ธุรกิจการทำศัลยกรรมเกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด แต่จะได้มาตรฐานทางการแพทย์หรือไม่ เป็นเรื่องที่ “พิสูจน์ยาก” เพราะจะรู้ว่า “มีดหมอ…ทื่อ” ก็ต่อเมื่อ…ใบหน้าที่ทำ…ผิดรูป / คางที่ทำ…เบี้ยว / จมูกที่เสริม…บิดงอ ฯลฯ
ยุคสมัยนี้ ใครไม่ชอบรูปร่างหน้าตาตนเอง หรืออยากจะเสริมแต่งให้ตาโตเป็นสองชั้น คางเรียวได้รูป จมูกเป็นสัน ผิวหน้าเต่งตึง…ทำได้หมด เพราะความสวย-ความงาม-ความหล่อ…ไม่เข้าใครออกใคร?
“ธุรกิจการทำศัลยกรรม” จึงเกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด แต่จะได้มาตรฐานทางการแพทย์หรือไม่ เป็นเรื่องที่ “พิสูจน์ยาก” เพราะจะรู้ว่า “มีดหมอ…ทื่อ” ก็ต่อเมื่อ…ใบหน้าที่ทำ…ผิดรูป / คางที่ทำ…เบี้ยว / จมูกที่เสริม…บิดงอ ฯลฯ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ…ตาดีได้-ตาร้ายเสีย
ตัวอย่างล่าสุดในโลกออนไลน์ของจีน มีการเผยแพร่ภาพพริตตี้และนางแบบสาวสวย ‘ลี่อิงจื่อ’ ที่ไปร่วมงานจัดแสดงรถยนต์แห่งหนึ่ง แต่ภาพที่ปรากฎเห็นใบหน้าของเธอที่หย่อนคล้อย ไม่เต่งตึง ผิดกับ 2 ปีก่อน ที่เธอดูสวย ราวกับราชินีแห่งวงการพริตตี้
ส่วนแวดวงคนดังในบ้านเรา ที่ออกมาเปิดใจยอมรับ “ความผิดพลาด” ว่า “ใบหน้าโฉมใหม่” ได้ผ่านศัลยกรรมมาแบบผิดรูป ก็มี ‘ดาว-มยุรี พันธนาม’ ที่พลาดพลั้งจากการทำศัลยกรรม ซึ่งกว่าเธอจะรู้ถึงพิษของ “ซิลิโคน” เล่นเอาช้ำเลือดช้ำหนอง หรืออดีตนักร้อง ‘ซันนี่ ยูโฟร์’ ที่ทำศัลยกรรมกับ “หมอเถื่อน” เพียงเพราะอยากสวย ทั้งไปฉีดหน้า-ทำจมูก-เสริมตา จนในที่สุด “หน้าพัง” เพราะพิษศัลยกรรมเหมือนกัน
สอบถามไปยังนพ.นภดล นพคุณ นายกสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย และอาจารย์พิเศษคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการทำศัลยกรรม ได้ข้อสรุปที่ชัดแจ้งว่า “ความสวย” ก็มี “วันหมดอายุ” เพราะสิ่งแปลกปลอมที่ถูกนำเข้าร่างกาย ต่างมีระยะเวลาความเสื่อม
โดยปัจจัยที่จะทำให้ความคงสภาพของการทำศัลยกรรมอยู่ได้นาน ขึ้นอยู่กับ “เทคนิคการทำศัลยกรรม” และ “อายุของผู้ทำศัลยกรรม” รวมถึง “ความถี่ในการตกแต่งเพิ่มเติม”
ยิ่งคนที่เสพติดศัลยกรรม หรือทางการแพทย์เรียกว่า ‘โรคความผิดปกติทางจิตใจ’ จะมีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบด้านลบสูงมากขึ้นไปอีก
ขณะที่นพ.เทพ เวชวิสิฐ เจ้าของประตูน้ำโพลีคลินิก คลินิกเสริมความงามชื่อดัง ให้ความเห็นว่า เมื่อทำศัลกรรมเสริมจมูกหรือคาง ด้วยซิลิโคนแท่งสำเร็จรูป หรือฉีดฟิลเลอร์ชนิดสลายตัวตามธรรมชาติ จะไม่มีวันหมดอายุ เพียงจะมีการเปลี่ยนแปลงตามวัย
แต่ถ้าฉีดฟิลเลอร์ชนิดที่ไม่สลายตัวตามธรรมชาติ คือแบบซิลิโคนเหลว จะมีอายุ 6 เดือน-1 ปี ซึ่งมีผลข้างเคียงในระยะยาว และหากติดเชื้อ จะรักษายากมาก เพราะเนื้อฟิลเลอร์จะปนอยู่กับเนื้อของใบหน้า โดยจะสร้างผังผืดหุ้ม และหดรั้ง จนทำให้จุดที่ฉีดบิดเบี้ยวและผิดรูปไปจากเดิม หรือถึงขั้นทำให้ตาบอดได้ อีกทั้งการรักษาก็ไม่สามารถนำเอาเนื้อฟิลเลอร์ออกได้หมดด้วย
และไม่ว่าจะเป็นการฉีดโบทอกซ์ลดเลือนริ้วรอย หรือการร้อยไหมยกกระชับหน้าเรียว ท้ายสุด…ผิวหน้าก็เหี่ยวย่น แม้กระทั่งการทำตาสองชั้นก็ยังมีจุดด้อย สามารถหย่อนคล้อย เสื่อมสภาพไปตามวัย
เรียกได้ว่า “ความสวย-ความหล่อ” ที่มาจากการทำศัลยกรรม…ยังไงก็มี “วันหมดอายุ” ทุกอย่างไม่อยู่ยั้งยืนยงแน่
ขอบคุณที่มาจาก เดลินิวส์