ผมเห็น หลายกระทู้มากๆที่รีวิว การเปลี่ยนแปลงตัวเอง (body transformation) แต่ส่วนมากที่ผมเห็นคือ จะเป็นคนที่ค่อนข้างมี น้ำหนัก หรือ ตัวใหญ่ หรือคนอ้วน มีพุง อยู่แล้ว ที่กลายมาเป็นหุ่นล่ำๆให้สาวๆ กรี๊สสสส 555
ทำให้หลายๆคน ที่”ตัวเล็กๆ” ผมขอเน้นว่าตัวเล็กๆจริงๆครับ รู้สึกท้อแท้ใจว่า กว่าจะสร้างได้ใหญ่แบบนั้น คงต้องอ้วนก่อนเป็นแน่ หลายคนอาจจะหมดกำลังใจ โดยเฉพาะหุ่นแบบ คนขี้ก้าง นี่คือผมครับ เริ่มแรกประมาน 30 เดือนที่แล้ว น้ำหนัก 43
เริ่มเนื้อหา เรื่องมันมีอยู่ว่า เด็กน้อยหนัก 43 คนนี้แหละครับ อกหัก 5555 มันฟุ่งซ่านครับ นาทีนั้น คือถ้าไม่ทำอะไรสักอย่าง เก็บตัวอยู่ในห้องนี่ บ้าตายแน่ๆ
เลยได้เพื่อนคนนึงชวนกันออกกำลังกาย อย่างแรกที่คิดได้คือ ยกเหล็กครับ ก็ยกกันงูๆปลาๆ มั่วเลยแหละครับ ไม่มีความรู้อะไรเลย
เวลาผ่านไป เดือน สองเดือน เห้ย แมงแปลกๆวะ เริ่มมีเนื้อมีหนัง 555 น้ำหนักขึ้นมา 45 – 46
นี่เลยครับ บัดดี้ผม ถ้าไม่มีเขา ก็คงไม่มีผมวันนี้
พอเวลาผ่านไปสักพัก ผมเริ่ม รุ้สึกว่ามัน เกิดการบ้า 5555 ลงทุนซื้ออาหารเสริมมากิน ตัวแรกที่กินรู้สึกจะเป็น ของ dymatize สักตัวนึงจำไม่ได้ แต่อาหารหลักนี่ ข้าวราดแกง ก๊วยเตี้ยว ทุกอย่างที่มันอร่อย ผ่านไปอีกสักเดือนสองเดือน
เห้ยมันใช้ได้วะ อยู่ๆเริ่มมีแขน เริ่มมีหลัง
ก็ทำอยุ่แบบนี้มาเกือบปีแหละครับ หุ่นก็พัฒนามาเรื่อยๆตามลำดับ หมดกับอาหารเสริม พวกเวย์นี่ เดือนละ กระปุกเลย อาหารหลักไร้ความรุ้ คิดว่าไม่สำคัญทำมาเรื่อยๆๆๆ จนวันนึง มันเริ่มตัน …. เกิดความคิดที่ว่า “ทำไมมันอยู่กับที่วะ ไม่เห็นเหมือนแรกๆ”
จนมันเกิดความรุ้สึกว่า ต้องมีอะไรไม่ใช่ละ ผมเลยลองปรึกษารุ่นพี่คนนึงที่เล่นเวทมานาน จึงได้รุ้ความจริงที่ว่า อาหารเสริม มันเป็นแค่ ส่วนเล็กๆ จริงๆ มันต้องอาหารหลักสิ ที่จะทำให้เราพัฒนาต่อไปได้
หลังจากนั้น ผมนี่ต้มไก่ ทอดไก่ กินไข่ ยาวเลยครับ 5555 ด้วยความโชคดีที่เป็นคนอยุ่ง่ายกินง่าย หลายคนอาจจะมองว่ามันน่าเบื่อ แต่ผมก็พยายามครับ ช่วงแรกๆไฟมันแรงครับ ไก่ต้ม 4 5 มื้อ นี่ สบายเลย ช่วงนี้ร่างกายพัฒนาไวมาก!
