‘ปวีณา หงสกุล’ พาผู้เสียหายชี้ตัว สาวแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ เปิดเพจเฟซบุ๊ก หลอกเหยื่อโอนเงินเข้า มีเงินหมุนเวียนกว่า 1 ล้านบาท หลังถูกรวบคาบ้านพัก จ.ตาก สารภาพทำมาแล้ว 10 เดือน เงินที่ได้มานำไปใช้หนี้พนัน…
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 27 ม.ค.59 พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รองผบช.ก. รรท.ผบก.ป. พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯ สามารถจับกุมตัว นางสาววิไลลักษณ์ อินทรพิทักษ์ หรือ กุ้ง อายุ 36 ปี คนร้ายแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณา หลอกเหยื่อโอนเงินเข้า ต่อมา นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้พาผู้เสียหาย 5 ราย ซึ่งเข้าแจ้งความไว้แล้ว
ตามลำดับ ทั้งหมดนี้ถูกคนร้ายอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ หลอกให้โอนเงินค่าธรรมเนียมในการเดินเรื่องช่วยเหลือ และเงินบริจาค
นางปวีณา หงสกุล เปิดเผยว่า เมื่อประมาณปลายเดือน ธ.ค.58 มีผู้เสียหายสอบถามมายังมูลนิธิปวีณาฯ เรื่องการโอนเงินมาให้ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วไม่มีเข้ามาในบัญชี จากนั้นจึงสอบถามรายละเอียดจนทราบว่า มีคนร้ายอ้างชื่อ กุ้ง เป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ ติดต่อกันทางโทรศัพท์หลอกลวงว่า จะให้ความช่วยเหลือเงินแก่ผู้เสียหาย แต่ขอให้ผู้เสียหายโอนเงินค่าธรรมเนียมล่วงหน้า เข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง ชื่อ วิไลลักษณ์ อินทรพิทักษ์ จนผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินให้
“นอกจากนี้ นางสาวกุ้ง ยังหลอกผู้เสียหายอีกหลายราย สูญเงินกันคนละหลายหมื่นบาท หลังจากโอนเงินแล้วผู้เสียหายแต่ละรายก็ไม่สามารถติดต่อนางสาวกุ้งได้อีกเลย จนกระทั่งแจ้งเข้ามายังมูลนิธิปวีณาฯ ถึงได้ทราบเรื่อง กระทั่งพาเข้าแจ้งความกองปราบปราม” นางปวีณา กล่าว
นางปวีณา กล่าวต่อว่า กระทั่งต่อมา เจ้าหน้าที่สืบทราบว่า บัญชีธนาคารที่ผู้เสียหายโอนเงินไปนั้น ตรงกับชื่อที่ นางสาววิไลลักษณ์ อินทรพิทักษ์ โดยมีเงินหมุนเวียนกว่า 1 ล้านบาท จึงได้ออกหมายจับและติดตามไปจับกุมนางสาววิไลลักษณ์ ได้ภายในบ้านกลางเขา ต.เชียงทอง อ.วังเจ้า จ.ตาก เมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา ดำเนินคดีข้อหา ฉ้อโกง
“รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะผู้เสียหายล้วนเป็นบุคคลที่น่าเห็นใจต้องการความช่วยเหลือ บางท่านก็มีจิตอันเป็นกุศลที่ต้องการบริจาคช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ กลับต้องมาตกเป็นเหยื่อ ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานได้อย่างรวดเร็ว และขอเรียนว่า มูลนิธิปวีณาฯ จะรับบริจาคโดยโอนให้เงินเข้าบัญชีธนาคาร ชื่อบัญชี “มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี” อย่างเดียวเท่านั้น ไม่รับเงินสด และไม่มีบัญชีส่วนตัวของบุคคลใด” นางปวีณา กล่าวทิ้งท้าย
สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า หลอกลวงเหยื่อจริง โดยอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิปวีณาฯ โดยมีคนหลงเชื่อจำนวนมาก ซึ่งจะเลือกเหยื่อที่เดือดร้อน และติดต่อทาง Facebook ทำมาแล้วประมาณ 10 เดือน มีเงินในบัญชีกว่า 1 ล้านบาท เงินที่ได้มานำเงินไปใช้หนี้การพนันไฮโล
ขณะที่ผู้เสียหาย 1 ราย เปิดเผยว่า ตนเองมีความเดือดร้อนเพราะลูกสาววัย 2 ขวบ มีอาการป่วยเป็นโรคมะเร็ง และได้ขอความช่วยเหลือผ่านทาง Facebook แต่ผู้ต้องหาอ้างว่า เป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ จะให้การช่วยเหลือเงิน 200,000 บาท แต่ต้องโอนเงินค่าดำเนินการค่าธรรมเนียม 10,000 บาท ไปให้ก่อน ตนหลงเชื่อเพราะต้องการความช่วยเหลือจึงได้โอนเงินไป แต่สุดท้ายก็ติดต่อกับผู้ต้องหาไม่ได้ จึงคิดว่าถูกหลอกและไปแจ้งความไว้