วันนี้ (5 ต.ค. 58) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้า จากเหตุฝนตกหนักเมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ทำให้หิน ดิน และต้นไม้จากเนินเขาถล่มทับหมู่บ้านเอลกัมเบรย์ทู ในเมืองซานตา กาตารินา ปินูลา ห่างจากกรุงกัวเตมาลา ซิตี้ ทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 15 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ หน่วยกู้ภัยรวมถึงอาสาสมัคร และญาติพี่น้องที่สูญหายจากภัยธรรมชาติครั้งนี้ ต่างเร่งค้นหาผู้สูญหาย โดยใช้ทั้งรถตักดิน พลั่ว และนำสุนัขมาช่วยค้นหาร่างที่ถูกฝังจมดินอยู่
ฮูลิโอ ซานเชซ โฆษกของคอนเรด หรือสำนักงานรับมือเหตุฉุกเฉินของกัวเตมาลา กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยทำตามขั้นตอนสากลที่ต้องดำเนินการค้นหาและกู้ภัย 72 ชั่วโมงหลังเกิดภัยพิบัติ และหนึ่งในทีมกู้ภัยเผยว่าหลังจากนี้แล้วยากที่จะพบผู้รอดชีวิต
ขณะที่ผู้สูญเสียรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ดินถล่มครั้งนี้เป็นเหตุการณ์เลวร้ายที่สุดในชีวิต สมาชิกในครอบครัวของเธอสูญหายไปถึง 21 คน ตอนนี้พบน้องสะใภ้แค่คนเดียว ขณะที่ผู้ประสบภัยอีกราย กล่าวว่า ยังค้นหาแม่และพี่น้องอีก 7 คนที่หายสาบสูญ
วิลเลียม มานซิญา รัฐมนตรีกลาโหมกัวเตมาลา กล่าวว่า หมู่บ้านแห่งนี้อาศัยอยู่ในภูมิประเทศที่ต่ำมาก และควรมีความหวังที่จะพบผู้รอดชีวิตเพิ่ม แต่ล่าสุดมีรายงานว่า พบผู้เสียชีวิตแล้ว 107 คน และยังสูญหายอีกหลายร้อยคน
เจ้าหน้าที่ของเมือง เตือนให้ชาวบ้านในหมู่บ้านอพยพไปอยู่ที่อื่นมาหลายครั้งแล้ว เนื่องจากหมู่บ้านตั้งอยู่ในหุบเขาที่เสี่ยงจะเกิดดินถล่มได้ง่าย แต่หลายครอบครัวไม่ยอมย้ายเพราะไม่มีที่อยู่ใหม่ ซึ่งในเดือนต.ค.ปี 2548 เกิดฝนตกหนักและดินถล่มในหมู่บ้านปานาบาจ์ในเมืองซานติอาโกอัตติลันทางตะวันตกเฉียงใต้ของกัวเตมาลา ทำให้ทั้งหมู่บ้านโดนฝังจมดินพร้อมกับร่างของชาวบ้านหลายร้อยคน
