เช้าวันนี้ (19 มีนาคม 2560) เวลา 05.00 น. ที่สวนสันติชัยปราการ ถ.พระอาทิตย์ เขตพระนคร กทม. นายแพทย์วิศิษฎ์ ตั้งนภากร อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข นำคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่กรม สบส. เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านหรืออสม.ดีเด่น ประจำปี 2560 และตัวแทนอสม.ทั่วประเทศรวมกว่า 1,700 คน
ร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและแสดงความอาลัยต่อหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในวันอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งชาติประจำปี 2560 โดยยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 89 วินาที จากนั้นประธานชมรมอสม.แห่งประเทศไทยนำอสม.กล่าวปฏิญาณตนแสดงความจงรักภักดีของพลังจิตอาสาทำดีเพื่อแผ่นดิน ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงมาร์ชอสม.
โดยอสม.ทุกคน ได้ร่วมลงนามใต้พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขนาด 29.7 x 42 เซนติเมตร ถวายสัจจะความดีเพื่อสุขภาพดีของชาวไทยทั่วแผ่นดิน ในกิจกรรม “1 อสม. 1 สัจจะความดี” และอัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์ไปประดับไว้ที่บ้านเพื่อเป็นขวัญกำลังใจมุ่งปฏิบัติการสร้างสุขภาพตนเอง และชุมชนให้แข็งแรง จากนั้นอสม.ได้เดินทางเข้ากราบพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมหาราชวัง
นายแพทย์วิศิษฎ์ กล่าวว่า กรม สบส.ได้อัญเชิญกระแสพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช ซึ่งพระองค์ทรงถือว่าปัญหาด้านสุขภาพอนามัยของประชาชนเป็นปัญหาสำคัญที่ต้องได้รับการดูแลแก้ไข เนื่องจากคนเป็นทรัพยากรสำคัญในการพัฒนาประเทศ มาเป็นเป้าหมายการดำเนินงานเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมประชาชนในการดูแลสุขภาพตนเอง
โดยผ่านกลไกของ อสม.ทั่วประเทศที่มี 1,047,800 คน ซึ่งการขานพลังถวายสัจจะ 1 อสม. 1 ความดี สร้างสุขภาพดีพร้อมกันทั่วประเทศครั้งนี้ จะเป็นก้าวสำคัญของการเปลี่ยนแปลงระบบสุขภาพครั้งใหญ่ โดยมีอสม.เป็นบุคคลต้นแบบหรือไอดอลที่ดีในทุกชุมชน และเป็นแกนนำการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพของคนในชุมชนให้สำเร็จ
ซึ่งในปี2560นี้รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายเสริมสร้างความเข้มแข็งบริการด้านสาธารณสุขเน้นความทั่วถึง มีคุณภาพ และประสิทธิภาพ เพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพขั้นพื้นฐาน และให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของอสม. ให้เป็นนักจัดการสุขภาพชุมชน รู้เท่าทันภัยเสี่ยงสุขภาพ สามารถเป็นสื่อกลางให้ข้อมูลความรู้แก่ประชาชนได้
สำหรับการกระทำความดีของอสม.เพื่อเป็นแบบอย่างประชาชน ประกอบด้วยการตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอ ตรวจประเมินความเสี่ยงการเกิดโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด พร้อมทั้งปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้มีสุขภาพดีตามหลัก 3 อ 2 ส ได้แก่ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบทั้ง 5 หมู่ ลดหวาน มัน เค็ม เพิ่มกินผักและผลไม้ ออกกำลังกายให้เหมาะสมอย่างน้อยวันละ 30 นาที สร้างอารมณ์ให้แจ่มใส ลดละเลิกสูบบุหรี่ เลิกดื่มสุรา
รวมทั้งสารเสพติดอื่นๆ จากการประเมินสุขภาพของอสม.ทั่วประเทศในรอบ 2 ปีมานี้ พบมีสุขภาพปกติแข็งแรงร้อยละ 73 มีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูงร้อยละ 17 และที่เหลือร้อยละ10 ป่วยเป็นโรคเบาหวานความดันโลหิตสูง