เว็บไซต์เดลีเมล์ของอังกฤษเผยแพร่เรื่องราวของ “เอมี่ แฟรรี่” และสามีชื่อ “แกรี่” ชาวอังกฤษทั้งคู่ โดยหลังจากที่อยู่กินกันมาถึงเกือบ 10 ปี จนมีลูกด้วยกัน 3 คนแล้ว จู่ๆแกร์รี่ก็ทำในสิ่งที่ทำให้ภรรยาต้องตกใจสุดขีด
แกร์รี่สารภาพกับเอมี่ว่า ตนรู้สึกไม่มีความสุขกับการเป็นเพศชาย จึงอยากแปลงเพศเป็นผู้หญิง ซึ่งในตอนแรกเอมี่ตกใจมากและปฏิเสธอย่างเด็ดขาด เพราะคาดไม่ถึงมาก่อนว่าแกร์รี่จะมีอาการต่อต้านบุคลิกภาพทางเพศมาตั้งแต่อายุ 12 ปี อีกทั้งยังกังวลว่าชีวิตคู่คงจะจบสิ้นลง แต่ไปๆมาๆก็พยายามเข้าใจสามีและยอมรับให้ได้
เอมี่เผยว่า ชีวิตคู่ที่ผ่านมาทุกอย่างล้วนราบรื่นและมีความสุขดี จนกระทั่งช่วงปลายๆปี 2557 เธอรู้สึกได้ว่าแกร์รี่ดูแปลกๆไป โดยเฉพาะการที่ชอบไปนำเสื้อผ้าของพี่สาวตนเองมาใส่ เธอจึงรู้ความจริงทั้งหมดในที่สุด
“ตอนฉันอายุ 12 ปี ฉันชอบแอบไปขโมยเสื้อผ้าพี่สาวมาใส่อยู่ประจำ แต่ตอนนั้นฉันก็ยังไม่แน่ใจนะว่าเป็นพวกบิดเบือนทางเพศหรือเปล่า” แกรึ่ ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็นเมลิสซ่ากล่าว และว่า “คือฉันรักเอมี่นะ แล้วจู่ๆ ปีก่อนทุกอย่างมันก็ชัดมากว่าฉันเป็นพวกข้ามเพศ อยากจะเป็นผู้หญิง ฉันรู้ตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง ยังไงมันก็หวนกลับไม่ได้”
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่แกร์รี่แปลงเพศเป็นหญิง และใช้ชื่อใหม่ว่า “เมลิสซ่า” แล้ว ทุกสิ่งก็ดีเกินกว่าที่เอมี่คาดคิดไว้ เพราะทั้งคู่รักกันดีมีความสุขยิ่งกว่าเดิม และยิ่งไปกว่านั้นคือตั้งใจจะจัดงานแต่งงานใหม่อีกครั้งในปีหน้า โดยที่จะสวมชุดเจ้าสาวด้วยกันทั้งสองฝ่าย
“ตอนแรกที่แกร์รี่เข้ามาหาฉันในสภาพที่แปลงเพศแล้ว ฉันก็คิดว่า เออ…พอกันทีชีวิตคู่ แต่ยังไงเขาก็เป็นที่รักของฉัน ฉันเลยอยากจะให้โอกาสเขาดู มันเหมือนกับต้องมาทำความรู้จักกันใหม่ แล้วพัฒนาความรู้สึกใหม่” เอมี่กล่าว
ทั้งคู่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างปกติสุขทุกอย่าง เลี้ยงลูกด้วยกัน ไปเที่ยวด้วยกัน แต่งตัวเป็นหญิงด้วยกัน
“ลูกสาวของเรา ไลลา เรียกเราทั้งคู่ว่าแม่หมดเลย ทำให้บางทีมันก็จะมีสับสนนิดหน่อย แต่ในฐานะความเป็นพ่อคนแม่คน เมลิสซ่าถือว่ายอดเยี่ยมมาก เปี่ยมไปด้วยความรักเหมือนอย่างที่เคยเป็นมาเลย” เอมี่กล่าว