ที่มา: matichon

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 31 ตุลาคม ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ตามที่มีพระราชานุญาตให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เป็นวันที่ 3 ประชาชนจากทั่วทั้งประเทศต่างมาเข้าคิวเพื่อเข้าสักการะตั้งแต่เช้าตรู่

s__1122325

บางคนมาเข้าแถวตั้งแต่ตี 2 โดยเจ้าหน้าที่เปิดให้เข้าแถวทางฝั่งศาลฎีกา ก่อนจะค่อยๆ เดินมาเรื่อยๆ ออกจากสนามหลวงด้านประตูฝั่งกรมศิลปากร และต่อแถวเข้าเต๊นท์ที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ให้บนถนนหน้าพระธาตุ และเดินเข้าประตูวิเศษไชยศรี เดินเข้าสู่ประตูพิมานไชยศรี ผ่านพระที่นั่งจักรี เข้าสู่กำแพงแก้วขึ้นไปสักการะพระบรมศพ โดยวันนี้สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะพระบรมศพในเวลา 05.15 น.

โดยวันนี้ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังคงนำพันธุ์ข้าวสารจากกรมการข้าวมาแจกให้กับประชาชนที่ถวายสักการะพระบรมศพเสร็จแล้ว

s__1122322-1

ทั้งนี้ หลังจากถวายสักการะแล้ว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานภาพพระบรมโกศพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ขนาด 5 คูณ 7 นิ้ว และยาดมสมุนไพร สูตรผ่อนคลาย ร่วมถวายเป็นพระราชกุศล จากโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ สถานีอนามัยพระราชทานนาม และมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร แด่พสกนิกรที่มาร่วมถวายสักการะทุกคน

นางสาวเกณิกา ปันสุพฤกษ์ อายุ 15 ปี และนายเดชาธร ปัทวิง อายุ 15 ปี นักเรียนโรงเรียนเทพบดินทร์วิทยา จากจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเดินทางมาด้วยกัน 2 คน ตั้งแต่วันศุกร์ ก่อนจะเดินทางมาต่อแถวเมื่อช่วงตี 2 ของวันนี้ กล่าวว่า อยากจะมากราบสักการะพระบรมศพสักครั้งในชีวิต เมื่อได้เข้าไปข้างในสมกับที่ตั้งใจไว้ก็มีความรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก

ก่อนจะมาได้บอกคุณพ่อคุณแม่ว่าเราจะมาที่นี่ แม้ว่าจะไกลบ้านท่านก็อนุญาตและอยากให้มา แม้จะรอนาน 4-5 ชั่วโมง แต่ก็เทียบกันไม่ได้กับตลอดระยะเวลา 70 ปีที่พระองค์ทรงงานหนักตลอดมา ส่วนตัวเป็นนักดนตรีแซกโซโฟน ทำให้ประทับใจพระอัจฉริยภาพของพระองค์ในด้านดนตรี ทั้งพระราชนิพนธ์เพลงและทรงเล่นเครื่องดนตรีได้ทุกชนิด ทุกครั้งที่ได้บรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ทำให้รู้สึกเป็นเกียรติมาก ทรงเป็นต้นแบบของนักดนตรี

นางฉวี น้อยเสน อายุ 75 ปี จากจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่เดินทางมาตั้งแต่ช่วงตี 2 เพื่อมาต่อแถวเข้าถวายสักการะกับลูกหลานและสามี 7 คน กล่าวว่า เมื่อได้ทราบข่าวก็รู้สึกว่าเราต้องมาด้วยตัวเองสักครั้งหนึ่ง หลังจากที่ได้แต่ไปลงนามตามสถานที่ราชการต่างๆ จึงเหมารถตู้กับคนที่บ้านมาด้วยกันแต่เช้า

s__1122329

วันนี้เป็นครั้งแรก เพราะ 2 วันที่ผ่านมาหลังจากติดตามข่าวแล้วคิดว่าคนเยอะมาก คงจะมาไม่ไหวด้วยอายุมากแล้ว อย่างไรก็ตามต้องมาสักการะด้วยตัวเองให้ได้สักครั้ง ทุกวันนี้ดูโทรทัศน์ก็ร้องไห้ เห็นพระองค์เสด็จฯ ไปตามเส้นทางต่างๆ ช่วยเหลือชาวบ้านตลอด ก็ได้แต่พนมมือ ร้องไห้ไปตลอด

“เมื่อตอนอายุ 50 มีโอกาสได้เข้ามาถวายสักการะพระบรมศพของสมเด็จย่าครั้งหนึ่ง ครั้งนี้จึงคิดว่าเราควรมาก่อนที่ตนเองจะแก่ไปมากกว่านี้แล้วจะมาไม่ได้ ช่วงนี้วัดแถวบ้านซึ่งมีสวดพระอภิธรรมพระบรมศพเกือบทุกวัน และยังนึกถึงพระองค์เสมอ

แต่ก่อนเคยได้เฝ้าฯ รับเสด็จพระองค์เมื่อครั้งเสด็จฯมาเปิดเขื่อนที่บ้านครั้งหนึ่ง ความเป็นนักพัฒนาของพระองค์ทำให้เราลืมตาอ้าปากได้ มีน้ำใช้ มีกิน เป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้สำหรับคนที่เกิดในรัชกาลที่ 9 อย่างเรา แค่มาถึงแล้วได้รับพระบรมฉายาลักษณ์ที่แต่ละคนนำมาให้ ไปใส่กรอบก็รู้สึกดีใจแล้ว” นางฉวีกล่าว

s__1122331

ขณะที่ นางสาวอชิตา คงสง จากจังหวัด ภูเก็ต อายุ 36 ปี ที่ถึงกับร่ำไห้หลังขึ้นถวายสักการะแล้ว กล่าวว่า ออกจากภูเก็ตมาถึงกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันเสาร์ ตั้งใจจะมาถวายสักการะตั้งแต่เมื่อวานแต่ฝนตกหนักมากมาไม่ถึงที่นี่ จึงตั้งใจมาวันนี้ตั้งแต่มาตี 2 ก่อนจะขับรถกลับหลังจากนี้ทันทีเพราะแต่ละคนลางาน และลาเรียนมาบ้าง ไม่ไหวจะรอนานแค่ไหนก็ขอให้ได้กราบด้วยตัวเอง เมื่อเกิดเหตุแบบนี้ทุกคนในบ้านก็อยากมาให้เร็วที่สุด ทั้งย่า ทวด ทุกคนในบ้าน ตื่นขึ้นมาแต่งตัวกันตั้งแต่เที่ยงคืนเพราะอยากให้ถูกระเบียบที่สุด

“ส่วนตัวดีใจที่ได้เกิดในแผ่นดินของพระองค์ มาที่นี่ก็ได้เห็นความรักที่ทุกคนมีให้กับพระเจ้าแผ่นดิน เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นได้ในช่วงเวลาไม่นาน แต่เป็นการซึมซับตั้งแต่เกิด เป็นความผูกพันที่ก่อขึ้นเองในจิตใจ ไม่เหมือนความรักที่มีให้กับคนทั่วไป ปกติแม้ไม่ได้ฟังพระราชดำรัสอย่างจริงจังมากนัก แต่เรื่องความพอเพียงเป็นสิ่งที่จดจำขึ้นใจ ไม่เพียงพอเพียงแค่เรื่องเงินทอง แต่คำพูดก็พอเพียง เมื่อพูดน้อยปัญหาก็จะไม่เกิด เป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวในใจเสมอ” นางสาวอชิตากล่าว

เรื่องน่าสนใจ