ภาวะแฝงที่มากับความอ้วน นั้นมีหลากหลาย เพราะต้นเหตุของความอ้วน เราพบว่ามีจํานวนเล็กน้อย ที่ภาวะอ้วนเกิดจากโรค หรือภาวะอื่นนํามาก่อน หรือที่เราเรียกว่าอ้วนทุติยภูมิ (Secondary Obesity) เช่น โรคทางระบบสมอง โรคทางต่อมไร้ท่อ ความผิดปกติทางพันธุกรรมบางชนิด ยาสเตียรอยด์ ฯลฯ เราพบว่า ภาวะเหล่านี้ เกิดจากโรคหรือยานั้นๆ เป็นต้นเหตุหลัก และก่อให้เกิดภาวะอ้วนตามมา หากต้นเหตุเหล่านั้นยังคงอยู่ ก็ยากที่จะควบคุมความอ้วนให้เป็นปกติได้
หากไม่นับภาวะอ้วนจากโรค หรือภาวะอื่นนี้แล้ว ภาวะอ้วนส่วนใหญ่มักจัดอยู่ในกลุ่มอ้วนตรงไปตรงมา หรือ อ้วนปฐมภูมิ (Primary obesity) พบได้เกือบ 90-95% ซึ่งสาเหตุก็อาจจะเกิดจากพันธุกรรม ทานอาหารมาก แต่ไม่ค่อยได้เผาผลาญ หรือไม่ค่อยออกกําลังกาย ถึงแม้จะรู้อยู่เต็มอก ซึ่งอยู่ในใจว่าที่เราอ้วนอยู่ทุกวันนี้เป็นเพราะอะไร และถ้าจะให้ลดน้ำหนักที่ต้นเหตุเหล่านี้ ก็เป็นไปได้ยากเต็มที ทําให้หลายคนหวังไปพึ่งสถานลดน้ำหนัก หรือวิธีการอื่นๆ เพราะง่ายสะดวกกว่า (แต่เหตุผลลึกๆ คือยังอยากกินของชอบเหมือนเดิมนั่นเอง ถ้าให้อดเพื่อความผอมน่ะเหรอ ยาก!!!)
ซึ่งวิธีเหล่านี้ ล้วนเป็นวิธีแก้ที่ปลายเหตุ อาจได้ผลเพียงแค่ชั่วคราว หรือบางทีอาจไม่ได้ผลเลยด้วยซ้ํา เสียเงินเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ เพราะอย่างไรก็ตามการควบคุมอาหาร ปรับพฤติกรรมการบริโภค ปรับวิถีชีวิตประจําวัน เพิ่มโปรแกรมการออกกําลังกาย ก็ยังเป็นสิ่งที่เป็นทางออกที่ถูกต้อง และถูกทาง อีกทั้งยังส่งผลที่ดีต่อสุขภาพได้ในระยะยาว โดยเสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุดอีกด้วย (อาจมีเครื่องมือเข้าช่วยบ้าง เช่น อาหารซองลดน้ำหนัก อาหารเสริม บล็อกการดูดซึมของแป้ง หรือไขมัน หรืออาหารเสริมช่วยการเผาผลาญไขมันต่างๆ เป็นต้น)
แต่หลายคนที่เคยตั้งใจจะลดน้ำหนักด้วยวิธีที่ถูกต้อง และทําอย่างเต็มที่แล้ว ก็มีไม่น้อยที่พบว่าน้ำหนักไม่ได้ลดลงอย่างที่หวังไว้ จนแทบจะหมดหวังกันเลยทีเดียว ซึ่งในคนกลุ่มนี้ เราพบว่าอาจเกิดจากการมีต้นเหตุของความอ้วนแฝงเร้นอยู่ (คล้ายๆ กับภาวะอ้วนทุติยะภูมิ คือมีสาเหตุอื่นที่เป็นต้นเหตุแห่งความอ้วนแฝงอยู่) เพียงแต่สาเหตุเหล่านั้น การแพทย์แผนปัจจุบันไม่จัดว่าเป็นโรค เป็นเพียงภาวะการทํางานบกพร่อง หรือแปรปรวน โดยมีดีกรีที่ยังไม่รุนแรง แต่ก็ส่งผลต่อภาวะสมดุลของร่างกายที่ปกติด้วยเช่นกัน เราพบว่า คนส่วนใหญ่ที่มีปัญหากับการควบคุมน้ำหนักอย่างถูกวิธีแล้วไม่ได้ผล มักมีปัจจัยภาวะอ้วนแฝงเหล่านี้เป็นสําคัญ และเมื่อได้ขจัดสาเหตุเหล่านี้ได้ น้ำหนักก็จะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป ซึ่งสาเหตุของภาวะอ้วนแฝงเหล่านี้ ได้แก่