ตัวอย่างอาหาร
ร่างกายก็โตไปอีกระดับ
แต่อย่างที่บอกครับ ถึงแม้ร่างกายจะไปได้ดี แต่ผมกลับรู้สึกว่า “เห้ย แมง ทำไมไม่มีความสุขเลยวะ กูตึงกับมันมากไปมะ นี่วันๆกินแต่แบบนี้ ความสุขความสนุกที่มีตอนแรก มันทำไมเริ่มกลายเป็นกฏเกณ กลายเป็นความเครียดให้ตัวกูเองวะ ความสนุกความสุขแบบตอนแรกๆมันหายไปไหน สิ่งนึงที่ผมเรียนรู้จากการกินครับ ถ้าคุณเครียดกับมันมากเกินไป ต่อให้คุณกินได้ตรงครบตามที่มันต้องการที่จะสร้างกล้ามเนื้อ ร่างกายคุณก็จะไม่มีความสขุ”
หลังจากบ้าได้สักพัก ทุ่มเทจน ลืมว่า ที่เราทำตอนแรก มันสนุก แต่เราทำตอนนี้มันคนละเรื่อง ผมเริ่มกลับมา enjoy กับชีวิตอีกครั้ง เดินทางสารกลาง
ถึงแม้ว่าผมจะไม่สามารถ ทาน 4 5 6 มื้อ แบบเมื่อก่อนหรือคนอื่นที่เล่นจริงจังแล้ว ไม่ได้แปลว่าผมไม่อยากจะทานนะครับ แต่เนื่องด้วยที่ว่าผมทั้งยังเรียนและมีงานอื่นๆต้องทำ แต่ผมก็พยายาม จะกินให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ก็ไม่ลืมว่า จะไม่ทำให้มันเครียดแบบที่เคยเป็นอีกแล้ว
“เพราะถ้าเราไม่สนุกกับสิ่งที่กำลังทำเมื่อไหร่ มันก็ไม่มีความหมายที่จะทำต่อไป”
หลังจากที่หันมาเดินทางสายกลาง ชิว กิน(ยังคงกินแต่ของที่มีประโยชน์) เท่ว เล่นเวท ปาตี้ มาดูสิ่งที่เกิดขึ้นกับ
ผมพบว่า พอความเครียดหายไป ผมเริ่มกลับมาสนุกกับการเล่นเวทอีกครั้ง เริ่มกินอาหารครีนได้อร่อยอีกครั้งหลังจากที่มันเคยกินด้วยเพราะแค่ความจำเป็น ร่างกายผมสามารถไปต่อได้อีกขั้น มันคือความเครียดนั้นเองที่รั้งผมไว้ตอนแรก
ภาพต่อไปนี้ น้ำหนักผมอยู่ที่ 60 ครับ
แต่ก็นะ เรามันคนตัวเล็กมาก่อน จะปั้นหุ่นขึ้นมายังไง ก็ยังตัวเล็กอยู่ดี กับน้องชายสูง 185 ผม 162
มีอยู่ สามอย่างที่อยากให้จำไว้ครับ สำหรับ ใครที่คิดจะเปลี่ยนตัวเอง 1 กินให้เยอะๆกินแต่ของดีๆ 2 กินเยอะ ก็ต้องมีความสุขกับชีวิตด้วย ฟิตเนสไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต ผมเห็นเดี่ยวนี้หลายคนเรียกได้ว่าทุ่มเทให้มันสุดๆ จนอาจจะลืมว่า อะไรที่สำคัญกว่า …. ความสุข สังคม เพื่อน ครอบครัว คนรัก …. และข้อสุดท้าย 3 อย่ายอมแพ้ครับ ยิ้ม
ยินดีให้คำปรึกษาคนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงตัวเอง ทั้งเรื่องอาหาร ความเครียด แรงบรรดาลใจ
ขอบคุณที่มาดู ขี้ยาแปลงร่างครับ
ขอขอบคุณ คุณสมาชิกหมายเลข 1936000 จากเว็บไซต์ Pantip