เมื่อเวลา 11.15 น. วันที่ 10 ส.ค. ที่รายการปากโป้ง ได้เชิญ “มะนาว” สาวเจ้าของคลิป ผู้หญิงไล่ไซด์ไลน์ออกจากห้องนอนด้วยสภาพเปลือยเปล่า จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ รวมทั้ง กลายเป็นคดีความมีการแจ้งควมดำเนินคดีกันในขณะนี้ โดย “สาวมะนาว” ได้เปิดเผยในรายการว่า ปัจจุบันอายุ 24 ปี อาชีพพริตตี้ รับงานทั่วไป ยังไม่ได้แต่งงานกันกับแฟนแต่ได้อยู่กินฉันสามีภรรยา วันที่เกิดเหตุนั้น คือไปทำงานและไปคอนเสิร์ตที่พัทยา โดยได้บอกแฟนไว้ว่า จะกลับบ่ายอีกวันแต่ได้เดินทางกลับมาก่อนช่วงตี 3 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพอไขกุญแจเข้าห้องไป ได้ยินเสียงบริเวณโซฟา จากนั้น ก็เห็นผู้หญิงไม่ใส่เสื้อผ้า โดยที่ผู้หญิงเปลือยอยู่ข้างบนตัวของแฟนเราที่เปลือยเปล่าเช่นกัน จากนั้น แฟนเราได้ใส่บ็อกเซอร์ ส่วนผู้หญิงก็วิ่งเข้าห้องไปเมื่อเห็นว่าเราเข้ามา
“เหตุการณ์จากนั้น ตัวเองก็โมโหแฟนอย่างมากและถามว่า “ทำไมทำแบบนี้” ซึ่งแฟนเราบอกแค่ว่า ใจเย็นๆ มีการตบตีแฟนของเราไปแล้วจนปากแตก จากนั้น ก็เดินมุ่งไปที่ห้องนอนเพื่อจะถามว่า ผู้หญิงเป็นใคร มาจากไหน มีการเรียกให้ออกมา จึงเห็นว่าผู้หญิงได้ห่มผ้าห่มสีฟ้าออกมา ซึ่งไม่ทราบว่าผู้หญิงไม่ใส่เสื้อผ้า และได้ถือโทรศัพท์ถ่ายคลิปด้วยความโมโห เมื่อเห็นว่าผู้หญิงห่มผ้าห่มออกมา จึงบอกว่า ให้เอาผ้าห่มออกเพราะเป็นผ้าห่มที่เรานอนอยู่ทุกวัน เมื่อเปิดผ้าห่มออกมาก็ช็อกเหมือนกันแต่ว่าอารมณ์ไปแล้ว”
เมื่อถามว่า ทำไมถึงต้องถ่ายคลิป “ความรู้สึกคือทำไว้เป็นหลักฐานเตือนใจตัวเอง เตือนใจตัวเรา ตอนนั้นคิดว่าคงจะต้องเลิกกัน ที่ถ่ายเพื่ออยากเป็นอุทาหรณ์เตือนตัวเอง ไม่ได้อยากเอาไปเผยแพร่แต่อย่างใด”
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวบอกว่า เพราะมีปืนอยู่ในมือจึงเกิดความกลัวอย่างมาก มะนาว กล่าวว่า วันนั้นยืนยันร้อยเปอร์เซ็นต์ว่า ไม่ได้มีปืนอยู่ในมือ แต่คงได้ยินเสียงตบตีแฟน และว่าแฟน ก็คงจะกลัวตรงนั้น ส่วนที่ไล่ออกจากห้องนั้น ตรงนี้ยอมรับผิด แต่ถ้าเป็นพี่หนุ่ม (พิธีกร) เห็นสภาพแบบนี้ในห้องเรา จะทนได้หรือไม่ โดยก่อนหน้านั้น โยนเสื้อผ้าออกไปแล้ว และคิดว่าตอนดึกแล้วไม่ได้มีใครพลุกผล่านแค่อยากให้ผู้หญิงคนนี้ออกไปจากห้อง
“ส่วนเรื่องไซด์ไลน์ ไม่ได้กล่าวหาว่าเขาเป็นไซด์ไลน์หรืออะไรเลย แต่ในคลิปเขาเป็นคนพูดเองว่า เขาจ้างหนูมาหนูไม่รู้ จึงได้ถามออกไปว่า โดนจ้างมาเท่าไหร่ ส่วนที่พูดในคลิปว่าจะลงคลิปนั้น ก็พูดขู่ด้วยความโมโหอยากให้ผู้หญิงออกไป แต่ไม่ได้มีเจตนาแบบนั้น ซึ่งยืนยันว่าไม่เคยลงในโซเชี่ยลใดๆ แต่ยอมรับว่า ได้ส่งให้เพื่อนประมาณ 2-3 คน เพราะเพื่อนถามว่า เป็นอะไรถึงเลิกกัน ให้ใจเย็นๆ เลยส่งคลิปให้ดูว่ามันเกิดอะไร ส่วนโทรศัพท์เครื่องที่ถ่ายคลิปก็หล่นหายไปตั้งแต่วันที่ 2-3 ส.ค.ที่ผ่านมา ก็เป็นความบังเอิญจริงๆ และมีโทรศัพท์สองเครื่องจึงไม่ได้สนใจ”