ภาวะธัยรอยด์ต่ำแฝง
พบได้บ่อยในปัจจุบัน สาเหตุมักไม่ได้เกิดจากต่อมธัยรอยด์สร้างฮอร์โมนไม่ได้ แต่มักจะเป็นจากสร้างได้ไม่พอใช้ หรือร่างกายไม่สามารถนําไปใช้ได้อย่างเต็มที่ อาจจะด้วยอายุที่มากขึ้น ความเครียด ความเจ็บป่วยเรื้อรัง มลพิษ มลภาวะขาดวิตามิน หรือเกลือแร่บางชนิด มักจะพบว่าน้ำหนักไม่ค่อยสัมพันธ์กับการทานอาหาร คือทานน้อย แต่อ้วนเอาอ้วนเอา หรือควบคุมน้ำหนักด้วยวิธีคุมอาหารแล้วไม่ได้ผล มักพบว่ามีอาการอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น เหนื่อยง่าย อ่อนเพลียบ่อย นอนตื่นสาย สมองตื้อ ซึมเศร้า ขี้หลงขี้ลืม ท้องผูก ผิวแห้ง ขี้หนาว มื้อเท้าเย็น ปวดเมื่อยตามข้อ บวมตามเปลือกตา หรือนิ้วมือแบบเป็นๆ หายๆ ดังนั้น หากตรวจพบเจอต้นเหตุนี้ การให้ฮอร์โมนธัยรอยด์ชนิดธรรมชาติเสริม ร่วมกับการปรับไลฟ์สไตล์ที่ถูกต้อง ก็จะทําให้น้ำหนักกลับมาเป็นปกติ รวมทั้งอาการต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น ก็จะดีขึ้นด้วย
ภูมิแพ้อาหารแฝง
พบได้บ่อยในปัจจุบันอีกเช่นกัน ซึ่งก่อให้เกิดการอักเสบของลําไส้เล็กๆ น้อยๆ อย่างกว้างขวางอยู่ตลอดเวลา ยิ่งเรื้อรังไปนานๆ สารก่อการอักเสบที่เกิดขึ้นก็จะ กระตุ้นให้เซลล์ไขมันเกิดการสะสมไขมันมากขึ้น และเซลล์ไขมันเอง ยังสามารถสร้างสารสื่อการอักเสบผสมโรงเข้าไปอีก ทําให้เราค่อยๆ อวบอ้วนขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่รู้ตัว จนคิดไปว่าเป็นปกติตามวัยของเราไป โดยหารู้ไม่ว่า อาหารที่เราชอบทานอยู่เป็นประจํานั้น อาจเป็นต้นเหตุที่ทําให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ โดยที่ไม่เกี่ยวข้องกับจํานวนแคลอรี่โดยตรงเท่าไหร่นัก ในคนกลุ่มนี้ มักจะเห็นภาวะภูมิคุ้มกันของร่างกายแปรปรวนในส่วนอื่นๆ ด้วย เช่น ผื่นแพ้ตามใบหน้า หรือตามตัวโดยไม่ทราบสาเหตุ สิวเรื้อรังในวัยผู้ใหญ่ ท้องอืด มีลมมีแก๊สในท้องมาก ท้องบวมๆ ยุบๆ ท้องอืดตึง หน้าบวมตึงทันทีหลังจากบริโภคอาหารมื้อใหญ่ๆ ในคนกลุ่มนี้ หากงดบริโภคอาหารที่ตนเองแพ้ (ซึ่งทราบได้จากการตรวจภาวะแพ้อาหารแฝง) น้ำหนักก็สามารถจะลดลงได้อย่างรวดเร็ว โดยแทบจะไม่ต้องจํากัดแคลอรี่หรือปริมาณอาหารที่ทานเท่าไหร่นัก ภาวะอาการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องก็จะดีขึ้นด้วยเช่นกัน
…………………………………………………..
เพราะฉะนั้น การที่เราหมั่นสังเกตตัวเองให้ดี หรือหากไม่แน่ใจ ก็ให้เข้ารับการตรวจกับคุณหมอ จะได้ลดน้ำหนักได้อย่างถูกทาง และไม่รู้วึกว่าการลดความอ้วนนั้นเป็นเรื่องที่ยากลำบากอีกไป แถมดีต่อสุขภาพในระยะยาวด้วยนะคะ
เนื้อหาโดย Dodeden.com