ที่มา: surgery.or.th

ภัยของการฉีดสาร ไม่ว่าจะเป็นซิลิโคนเหลว พาราฟิน น้ำมันมะกอก เข้าในเนื้อเยื่อร่างกาย ปัจจุบันได้เห็นตัวอย่างที่น่ากลัว จนเป็นที่รู้กันทั่วไปแล้วว่า ถ้ายังรักความสวยงามอย่างแท้จริง ย่อมฉลาดเลือกที่จะไม่ฉีดสารอันตราย ที่ไม่ได้รับการรับรอง เพราะเสี่ยงที่สารจะไหล ติดเชื้อ หรือเนื้อเยื่อผิดรูปต่อเนื่อง ถึงแพทย์ทําการแก้ไขให้ ก็ไม่สามารถทําให้กลับสู่สภาพปกติ

ตามหลักการแล้ว สิ่งที่ทดแทนได้ดีที่สุดคือ ใช้เนื้อเยื่อร่างกายตัวเอง เช่น ปลูกเซลล์ไขมัน ผิวหนังแท้ กระดูก กระดูกอ่อน แต่จําเป็นต้องแลกด้วยการเกิดแผล มีโอกาสเกิดผลข้างเคียงใน ตําแหน่งที่นําเนื้อเยื่อนั้นมา หรือได้มาในปริมาณที่ไม่เพียงพอ

ภัยของการฉีดสาร ก่อนเติมเต็มต้องเช็คความเสี่ยงให้ดีก่อน !

สารเติมเต็มสามารถแบ่งให้เข้าใจง่ายๆ เป็น 3 กลุ่ม คือ

สารสังเคราะห์สลายหมด
ผลจากการเติมเต็ม ได้จากเนื้อเยื่อพังผืดที่มาแทนที่ จึงมีข้อบ่งชี้ให้ใช้สําหรับร่องรอยหลุมสิว ร่องตื้นๆ ขนาดเล็ก เพราะถ้ามีความลึกมากหรือขนาดใหญ่ เยื่อพังผืดที่เกิดจะไม่มากพอที่จะทําให้เกิดผลตามที่ต้องการ เช่น กลุ่มคอลลาเจน (collagen) และ ไฮยาลูโรนิก แอสิด (hyaluronic acid) ข้อดีคือ เป็นสารสังเคราะห์ที่เลียนแบบสารในร่างกายตัวสารสลายหมดไม่เหลือเป็นสิ่งแปลกปลอมตกค้าง ข้อจํากัดคือ ไม่ได้ผลถาวร และผิวหนังที่ผ่านการใช้สารดังกล่าว จึงไม่ใช่ผิวหนังที่มีคุณสมบัติเหมือนผิวหนังปกติ ยกตัวอย่าง คนที่เคยฉีดสารเข้าจมูกแล้ว ต้องการเสริมจมูกด้วยซิลิโคนแท่ง จะทําให้การผ่าตัดซับซ้อนมากขึ้น และรายละเอียดของรูปทรงไม่ดีเท่ากับที่ไม่เคยฉีดสารใดมาก่อน

สารสังเคราะห์อยู่นานขึ้นก่อนสลาย
ตามหลักการถือว่าตัวสารจะสลายได้หมด แต่อยู่นานกว่ากลุ่มแรก แต่ในทางความเป็นจริง มีโอกาสหลงเหลือสารอยู่ในร่างกายได้ จากกลไกที่ซับซ้อนของร่างกายเอง ซึ่งทําให้ไม่สามารถสรุปผลในระยะยาวว่าจะมีผลเสียเรื่องอื่นๆ ตามมาด้วยหรือไม่ เช่น ไฮยาลูโรนิก แอสิด (hyaluronic acid) ที่ถูกดัดแปลงในระดับโมเลกุล ทําให้สลายช้า หรือมีส่วนผสมของสารสังเคราะห์อื่นๆ สําหรับรายที่ทําการฉีดสารไปแล้ว ควรเก็บข้อมูลสารไว้ ไม่ว่าจะเก็บขวดสารที่ฉีด หรือขอ ใบรับรองแพทย์ เพราะในอนาคต หากมีผลระยะยาวใดๆ เกิดขึ้น จะได้มีความชัดเจนว่าเกิดจากสารใด

สารสังเคราะห์ไม่สลาย
ดูเหมือนจะเป็นข้อดี แต่ในมุมกลับยังไม่มีข้อสรุปเรื่องผลข้างเคียงระยะยาว หลังจากที่อยู่ในร่างกายมนุษย์ จึงไม่มีการรับรองให้นํามาใช้เพื่อความสวยงาม เพราะเมื่อฉีดแล้ว สารจะแทรกเข้าในเนื้อเยื่อ หากต้องการแก้ไข เป็นเรื่องซับซ้อนและมีโอกาส สูงที่ต้องเอาเนื้อเยื่อปกติออกไปพร้อมกัน เสี่ยงต่อการผิดรูปบริเวณที่ฉีด เช่นเดียวกับการแก้ไข ในรายที่ผ่านการฉีดด้วยซิลิโคนเหลวมาก่อน

ความพยายามทําให้การเสริมสวยเป็นเรื่องง่าย หลีกเลี่ยงการผ่าตัดผ่านบาดแผล แต่การฉีดด้วยสารสังเคราะห์ ซึ่งไม่ใช่เนื้อเยื่อธรรมชาติ หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดบาดแผลหรือเยื่อพังผืดที่อยู่ด้านใต้ผิวหนัง เช่นกัน ส่งผลต่อการผ่าตัดในอนาคต สารสังเคราะห์เพื่อฉีดจะอยู่ในรูปแบบที่เป็นของเหลวหรือกึ่งของเหลว เป็นเจล มีโอกาสเกิดการไหลหรือเคลื่อนย้ายตําแหน่ง ผลสุดท้าย หรือระยะยาวอาจไม่ใช่สิ่งที่คาดหวัง

 

••••••••••••••••••••••••

มีรายงานผลข้างเคียงที่รุนแรง คือ สารที่ฉีดเข้าไป เกิดหลุดเข้าในเส้นเลือดดํา หรือเส้น เลือดแดง เกิดการอุดตันเส้นเลือด ส่งผลทําให้ผิวหนังบริเวณที่เส้นเลือดมาเลี้ยงตาย รวมไปถึงอุดตันเส้นเลือดสําคัญ เช่น ลูกตา ทําให้เกิดปัญหาต่อการมองเห็น หรือตาบอด พบได้น้อย แต่เป็นการสูญเสียที่ร้ายแรงเมื่อเทียบกับเป้าหมายการฉีด จึงเป็นหน้าที่แพทย์ที่ควรมีความเข้าใจกายวิภาคของเส้นเลือดต่างๆ บนใบหน้าให้ดีก่อน เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาดังกล่าว

 

เรียบเรียงเนื้อหาโดย Dodeden.com

เรื่องน่าสนใจ