พบกับ”นักรบหน่วยซีล”ผู้แปลงโฉมเป็น”เจ้าหญิงนักรบ”

chris_kristin

คริสติน เบ็ค หรือชื่อเดิม คริส เบ็ค ทำงานให้แก่หน่วยซีลมานานถึง 20 ปี และเคยผ่านสมรภูมิรบที่มีความโหดร้ายมากที่สุดในโลกมาแล้ว แต่เมื่อออกจากราชการ เธอก็ตระหนักได้ว่าที่ผ่านมาเธอไม่ได้ใช้ชีวิตในแบบที่ควรจะเป็น

แอนน์ สเป็คฮาร์ด ผู้ร่วมเขียนหนังสือเรื่อง “Warrior Princess : A U.S. Navy SEAL′s Journey to Coming Out Transgender” ร่วมกับคริสติน ที่ออกวางจำหน่ายแล้วในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เปิดเผยว่า คริสต้องการเป็นผู้หญิง และรู้ตัวเสมอมาว่าตนเองเป็นมาตั้งแต่ยังเด็ก สเป็คฮาร์ดกล่าวว่า คริสต้องเก็บงำความลับนี้ไว้ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา แม้จะต้องผ่านการฝึกที่ได้ชื่อว่าหฤโหดที่สุด และการปฏิบัติหน้าที่จริงในแนวหน้าในฐานะหน่วยปฏิบัติการพิเศษ
เบ็คเคยทำงานให้กับหน่วยซีล Team 6  เธอเคยถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจ 13 ครั้ง และทำหน้าที่ในสมรภูมิรบ 7 ครั้ง เคยได้รับเหรียญกล้าหาญ Purple Heart และ Bronze Star มาแล้ว
แบรนดอน เว็บบ์ อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยซีล ที่อยู่คนละหน่วยกับเบ็ค  กล่าวว่าชื่อเสียงในหน่วยซีลของเบ๊คเป็นที่ประจักษ์ชัด และจากรูปลักษณ์ภายนอกที่ไว้หนวดเครารุงรัง อย่างไรเสียทุกคนก็เข้าใจว่าเขาเป็นชายอกสามศอก
ขณะที่ใจความในหนังสือระบุไว้ว่า คริสปรารถนาที่จะใช้ชีวิตเยี่ยงผู้หญิงคนหนึ่งและต้องเก็บความต้องการนั้น ไว้อย่างลับๆมานานหลายปี เนื่องจากภาระหน้าที่ในหน่วยซีล ทำให้เขาไม่สามารถทำได้อย่างที่ใจต้องการได้

ข้อความตอนหนึ่งกล่าวว่า หลายปีที่คริสต้องปิดบังเพศสภาพที่แท้ของตน และดำรงชีวิตเยี่ยงนักรบคนหนึ่ง ใช้ชีวิตกับสงคราม และอยู่แบบคนไร้เพศ สำหรับคริสแล้วเจ้าหน้าที่หน่วยซีลคนอื่นๆคือพี่น้องของเขา และในการใช้ชีวิตของชายชาตินักรบ แม้จะมีความคิดที่ต้องการสนองความต้องการทางเพศบ้าง แต่ก็ไม่มีสักครั้งเดียวที่เขาจะคิดถึงความเป็นเพศสภาพของตนมากกว่า
อย่างไรก็ดี หลังจากการออกจากราชการเมื่อปี 2011 เบ็คเองเห็นว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อการเปลี่ยนแปลง เพื่อทำให้ร่างกายเหมาะสมต่อเพศสภาพ หรืออย่างน้อยที่สุดคือการแต่งกายเช่นเดียวกับผู้หญิงทั่วไป
สเป็คฮาร์ดกล่าวว่า เบ็คเริ่มประกาศการตัดสินใจของตนให้แก่เพื่อนฝูงได้ทราบทางอินเตอร์เน็ต ด้วยข้อความว่า “ไม่หลบซ่อนอีกต่อไป” และหนังสือได้เล่าเรื่องราวเหตุการณ์ที่เธอเริ่มแต่งหญิงครั้งแรกในการไป บาร์เกย์ในรัฐฟลอริดา
ปัจจุบัน เบ็คอยู่ระหว่างเข้ารับฮอร์โมนบำบัด เพื่อเตรียมเตรียมผ่าตัดแปลงเพศ และทุกครั้งเธอจะสวมวิกผมยาว แต่งหน้า และสวมเสื้อผ้าผู้หญิง
ในคำนำของหนังสือ เบ็คกล่าวว่า เธอเขียนหนังสือเล่มนี้ก็เพื่อให้เด็กรุ่นใหม่ได้อ่าน และเพื่อกระตุ้นพวกเขาให้ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ ทำดีต่อผู้อื่นและปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความจริงใจ

 

ขอบคุณข่าวจาก www.matichon.co.th

เรื่องน่าสนใจ