หลังจากเว็บไซต์โดดเด่นนำเสนอข่าวเบื้องต้นไปแล้ว มีความคืบหน้าเมื่อวันที่ 26 พ.ย. ผู้สื่อข่าว จ.อุตรดิตถ์รายงานว่า กรณีฆ่าเด็กวัยรุ่น อายุ 17 ปี ด้วยมีดปลายแหลมแทงเข้าที่บริเวณใต้รักแร้และถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่บริเวณหัวใจ คมกระสุนตัดขั้วหัวใจจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต แล้วนำศพไปทิ้งข้างทางบนถนนสายร่วมจิต-เขื่อนสิริกิติ์ ทางเข้าสนามกอล์ฟเขื่อนสิริกิติ์กลายเป็นศพไร้ญาติ กระทั่งต่อมาทราบชื่อภายหลัง คือ นายวัชระ กันใจสอน หรือ มด ซึ่งอาศัยอยู่กับตาและยายที่บ้านในต.แสนตอ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์
บรรดาเพื่อนด้วยกันหวั่นคดีนี้ถูกล้มด้วยอำนาจเงิน เนื่องจากเพื่อนชายไปคบหากับหญิงสาวหน้าตาสวยและทำงานเป็นโคโยตี้ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ ซึ่งมารู้ภายหลังว่ามีเสี่ยวัยกลางคนเป็นนักธุรกิจรับซื้อของเก่ามาติดพันพร้อมให้การอุปการะอยู่
เสี่ยคนดังกล่าวได้หลอกลวงผู้ตายให้ออกมาแล้วลวงไปฆ่าและนำศพไปทิ้งข้างถนนสายร่วมจิต-เขื่อนสิริกิติ์ ทางเข้าสนามกอล์ฟของเขื่อนสิริกิติ์ ต.ผาเลือด อ.ท่าปลา ช่วงค่ำคืนวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
คดีนี้กลุ่มเพื่อนหวั่นจะมีอำนาจเงินเข้ามาวิ่งเต้นล้มคดีและส่งผลทำให้คดีเงียบหายไปเนื่องจากคู่กรณีของผู้ตายเป็นถึงเสี่ย จึงได้ช่วยกันนำภาพคนตายแชร์สู่โลกสังคมออนไลน์เพื่อให้ประชาชนทั้งในจังหวัดอุตรดิตถ์และต่างจังหวัดทั่วประเทศได้รับรู้ถึงคดีนี้
ผู้สื่อข่าว ได้รุดไปยังบ้านของนายชุบ มีศักดิ์เป็นตาของเด็กวัยรุ่นผู้เสียชีวิต ได้พบกับนายไพรัชและนางนภาวรรณ พ่อและแม่ของนายวัชระ หรือ น้องมด พร้อมกับญาติพี่น้อง หลังนิมนต์พระสงฆ์ให้อัญเชิญดวงวิญญาณของผู้ตายจากจุดเกิดเหตุกลับมายังที่บ้าน
พร้อมจัดงานศพและเผาจนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีเพื่อนของน้องมดร่วมนำเค้กวันเกิดมาจุดฉลองให้กับผู้ตาย เพราะได้พูดคุยกันแล้วว่าจะร่วมมาเลี้ยงฉลองวันเกิดในวันที่ 28 พ.ย. แต่เพื่อนได้ถูกคนร้ายลวงมาฆ่าตายก่อนจะถึงวันครบรอบวันเกิดจะมาถึง และเป็นช่วงที่มีอายุครบ 17 ปีบริบูรณ์พอดี
นายไพรัช กล่าวทั้งน้ำตาว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนพร้อมด้วยภรรยาและคนในครอบครัวยังทำใจกับการจากไปของลูกชายไม่ได้ คดีนี้ถือว่าโหดเหี้ยมมาก ฆ่าแม้กระทั่งเด็กที่ไม่มีทางต่อสู้ อีกทั้งน้องมดยังออกแนวไปทางผู้หญิงเสียด้วยซ้ำไป
อยากวิงวอนร้องขอไปยังผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งรัดเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ เพราะตนและครอบครัวหวั่นจับคนร้ายไม่ได้ทุกคนจะไม่ได้รับความปลอดภัย และอยากให้เร่งรัดจับกุมตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด
เพราะรู้ตัวฆาตกรแล้วว่าเป็นใครอยู่ที่ไหนแล้วทำไมจะจับตัวคนร้ายมาลงโทษไม่ได้ และคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุในคดีนี้คาดมีไม่ต่ำกว่า 2 คน
ล่าสุด พ.ต.ท.กุล ปานานนท์ พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรท่าปลา อ.ท่าปลา เจ้าของคดี ได้รวบรวมทั้งวัตถุพยานและประจักษ์พยาน พยานบุคคล หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ยื่นเรื่องต่อศาล และศาลได้ขอออกหมายจับตัวเจ้าของกิจการร้านเจริญการค้า รับซื้อของเก่า ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับวัดทองเหลือ อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา
ตอนนี้อยู่ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายศาลเร่งควานหาตัวนายธนา ทั้งที่บ้านในเขตพื้นที่อำเภอลับแล และเขตเมืองอุตรดิตถ์ รวมถึงบ้านญาติเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฏหมาย แต่ยังไร้วี่แววที่จะจับผู้ต้องหารายนี้ได้ พร้อมประสานญาติให้มอบตัวเพื่อสู้คดี
กระทั่งล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่านายธนาได้หนีออกจากพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรีซึ่งเป็นบ้านญาติของตัวเองเป็นการชั่วคราว และคาดว่าจะหนีไปหลบซ่อนตัวอยู่กับซุ้มมือปืนที่รู้จักกันด้วย
ที่มา http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReE5qazNNekl5TVE9PQ==&subcatid=