ได้ชื่อว่าเป็น “ผู้หญิง” ที่ผ่านมรสุมชีวิตอย่างหนักหน่วงและเข้มแข็งมากที่สุดในตอนนี้ สำหรับ “พลอย-พลอยพรรณ ทวีรัตน์” ภรรยาคนสวยของนักร้องหนุ่ม “ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล” ที่ไม่รู้ว่ากลายเป็นอดีตหรือยัง แต่วันนี้พลอยขอใช้ชีวิตในแบบฉบับ “คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว” เพราะคุณสามียังไม่ยอมกลับบ้าน และทุ่มเวลาให้กับการเลี้ยงทั้ง 2 คนอย่าง “แพนเตอร์” และ “พูม่า” วันนี้ทีมข่าว “ช่อง 2” ข่าวลึก บันเทิงร้อน ขอบุกบ้านย่านบางนาสัมผัสวิถีชีวิตความเป็นแม่แบบเต็มตัว พร้อมพูดคุยครั้งแรกกับ “คุณแม่พิจิตรา ทวีรัตน์” (คุณแม่ขอพลอย) ผู้ซึ่งอยู่เคียงข้างและเคยเติมเต็มเธอมาโดยตลอด
ตอนนี้เริ่มวางแผนให้ลูกๆ ยังไง ?
“เดือนมีนาคมปีหน้าก็จะกลับไปทำงานแล้ว ส่วนเรื่องของการเลี้ยงลูก ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เราสามารถจัดตารางเวลาได้ ถ้าเกิดต้องบินก็ต้องสลับกับคุณแม่ ยังไงก็ต้องมีผู้ใหญ่ที่คอยดูแล ด้วยความที่เราเลี้ยงลูกมาตลอด พอจะกลับไปบินก็ต้องกังวลแล้วละว่าลูกจะโอเคมั้ย ซึ่งตรงนี้ต้องให้คุณแม่พลอยเข้ามาดูแลหลานเยอะหน่อย เรื่องเวลากับการเลี้ยงลูกไม่มีปัญหา เอาจริงๆ แม่พลอยเป็นแอร์ตั้งแต่พลอยเป็นเด็กมากๆ เลย เราก็รู้สึกว่าไม่ได้ขาดอะไร”
เหนื่อยมั้ยกับการต้องแบกรับภาระหน้าที่เพียงคนเดียว ?
“ไม่เหนื่อย ทุกวันนี้ที่ทำอยู่รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า ถ้าให้มานั่งเลี้ยงลูกเฉยๆ ไม่มีงาน ไม่มีรายได้จากการทำงานของตัวเองเราก็จะรู้สึกแย่ แต่ตอนนี้เราสามารถทำงานได้ด้วย เลี้ยงดูได้ด้วย ใช้เวลา 24 ชั่วโมงของตัวเองให้มีคุณค่า มีประโยชน์ที่สุด”
มีวางอนาคตลูกทั้งสองคนไว้ยังไงบ้าง
“อยากให้เขาเป็นคนที่มีสุขภาพจิตดี ตอนนี้อนาคตขึ้นอยู่กับตัวเขา เราไปกำหนดไม่ได้ว่าจะให้เขาเป็นยังไง แต่ว่าอยากให้เขาเป็นคนที่มีความสุข และให้เขารู้สึกว่าสิ่งที่เขามีมันพอเพียง ให้มีความสุขกับสิ่งที่เขามีสิ่งที่เขาเป็น ไม่ทำตัวให้ภาระของคนอื่น ไม่ต้องให้คนอื่นเขาลำบากเพราะเรา เพราะเป็นสิ่งที่สำคัญในสังคม”
ขอถามถึงเรื่อง ปีเตอร์ ทุกวันนี้มีติดต่อมาหรือยัง ?
“เชื่อว่าเขาเกือบจะกดมือถือแล้วละ แต่อาจจะยุ่งเพราะยังโปรโมทหนังไม่จบ เราเชื่อว่าเขาต้องคิดถึงลูกแหละ เพราะลูกออกจะน่ารัก อย่างลูกๆ คนเล็กยังไม่รู้เรื่อง แต่คนโตด้วยความที่ในบ้านมีรูปครอบครัวเยอะ เขาเห็นหมวกกันน็อคเขาจะเรียกป๊ะป๋าๆ แต่พลอยว่าเขายังเด็กเกินไปที่จะต้องรับรู้เรื่องเหล่านี้ แต่เรายืนยันว่าเรื่องความรักเขาจะไม่ขาดแน่นอน”
ถามตรงๆ ถ้าสักวันหนึ่งปีเตอร์จะกลับมาพร้อมที่จะให้เขากลับมามั้ย ?
“แน่นอนคะ อยากจะให้กลับมาเป็นครอบครัว เป็นพ่อของลูก กลับมาอยู่ร่วมกัน เวลาไปเดินห้างก็แอบคิดนะเวลาเขามาเป็นครอบครัว แต่ลึกๆ เราก็มั่นใจนะ ว่าเราสามารถทำให้ลูกเราไม่รู้สึกขาด จะบอกเลยว่าชีวิตคนเรามันไม่ยาก หากรู้คุณค่าของตัวเรา ตอนนี้ก็มีแฟนคลับลูกๆ ที่คอยให้กำลังใจ ส่วนของพลอยเองไม่ได้รู้ว่าตัวเองมีแฟนคลับอะไรหรอก เราแค่พยายามเป็นตัวอย่างที่ดีของสังคม การที่เราเป็นแม่ แล้วต้องอยู่ในจุดที่อยู่ตอนนี้ เราสามารถรับปัญหาตรงนี้ยังไง แล้วต้องทำยังไงกับชีวิต พลอยเชื่อเลยว่าคนที่แม่จะมีปัญหา ถ้าไม่ใช่ปัญหาเรื่องพลอย ก็ต้องเป็นปัญหาอย่างอื่น พลอยเลยมีความรู้สึกว่าอยากให้คุณแม่ทุกคนตั้งหลักให้ได้ ไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไรก็แล้วแต่ ตัวเรามีคุณค่าที่สุด และเราเป็นของที่คุณที่สุดของลูกของเรา”
ถึงตอนนี้พลอยอยากจะบอกอะไรกับคุณแม่บ้าง ?
