สำนักข่าว ไดอาริโอ ลิเบร ของสาธารณรัฐโดมินิกัน รายงานว่า ชายชาวอเมริกันวัย 54 ปีซึ่งโดยสารเครื่องบินจากเมืองฟิลาเดลเฟีย ได้ตะโกนหลอกผู้โดยสารบนเที่ยวบินเดียวกันว่า “ผมติดเชื้ออีโบลา พวกคุณไม่รอดแน่”

557000010323602

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สนามบินให้สัมภาษณ์กับ ฟ็อกซ์นิวส์ ละติโน ว่า หนุ่มพิเรนทร์คนนี้ยังอ้างว่าตนเอง “เพิ่งกลับจากแอฟริกา” ด้วย   ถึงเขาจะไม่ได้ตะโกนว่าตัวเองมี “ระเบิด” แต่ผลที่ตามมาก็ไม่แตกต่างกันนัก เพราะสร้างความตื่นตระหนกบนเที่ยวบินซึ่งพาผู้โดยสาร 290 ชีวิตเดินทางไปยังสาธารณรัฐโดมินิกัน

เครื่องบินลำดังกล่าวถูกแยกจอดเดี่ยวทันทีที่ไปถึงสนามบินปุนตาคานา ก่อนที่ทีมแพทย์ซึ่งสวมชุดป้องกันจะขึ้นมาพาตัวผู้โดยสารเจ้าปัญหาลงจากเครื่อง จากการตรวจร่างกายพบว่าผู้โดยสารรายนี้ไม่ได้ป่วยเป็นอีโบลาอย่างที่อ้าง อีกทั้งยังไม่มีไข้ เพียงแต่มีอาการไอเล็กน้อยขณะอยู่บนเครื่องบินเท่านั้น

557000010251702

นอกจากนี้ เขายังไม่เคยไปแอฟริกามาก่อนเลย  ผู้โดยสารบนเครื่องได้บันทึกคลิปวีดีโอขณะที่หนุ่มอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันรายนี้กำลังถูกทีมแพทย์พาลงจากเครื่องบิน

557000010323603

“เราพาผู้โดยสารคนนี้ไปส่งยังสายการบินซึ่งมีแผนจัดการปัญหาลักษณะนี้อยู่แล้ว แต่เขาจะต้องถูกส่งตัวกลับสหรัฐฯ เพื่อเข้ารับการตรวจร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง” วอลเตอร์ เซมิอัลโควสกี ผู้อำนวยการหน่วยปฏิบัติการประจำสนามบินนานาชาติปุนตาคานา ให้สัมภาษณ์ต่อ ไดอาริโอ ลิเบร

 

ขณะเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุขสาธารณรัฐโดมินิกันก็ได้แถลงเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า มีผู้โดยสารเครื่องบินที่ต้องสงสัยว่าจะติดเชื้ออีโบลา แต่จากการตรวจหาไวรัสพบว่าผลเป็น “ลบ”

 557000010323604

“ข่าวที่ว่ามีผู้โดยสารติดเชื้ออีโบลาเดินทางเข้าประเทศของเราผ่านทางสนามบินปุนตาคานา เป็นเพียงข่าวกุเท่านั้น” เอดูอาร์โด โรซาริโอ บูร์ดิเยร์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารของกระทรวงฯ ให้สัมภาษณ์  ทั้งนี้ ผู้โดยสารคนอื่นๆที่มาพร้อมกับเที่ยวบิน ยูเอส แอร์เวย์ส ลำนี้ถูกกักอยู่บนเครื่องนานเกือบ 2 ชั่วโมง

ยูเอส แอร์เวย์ส มีถ้อยแถลงผ่านทางฟ็อกซ์นิวส์ว่า “เราขออภัยสำหรับความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น แต่ความปลอดภัยของผู้โดยสารและลูกเรือทุกคนคือสิ่งสำคัญที่สุด”

ที่มา ผู้จัดการ

 

เรื่องน่าสนใจ