เหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิโทโฮคุผ่านไป 4 ปีแล้ว พื้นที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่ได้รับการฟื้นฟูจนกลับสู่สภาพเดิม ผู้คนก็กลับไปใช้ชีวิตตามปกติ แต่บริเวณใกล้เคียงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิจิยังคงสภาพเหมือนหยุดเวลาเอาไว้ วันนี้โดดเด่นจะพาไปชมภาพบางส่วนที่ช่างภาพต่างชาติบันทึกไว้กัน
มอเตอร์ไซด์ที่จอดอยู่ข้างถนน เริ่มถูกพงหญ้าข้างทางกลืนเข้าไป
รถยนต์ที่ถูกจอดทิ้งไว้ในลานกว้าง หญ้าค่อยๆ งอกสูงปกคลุมตัวรถ
สนามโกคาร์ทที่อยู่ห่างจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิจิเพียง 20 กิโลเมตร สภาพเหมือนจะออกสตาร์ทได้ทุกเมื่อ
เครื่องวัดกัมมันตรังสีแสดงค่าที่ 6.794μSV/h เป็นระดับที่ไม่ทำอันตรายต่อร่างกายในทันที (ปริมาณที่ส่งผลต่อร่างกายทันทีคือ 250mSV/h ขึ้นไป)
ฝูงวัวถูกทอดทิ้งอยู่ในทุ่งกว้างซึ่งมีรอยแยก คุณโยชิซาว่า มาซามิ (อายุ 60 ปี) ซึ่งยังคงอยู่ในพื้นที่เป็นผู้ดูแลและบอกว่าไม่สามารถทิ้งให้ฝูงวัวหิวได้ เขาจะดูแลตราบเท่าที่ยังมีลมหายใจ
มีการนำโทรทัศน์ที่ถูกทิ้งมากองรวมกัน
ภาพถ่ายแสดงปริมาณดินที่ถูกปนเปื้อนซึ่งบรรจุไว้ในถุงดำ มีการแจ้งเจ้าของที่ดินว่าสักวันหนึ่งจะนำมันออกไปจากพื้นที่ แต่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะเป็นเมื่อไหร่
ร้านหนังสือที่ตู้หนังสือล้มระเนระนาดเพราะแผ่นดินไหว
คอมพิวเตอร์ยังคงเรียงรายอยู่เหมือนสภาพก่อนเกิดเหตุ
ซุปเปอร์มาเก็ตเต็มไปด้วยใยแมงมุมเสียแล้ว
จักรยานยังอยู่ในโรงจอดในสภาพเดิม
งานเลี้ยงที่ชามและตะเกียบยังคงวางเรียงรายอยู่
สภาพโรงเรียนยังเหมือนกับตอนที่ทุกคนอพยพออกไป
กระดานดำที่พวกนักเรียนทิ้งข้อความไว้ก่อนออกจากที่นี่ไป
Arkadiusz Podniesinski ช่างภาพชาวยูเครนสวมชุดป้องกันขณะเก็บภาพ เขากล่าวว่า “รู้สึกเหมือนมีแต่ที่นี่ที่กาลเวลาหยุดนิ่งลง”
บางส่วนของจังหวัดฟุกุชิมะจะถูกประกาศเป็นพื้นที่อพยพ แต่คำสั่งนั้นก็ค่อยๆ ถูกถอนออกไปทีละพื้นที่ แน่นอนว่ามีทั้งผู้ที่ตัดสินใจว่าจะกลับเข้าไปอาศัยและผู้ที่ลังเลอยู่ พื้นที่ส่วนใหญ่ที่ไม่ได้รับผลกระทบก็สามารถท่องเที่ยวหรือพำนักอาศัยได้ตามปกติ ยังมีสถานที่ดีๆ อีกมากที่รอสร้างความสุขให้ผู้คนสมชื่อจังหวัดที่มีความหมายว่า “เกาะแห่งความสุข”