ก่อนอื่นเลยต้องขอแสดงความยินดีกับนางงามจักรวาลคนล่าสุด Demi-Leigh Nel-Peters จาก SOUTH AFRICA ที่คว้ามงกุฎไปครอง ซึ่งหลายๆ คนที่เห็นมงกุฎแบบที่เธอใส่ ก็คงจะคุ้นๆ ตาอยู่บ้าง ใช่เเล้วค่ะ! เป็นมงกุฎที่นาตาลี เกลโบว่า เคยได้ใส่เมื่อได้รับตำแหน่งในปี 2548 นั่นเอง บทความนี้เราจะพาไปรู้จักกับประวัติความเป็นมาของมงกุฎที่ล้ำค่า (และมีกระแสเรียกร้องให้เอากลับมามากที่สุด) กันค่ะ
ในปี 2002 ยุคแห่งสหัสวรรษใหม่ และการเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีของการประกวด Miss Universe โทโมฮิโร่ ยามาจิ นักออกแบบชาวญี่ปุ่นจากบริษัท Mikimoto ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของการประกวด Miss Universe ได้ออกแบบมงกุฎ Miss Universe เรือนใหม่ขึ้นโดยมีแรงบันดาลใจมาจากขนนกฟินิกส์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความอมตะ ภายใต้แนวคิด ความงดงาม ความเฉลียวฉลาด
Oxana Fedorova นางงามจากรัซเซีย
ผู้ที่ได้สวมมงกุฎมิกิโมโตะเป็นคนแรก ในปี 2002
ส่วนสาวเอเชียที่เคยได้สวมมงกุฎมิกิโมโตะ
ก็คือ Riyo Mori จากประเทศญี่ปุ่น
ที่ได้รับตำแหน่งเมื่อปี 2007
นางงามจักรวาลที่เคยได้สวมมงกุฏมิกิโมโตะ
มงกุฏนี้มีมูลค่าสูงถึง 250,000 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 8.1 ล้านบาท (ในปีที่จัดทำ) ตัวมงกุฏทำด้วยทองคำขาวบริสุทธิ์ประดับเพชรทั้งหมดถึง 800 เม็ด รวมทั้งสิ้น 18 กะรัต ใช้ไข่มุกทะเลใต้ และไข่มุกอะโกย่า 120 เม็ด ซึ่งมีขนาดตั้งแต่ 3.0 – 18 มม. โดยทั้งหมดนี้ เป็นผลงานที่ใช้มือทำทั้งสิ้น
มงกุฏนี้ นิยมเรียกกันติดปากตามชื่อบริษัทที่ออกแบบว่า “Mikimoto” และมีคำกล่าวเกี่ยวกับมงกุฎนี้ว่า อัญมณีเลอค่าเท่านั้นที่คู่ควรกับมงกุฏ Miss Universe และผู้ที่ได้ครองครองย่อมหมายถึงนางงามที่คู่ควรด้วย มงกุฏยังเปรียบเสมือนการนำพาความงดงาม และความเฉลียวฉลาดให้อยู่เคียงคู่นางงามผู้ครอบครองอย่างเป็นอมตะ
เนื้อหาโดย Dodeden.com