ภาวะแพ้ยา เป็นปัญหาที่พบบ่อยมากในปัจจุบัน คนที่จําเป็นต้องทานยาหลายชนิด เช่น ผู้ป่วยสูงอายุ และผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง มีโอกาสที่จะแพ้ยาสูงขึ้น
การแพ้ยาแสดงออกที่อวัยวะต่างๆ ได้ทุกอวัยวะ ผิวหนังเป็นอวัยวะที่สังเกตเห็นได้ง่าย จึงพบว่าการแพ้ยาเกิดเป็นพื้นที่ผิวหนังบ่อยที่สุด ผื่นแพ้ที่เกิดจากยา อาจเกิดจากพิษโดยตรงของยา หรือเกิดจากปฏิกิริยาของร่างกายที่มีต่อยาไวเกินไปก็เป็นได้
ในกรณีที่เกิดจากปฏิกิริยาไวเกินไป หรือแพ้ปริมาณของยา จะไม่มีผลแต่ประการใด ระยะเวลาหลังได้รับยาครั้งแรก จนเกิดผล มักใช้เวลาประมาณ 1-3 สัปดาห์ แต่ถ้าผู้ป่วยที่เคยได้รับยานั้นมาก่อน แล้วหยุดยาไประยะหนึ่งก่อนมีผื่น เมื่อกลับมาได้ยานั้นใหม่ ผลจะเกิดได้เร็ว แม้ในวันแรกที่ได้รับยา ซึ่งผื่นแพ้ยาอาจแสดงออกในลักษณะของโรคผิวหนังแบบต่างๆ เช่น ผื่นลมพิษ เป็นปื้นนูนแดง คัน แต่ละผื่นจะยุบหายไปภายใน 24 ชั่วโมง โดยไม่มีร่องรอยเหลืออยู่ ผื่นหนึ่งขึ้นผื่นหนึ่งยุบ เปลี่ยนที่ไปเรื่อยๆ บางครั้งอาจมีปากหรือตาบวมร่วมด้วย
นอกจากผื่นแพ้ที่ผิวหนังแล้ว ผู้ป่วยอาจมีไข้ มีอาการตามระบบต่างๆ เช่น อาการทางระบบทางเดินอาหาร การหายใจ ระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบประสาท ตับหรือไตทํางานผิดปกติจากผลของยาได้ สิ่งสําคัญที่ควรจําคือ อาจมีอาการในระบบอื่นๆ โดยไม่มีผื่นผิวหนังเลยก็เป็นได้ หากมีข้อสงสัย หรือไม่แน่ใจ ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว
••••••••••••••••••
หากเกิดอาการผิดปกติในระหว่างที่ทานยา เช่น มีผื่นที่ผิวหนัง ให้หยุดยาที่สงสัยว่าจะเป็นสาเหตุทันที แล้วรีบปรึกษาแพทย์เพื่อการตรวจวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง หากทราบว่าแพ้ยาอะไร ให้จดบันทึกไว้ แล้วแจ้งให้แพทย์ผู้ทําการรักษาทราบว่าแพ้ยาอะไรบ้างทุกครั้งเมื่อเจ็บป่วย หรือจําเป็นจะต้องได้รับยาค่ะ
เนื้อหาโดย Dodeden.com