หลังจากแต่งงานก็ดูเหมือนว่านางเอกสาวพิ้งกี้ สาวิกาจะเฟดตัวออกจากวงการไปใช้ชีวิตคู่และทำหน้าที่ภรรยาคอยดูแลสามีนอกวงการ เพชร อิทธิ อย่างเต็มที่ แถมทั้งคู่ยังเดินทางท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศอยู่เป็นประจำ
ล่าสุด (6 กรกฎาคม 2560) สาวพิ้งกี้ได้คัมแบ็กกลับเข้ามาทำงานในวงการอีกครั้ง โดยครั้งนี้เจ้าตัวมาในฐานะโปรดิวเซอร์ ภาพยนตร์เรื่อง มังกร นารี ปีศาจ ขณะที่สามีหนุ่มเพชร อิทธิ รับหน้าที่ผู้กำกับ ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นักแสดงนำ อย่าง ฟิล์ม รัฐภูมิ, โตโน่ ภาคิน, กรีน อัษฎาพร และอีกมากมาย
โดยงานนี้สาวพิ้งกี้เผยว่า มีการเตรียมการค่อนข้างจะยากและนานมากกว่าจะเริ่มต้นบท เขียนบท คัดเลือกทีมงาน คือองค์ประกอบมันเยอะมาก ไม่ใช่คิดแค่จะทำอีกสองสามเดือนเปิด
หลังจากหายไปนานหลายคนมองว่าจะกลับมาเบื้องหน้า แต่เราดันกลับมาเบื้องหลังก่อน ?
พิ้งกี้ สาวิกา : จริง ๆ เบื้องหน้าเขาติดต่อมาหลายคนมาก ที่อยากให้เล่นคือบางคนอาจจะไม่เข้าใจว่าทำไมเราหายไป คือทำหนังอันนี้มันต้องทุ่มเทโดยเฉพาะเราเป็นเจ้าของกับพี่เพชรมันจะทิ้งไม่ได้ อย่างพี่เพชรเขาทิ้งไม่ได้มากกว่าเรา เขานอนบางวัน 2-3 ชั่วโมง เรายังมีเวลาได้นอนมากกว่าเขาอีก
อย่างนี้จะลุยเบื้องหลังไปยาวเลยไหม ?
พิ้งกี้ สาวิกา : จริง ๆ ตอนนี้โปรดักชั่นเฮ้าส์เต็มที่เลย ก็กะว่ามาสายนี้เต็ม ๆ แล้วพี่เพชรเขาก็มาสายนี้เหมือนกัน
แล้วงานเบื้องหน้ายังไง ?
พิ้งกี้ สาวิกา : ยังมีงานบ้าง แต่ว่างานละครไม่ได้รับเลยจริง ๆ เพราะว่ามันใช้เวลานาน
เรายังคิดถึงเบื้องหน้าไหม ?
พิ้งกี้ สาวิกา : คิดถึงมาก ๆ แต่ว่าเราก็อยู่มานานแล้ว เรื่องที่เราจะรับเล่นแต่ละอันก็คงต้องเป็นบทที่ดีจริง ๆ แต่ว่า ณ ช่วงนี้ก็อยากจะทุ่มเวลาทั้งหมดให้ตรงนี้ที่สุด
หลายคนบอกว่าที่กี้ไม่เล่นเพราะทางพี่เพชรหวงใช่ไหม ?
พิ้งกี้ สาวิกา : พี่เพชรตอนนี้ไม่ค่อยหวงแล้ว จริง ๆ พี่เพชรเขาไม่ได้ห้าม มันเป็นตัวเราเองด้วย เรารู้สึกว่าไม่อยากจะทิ้งตรงนี้ไป
หลายคนมองว่าทำไมไม่ชิมลางของตัวเองไปเลย ?
พิ้งกี้ สาวิกา : จริง ๆ คุณสามีก็อยากให้เล่นของตัวเองด้วย ก็เลยบอกว่าเดี๋ยวรอให้มันมีบทตรงกับตนแล้วกัน
เราคาดหวังกับฟีดแบ็คไหม ?
พิ้งกี้ สาวิกา : คืออันนี้ก็อยู่ที่ดวง แล้วอยู่ที่องค์ประกอบด้วย เราว่าองค์ประกอบเราก็ตั้งอยู่ที่ร้อยแล้วมันจะดีไม่ดีมันก็ขึ้นอยู่ ณ ตอนนั้น แต่ ณ ตอนนี้พี่เพชรและตนก็ทุ่มทุกอย่างทั้งฉากทั้งพร็อพ เรียกว่าละเอียดอ่อนมาก
กลัวจะเป็นเหมือนเรื่องแรกไหม ?
พิ้งกี้ สาวิกา : ไม่มีแล้ว เพราะว่ามีการวางแผนที่ดีและตนก็มีประสบการณ์มาแล้ว
เรื่องลูกหลายคนมองว่านานแล้วเมื่อไรจะมี ?
พิ้งกี้ สาวิกา : ลุ้นมาก ลุ้นจริง ๆ ก็พยายาม คือก็ลุ้นกันทุกคน ไม่รู้จะมาเมื่อไร ตอนนี้ก็ปล่อยตามธรรมชาติ
มีไปปรึกษาหมอไหม ?
พิ้งกี้ สาวิกา : ไปหาคุณหมอตรวจ ดีใจที่ปกติ คิดว่ามีอะไรที่ผิดปกติหรือเปล่า ก็ถามคุณหมอว่าหนูเป็นอะไรหรือเปล่า หมอก็บอกว่าไม่นะ บางทีมันเป็นจังหวะของคน
พี่เพชรเขาอยากมีไหม ?
พิ้งกี้ สาวิกา : เขาลุ้นทุกเดือน พอเราไม่มีเราก็รู้สึกห่อเหี่ยวไม่มีสักทีตามเวรตามกรรมแล้วกัน
คิดจะใช้วิธีวิทยาศาสตร์ไหม ?
พิ้งกี้ สาวิกา : ไม่ ๆ เอาแบบธรรรมชาติก่อน ถ้าต้องพึ่งวิทยาศาสตร์คงรออีกปีสองปี ตอนนี้ทุกคนรอบข้างคือถามหมดว่าเมื่อไรจะมีลูก
มีไปขอพรไหม ?
พิ้งกี้ สาวิกา : เคยไป และทุกทีก็พยายามขอแต่กลัวบนไว้แล้วลืม ก็เลยไม่กล้าขอ เลยขอให้มีลูกนะขอแค่นั้น แต่ไม่ได้ขอแบบถ้ามีลูกจะมา อันนั้นไม่กล้า