“ต้องขอบคุณ คุณแม่ของพลอยที่เลี้ยงตั้งแต่เล็กจนโต ความรักที่คุณแม่ให้พลอยเยอะมากๆ เพราะว่าคุณแม่ไม่เคยทิ้งลูกเลย ทุกอย่างของเขาคือลูก อย่างถ้าตัวพลอยกับหลานเครียด เขาเครียด เรามีความสุขเขามีความสุข ทุกวันนี้คุณแม่พยายามที่จะให้พลอยเครียด ด้วยความที่มาอยู่กับหลานเยอะ ช่วยดูให้เรารู้สึกว่าเราสบายใจ ขอบคุณคุณแม่มากๆ ตั้งแต่เด็กจนโตที่คอยดูแล ทำให้พลอยรู้สึกว่าชีวิตนี้ไม่ใช่พลอยตัวคนเดียว”
นอกเหนือกำลังใจจากคนอื่นๆ กำลังใจที่สำคัญที่สุดของ “พลอย” นั้นก็คือ คุณแม่ ที่อยู่เคียงข้างตลอดและพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อ “ลูก” และ “หลาน” แบบไม่มีเงื่อนไข พลอยได้มา ปรึกษาคุณแม่ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นยังไงบ้าง ?
คุณแม่พิจิตรา : พลอยเขาไม่ได้ปรึกษาอะไรมากมาย คิดว่าส่วนหนึ่งเขาไม่อยากจะให้คุณแม่กลุ้มใจ แต่ด้วยความที่เราเป็นแม่เป็นลูกกันมันก็จะสื่อกันได้ เราก็จะรู้ว่าความทุกข์ของเขามี เขาก็จะมาเล่าในเรื่องบางเรื่องแค่นั้นเอง แต่ในส่วนของคุณแม่เองเมื่อเราเข้าใจและเรารู้ว่าเขาทุกข์ขนาดไหน เราก็จะให้กำลังใจเขา เราจะบอกเขาตลอดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตตอนนี้มีลูกมา2คน ถือว่าเป็นของขวัญจากพระเจ้า เราต้องดูแลเขาให้ดี อย่าไปคิดเรื่องอื่น คนทุกคนเกิดมามีปัญหาทั้งนั้น ช่วงแรกๆ เขาคงเครียดมาก แต่เขาก็คิดได้ว่าถ้าเขายังอยู่อย่างนี้ต่อไปเขาก็ตจะก้าวต่อไปไม่ได้ ตอนหลังเขาก็เริ่มที่จะมาคิดเรื่องลูก
ตอนนี้คุณแม่ก็รับหน้าที่เลี้ยงหลานด้วยแบ่งเวลายังไงกับพลอย ?
คุณแม่พิจิตรา : เรื่องแบ่งเวลาเราไม่ได้แบ่งเวลากันโดยตรงว่าใครจะดูยังไง ส่วนของคุณยายเราก็ติดหลานได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของเขาก็ทำให้เรามีความสุข คนแก่ส่วนมากมีความสุขกับการได้อยู่กับหลาน
เห็นลูกสาวของตัวเองมีบทบาทความเป็นแม่รู้สึกยังไง ?
คุณแม่พิจิตรา : รู้สึกว่าเขาโตขึ้น พอเขาเป็นแม่เขาก็มีความคิดเปลี่ยนไปพอสมควร ตอนที่เขายังไม่เป็นแม่คน เราไม่รู้หรอกว่าเราพูดไปแล้วเขาจะเข้าใจในสิ่งที่เราบอกเขาหรือเปล่า แต่พอเขาเป็นแม่เรารู้สึกว่าเราจับต้องได้เขาคิดอะไรเป็นผู้ใหญ่ขึ้น
ยังเรื่องอะไรที่ต้องห่วงลูกคนนี้บ้าง ?
คุณแม่พิจิตรา : พลอยไม่ค่อยห่วงแล้วนะ เพราะช่วงหลังเราเห็นว่าเขาไม่ค่อยทุกข์มาก เห็นเขาสามารถแก้ปัญหาไปได้ จิตใจมั่นคงมากขึ้น เราก็มาดูที่หลานละ คุณยายจะมองที่หลาน 2 คนแล้วว่าจะยังไง ทั้งในเรื่องของค่าใช้จ่าย การศึกษา จะเลี้ยงเขายังไงมีสภาพจิตใจที่มั่นคง แล้วเขามีความสุข เป็นสิ่งที่ครอบครัวเรามองแบบนี้ อยากจะบอกพลอยว่าแม่รักลูกโดยที่ไม่มีเงื่อนไข แม่ก็จะอยู่ตรงนี้แล้วคอยช่วยเหลือลูก ให้ความรักความอบอุ่นจะคอยเป็นที่พึ่งของลูก สำหรับหลานๆ ก็จะรักแบบคุณยายได้มีเวลาได้ชื่นชมเขาก็เพียงพอแล้ว