เมื่อถามว่า มีคำพูดของแฟนที่อ้างว่า ไม่รู้เรื่องเป็นความเข้าใจตื่นขึ้นมาก็พบว่าผู้หญิงคนนี้มาอยู่ข้างๆ เพื่อนหายไปไหนไม่ทราบนั้น มะนาว กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ส่วนตัวเห็นภาพบาดตาแบบนี้ก็ต้องโมโห
เมื่อถามว่า กระแสสังคมมีการวิจารณ์ว่า เป็นการทำเกิดกว่าเหตุ มะนาว กล่าวว่า “ก็รู้สึกผิดในการกระทำ และอารมณ์ของเรา แต่ถ้าทุกคนได้เปิดประตูมาเจอแบบนี้บ้างจะทำอย่างไร ส่วนเรื่องการเผยแพร่คลิปนั้น ยอมรับว่าส่งคลิปให้เพื่อนจริง แต่ไม่ได้เป็นคนเผยแพร่ หรืออยากจะประจานผู้หญิง ตอนนี้เป็นเรื่องข้อกฎหมายผิดก็ยอมรับไปตามผิด”
จากนั้น มะนาว ได้ให้สัมภาษณ์อีกครั้ง ว่า เหตุการณ์นี้พอเจอแล้วก็ช็อก ไม่ได้รู้มาก่อนว่าจะเกิดแบบนี้ขึ้น ตอนที่ตัดสินใจว่าจะถ่ายคลิปเพื่ออยากเตือนใจตัวเอง ยืนยันว่าไม่มีเจตนาเผยแพร่ ตอนนั้น เป็นอารมณ์ชั่ววูบ ถ้าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดกับตัวเอง ก็คงจะทำยิ่งกว่านี้แน่ ตามที่เคยเห็นว่า มีการยิงกันจากความหึงหวง โดยยืนยันว่า ไม่มีอาวุธในมือ และไม่คิดจะแตะต้องผู้หญิงคนนั้น
“แฟนคนนี้คบกันมาประมาณ 6 เดือน อยู่กินกันฉันสามีภรรยา ตอนนี้ ก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว ตอนนี้รู้สึกแย่มาก ว่า โซเชี่ยลสามารถทำลายผู้หญิงคนหนึ่ง โดนซ้ำด้วยกระแสสังคมอีก คนอาจไม่ทำแค่ยืนถ่ายคลิปบื้อๆ มีบางวูบเข้ามาว่าไม่อยากอยู่แล้ว ทำไมคนไม่เข้าใจเรา คนที่อยู่กินด้วยกันแล้วโดนหักหลังแบบนี้” มะนาว กล่าว
เมื่อถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดขึ้นเมื่อไหร่ มะนาว กล่าวว่า เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 ก.ค. ตีสามกว่าๆ มือถือหายวันที่ 3 ส.ค. แต่ไม่ได้มีการแจ้งความ เพราะเครื่องนั้น ไม่ค่อยได้ใช้ มีไว้สองเครื่องเวลาแบตหมด หายแล้วก็ไม่ได้สนใจ เพราะมีอีกเครื่องหนึ่ง
เมื่อถามว่า ขณะนี้อีกฝ่ายแจ้งความแล้วนั้น มะนาว กล่าวว่า ก็ยอมรับผิด และผิดก็ว่าไปตามผิด ซึ่งนาว รู้เท่าไม่ถึงการณ์ว่า การถ่ายคลิปแล้วส่งให้เพื่อนดูจะมีความผิดหนักขนาดนี้ อยากเตือนคนทั่วประเทศว่าไม่ควรถ่ายไว้ หรือ ส่งให้ใครก็ตามแม้แต่จะสนิทแค่ไหน คุยกับเพื่อนแล้วเพื่อนก็ยืนยันว่าไม่ได้ทำ ก็อยากให้กฏหมายสืบให้ทราบด้วยว่าใครเป็นคนโพสต์
เมื่อถามว่า ส่วนที่มีการขุดประวัติของเรากลับนั้น มะยาว กล่าวว่า นาวยืนยันว่าไม่ได้ทำอย่างที่ทุกคนกล่าวหา ส่วนข้อความทางไลน์ที่มีการส่งต่อกันนั้น มีกรุ๊ปไลน์จริงแต่เป็นกรุ๊ปงานพริตตี้เท่านั้น
