปประกวด miss grand international แล้วได้คว้ารางวัล รองชนะเลิศอันดับสองมาครอง เพื่อเป็นของขวัญให้พ่อหลวงและคนไทย ล่าสุด เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2559 สาวฝ้ายเดินทางมาสักการะพระบรมศพ หน้าพระบรมโกศโดยเร็ว
ฝ้ายบอก รู้สึกตั้งเเต่วันประกวด อยากจะกลับเมืองไทย ณ วันนั้น เเต่เนื่องจากเป็นตัวแทนของไทย เลยอยากทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และนึกเสมอว่าจะต้องนำรางวัลกลับมาให้พระองค์ท่าน และชาวไทยทุกคน ถือว่าเป็นการยากเหมือนกันที่จะต้องยิ้มหน้ากล้อง ทั้งที่ใจร้องไห้ วันที่ประกวดก็เศร้าตลอด วินาทีที่ทราบว่าพระองค์สวรรคตบอกรู้สึกเสียใจเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ พวกเรารู้สึกกันดีอยู่แล้วว่าการสูญเสียครั้งนี้เป็นยังไง รู้สึกว่าร้องไห้ทั้งวัน เปิดเฟซฯ มาก็เจอแต่ข่าวพระองค์ท่าน เป็นเรื่องยากที่จะทำใจ วันที่ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีที่กองประกวดบอกเวลานั้นอยากกลับบ้าน เป็นการร้องเพลงที่ยากที่สุด เพราะเป็นเพลงที่ร้องด้วยน้ำตา จนถึงวันนี้ได้มาอยู่ ณ ตรงนี้เสียใจยิ่งกว่ารู้สึกพูดไม่ออก ในวันนั้นเพื่อน ๆ นางงามบอกว่า ไม่ทราบหรอกว่าเพลงหมายความว่าอะไร เเต่ที่รู้สึกได้คือคนไทยรักในหลวงขนาดไหนและร้องไห้ตาม โดยที่ไม่ถามถึงเหตุผลด้วยว่าทำไมถึงร้องไห้กัน เพราะเขารับรู้ได้ว่าคนไทยรักในหลวงเเค่ไหน
ตั้งเเต่เกิดมาก็เห็นพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านมาตลอด และเห็นว่าพระองค์ท่านทำงานหนักเพื่อปวงชนชาวไทยจริง ๆ และพระองค์ห่วงเราทุกคนแทบไม่นึกถึงตัวพระองค์เองด้วยซ้ำ พระองค์ยอมเหนื่อยเพื่อชาวไทย ส่วนตัวได้นำเอาพระราชดำรัสเรื่องให้รู้จักรักและให้อภัยซึ่งกันและกัน ก็ได้นำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เริ่มจากตัวเองและขยายไปถึงคนรอบข้างและสังคมไทย เราก็จะอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขเเน่นอน ตอนนี้อยากบอกว่าหนู “สุภาพร มะลิซ้อน” ได้นำรางวัลจากการประกวดมาให้คนไทยและพ่อหลวงได้ชื่นใจ ให้คนไทยอย่างน้อยก็มีความสุขไม่มากก็น้อย ที่เจ้าตัวได้ทำและวันนี้มาเเจกอาหารก็รู้สึกดีได้ทำดีเพื่อพ่อหลวงและจะทำแบบนี้ต่อไป และเรื่องราวเหล่านี้ก็ได้เล่าให้เพื่อนนางงามฟัง เขาก็ประทับใจที่ได้เห็นคนไทยมีน้ำใจให้กันขนาดนี้