เจ้าของร้านส้มตำย่านเชิงทะเลใจ อ.ถลางบุญ จ.ภูเก็ต ใจบุญไถ่ชีวิตเต่าหญ้าขาขาดวันพระ หลังมีคนนำมาขาย 300 บาท ก่อนแจ้งหน่วยกู้ภัยนำส่งบ่ออนุบาลสถาบันวิจัยเยียวยาชีวิต ก่อนปล่อยคืนสู่ท้องทะเล…
เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2558 ศูนย์สั่งการหน่วยกู้ชีพ-หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตประจำตำรวจทางหลวง จ.ภูเก็ต ถ.เทพกระษัตรี ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต รับแจ้งจากนายสมบัติ ตันนุเคราะห์ อายุ 48 ปี เจ้าของร้านส้มตำน้องอีสานคนนาแก หน้าโรงเรียนเชิงทะเลวิทยาคม ต.เชิงทะเล อ.ถลาง ว่ามีคนนำเต่าทะเลมาขายและได้ซื้อไว้เพื่อเป็นการไถ่ชีวิต แต่พิการและบาดเจ็บ ขอให้ส่งหน่วยกู้ภัยมารับนำส่งสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลอันดามัน แหลมพันวา ต.วิชิต อ.เมือง เพื่อให้สัตวแพทย์รักษาก่อนปล่อยกลับคืนสู่ท้องทะเล
จากนั้นหน่วยกู้ภัยได้นำรถกู้ภัยไปรับเต่าตัวดังกล่าวที่ร้าน เบื้องต้นเป็นเต่าหญ้า เพศเมีย น้ำหนักราว 25-30 กก.บริเวณกระดองมีการนำแผ่นทองเปลวไปติดไว้เต็มไปหมด พบขาหน้าซ้ายขาด ขาหลังซ้ายมีบาดแผลฉีกขาดจนเห็นกระดูกขาวโพลนคล้ายถูกเศษอวนบาดจนเป็นแผลฉกรรจ์ ส่วนขาหน้าซ้ายที่ขาดคาดถูกเศษอวนบาดจนขาดมานานแล้วและยังคงแข็งแรง จึงรีบนำส่งยังสถาบันฯ เพื่อให้สัตวแพทย์ทำการรักษา โดยสัตวแพทย์ได้ฉีดยาบำรุงและยาปฏิชีวนะให้ก่อนนำไปไว้ในถังพลาสติกขนาดใหญ่ใส่น้ำทะเล เพื่อรอดูอาการ ซึ่งจะได้รักษาตามอาการต่อไป
สอบถามนายสมบัติ กล่าวว่า ขณะที่กำลังจะเปิดร้านตามปกติได้มีชายสูงวัยขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างมาจอดหน้าร้าน พร้อมกับเดินเข้ามาสอบถามขายเต่าให้ในราคา 300 บาท โดยเมื่อเห็นครั้งแรกคิดว่าเป็นตะพาบน้ำ เมื่อดูไปสักพักจึงพบว่าเป็นเต่าทะเล แต่ไม่ทราบสายพันธุ์ หลังจากซื้อมาแล้วคิดว่าจะนำไปปล่อยในทะเล แต่เห็นขาหน้าซ้ายขาดและมีบาดแผลฉีกขาดที่ขาหลังซ้ายอีก ซึ่งถ้าปล่อยกลับไปในทะเลอาจตายได้ เนื่องจากบาดเจ็บ จึงโทรแจ้งหน่วยกู้ภัยมารับไปส่งให้สัตวแพทย์ของสถาบันวิจัยฯ เพื่อทำการรักษาให้หายก่อนที่จะปล่อยคืนสู่ท้องทะเล
“เบื้องต้นคาดว่าเต่าอาจถูกจับมาจากทะเลและมีการนำมาเลี้ยงไว้ เพราะมีการนำทองแผ่นไปติดไว้ที่กระดอง และวันนี้เป็นวันพระ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 อยู่ดีๆ มีคนนำชีวิตมามอบให้ เพื่อให้ทำการไถ่ชีวิต โดยเฉพาะเต่าที่โบราณเชื่อกันว่าเป็นสัตว์อายุยืน ตนเองและครอบครัวจึงอนุโมทนาบุญซื้อชีวิตเต่าทะเลตัวดังกล่าวให้พ้นจากการนำไปทำอาหาร ซึ่งเป็นการไถ่ชีวิตและนำชีวิตกลับคืนสู่ธรรมชาติ” นายสมบัติ กล่าว.
