เว็บไซต์เดลีเมล์ของอังกฤษรายงานถึงเรื่องราวอันน่าเศร้าสลดใจของครอบครัวอังกฤษครอบครัวหนึ่ง ที่ต้องสูญเสียลูกสาวตัวน้อยที่คลอดออกมาก่อนกำหนดไป หลังจากลูกน้อยต้องรับอาหารผ่านทางสายยาง แต่เกิดความผิดพลาด ทำให้สายยางไปอยู่ในร่างกายผิดตำแหน่ง จนกระทบกระเทือนต่ออวัยวะภายใน จนในที่สุดทารกน้อยเสียชีวิตคาอ้อมอกแม่
คู่สามี-ภรรยา “แดน-เจด” ใจสลายจนแทบล้มทั้งยืน เมื่องต้องสูญเสียอิซาเบลล่า ลูกสาวตัวน้อยไป โดยในรายงานระบุว่า อิซาเบลล่าคลอดออกมาหลังจากอยู่ในท้องแม่เพียง 6 เดือนกว่าๆเท่านั้น ทำให้จำเป็นต้องใช้สายยางให้อาหารจนก่อนกว่าอวัยวะภายในจะเจริญเติบโตได้เต็มที่ แต่ในขณะที่ให้อาหารนั้นปลายสายยางกลับไปอยู่ใกล้หัวใจมากเกินไป จนของเหลวทะลักออกมาท่วมข้างในร่างกายเป็นเวลา 4 วัน และนอกจากนี้สายยางยังไปแทงตับของอิซาเบลล่าด้วย จนในที่สุดเธอก็เสียชีวิตคาอ้อมอกแม่
หลังจากนั้นชีวิตของแดนและเจดก็เหมือนจะตกระกำลำบากยิ่งกว่าเดิม ไม่เพียงแต่ต้องเสียลูกรักไป แต่ยังต้องถูกยึดบ้านเนื่องจากไม่สามารถจ่ายค่าสัญญาจำนองได้ จนต้องย้ายไปอยู่บ้านเช่าแทน
แม้ว่าชีวิตจะรันทดสักเพียงไร และแม้เวลาจะผ่านมา 2 ปีแล้วก็ตาม แต่สามีภรรยาคู่นี้ก็ยังคงยืนหยัดในเจตนารมณ์ที่ว่า จะไม่ปล่อยให้การตายของลูกสาวต้องสูญเปล่า เพราะมองว่าที่ผ่านมาเกิดขึ้นจากความสะเพร่าของโรงพยาบาล จึงจะเดินหน้ารณรงค์ให้ระบบสาธารณสุขเปลี่ยนแนวทางการใช้ท่อช่วยให้อาหารทารกให้ได้ และก็ทำสำเร็จเมื่อได้ความช่วยเหลือจากนายแอนดี้ เบิร์นแฮม สมาชิกสภา และโรงพยาบาลหญิงลิเวอร์พูล มาตรการใหม่จะมีผลบังคับใช้ภายในปีนี้ โดยรายละเอียดคือเด็กทารกคนไหนก็ตามที่ต้องใช้ท่อให้อาหารจะต้องเอ็กซ์เรย์ไปด้วย เพื่อที่ว่าถ้าหากสายยางไปอยู่ผิดที่ผิดทางแบบที่อิซาเบลล่าเจออีก จะได้เร่งแก้ไขให้ทัน
“ถึงแม้ว่าจะต้องดิ้นรนต้องเหนื่อยยากแค่ไหน แต่เราก็รณรงค์เพื่อแนวทางปฏิบัติใหม่ ครอบครัวอื่นๆจะได้ไม่ต้องมาทุกข์ระทมแบบเรา การสูญเสียอิซาเบลล่าเป็นสิ่งที่หนักหน่วงและเจ็บปวดสุดเท่าที่เราเคยเจอมาแล้ว” แดนกล่าว