มะเร็งตับกับความหวัง ที่จะหายขาด เราสามารถรักษาได้หรือไม่? เชื่อว่าหลายๆ คนก็คงคิดว่า มะเร็งตับ เป็นโรคร้ายที่ทำให้เสียชีวิตได้ แต่ในขณะเดียวกัน ก็สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยวิธีการรักษาหลายวิธี ที่สำคัญคือ การเฝ้าระวังการเกิดโรคอย่างสม่ำเสมอ ด้วยวิธีตรวจสุขภาพและอื่นๆ หากรู้ตัวว่าตนเองอยู่ในความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งตับ
โรคมะเร็งตับในระยะเริ่มต้นจะไม่มีอาการแสดง โดยจะมีเซลล์มะเร็งเกิดขึ้นขนาดเล็กประมาณ 2-3 เซนติเมตร เป็นระยะที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ผู้ป่วยอาจรู้ตัวว่าเป็นมะเร็งตับเมื่อตรวจสุขภาพ ส่วนอาการแสดงของโรคมะเร็งตับนั้นจะเกิดขึ้นเมื่อเซลล์มะเร็งมีขนาด 10 เซนติเมตรขึ้นไป ซึ่งเป็นระยะที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ยาก
การรักษาโรคมะเร็งตับมีหลายวิธีด้วยกัน เลือกใช้ตามอาการของคนไข้ หากป่วยระยะเริ่มต้น สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยการผ่าตัด แต่ถ้าอาการที่เป็นมากกว่าระยะเริ่มต้นอาจใช้การรักษาเฉพาะที่ ด้วยวิธีฉีดยาเข้าเส้นเลือดเพื่อให้เซลล์มะเร็งยุบลง หรือถ้าหากอยู่ในระยะลุกลามไปยังอวัยวะอื่น อาจใช้วิธีการรักษาด้วยยามุ่งเป้า ซึ่งเป็นตัวยาในปัจจุบันที่ใช้รักษามะเร็งนอกเหนือจากเคมีบำบัดซึ่งมีผลข้างเคียงที่น้อยกว่า ซึ่งมะเร็งตับ เป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยการแพทย์แผนปัจจุบัน ใช้ได้กับผู้ป่วยระยะเริ่มต้น มีทั้งหมด 3 วิธี ได้แก่
ผลการรักษาด้วยการผ่าตัด หากสามารถผ่าตัดชิ้นเนื้อมะเร็งออกได้ทั้งหมด สามารถหายขาดได้ แต่ที่ต้องระวังคือ การกลับมาเป็นซ้ำ จึงต้องมีการติดตามอาการของคนไข้อย่างต่อเนื่อง
กายวิภาคตับค่อนข้างซับซ้อน การรักษามะเร็งตับจึงรักษาได้ยาก มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนในการผ่าตัดมากพอสมควร ที่ผ่านมามีอัตราการเสียชีวิตจากการผ่าตัดรักษามะเร็งตับร้อยละ 3 ผลการรักษาขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ตัวคนไข้ ภาวะการทำงานของตับ หากร่างกายคนไข้ไม่แข็งแรงพอ อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่าย หรือถ้าหากภาวะการทำงานของตับเสื่อมประสิทธิภาพ จะมีความเสี่ยงต่อภาวะไตวายจากการผ่าตัด สามารถรักษาให้หายขาดได้ในระยะเริ่มต้น หากเป็นมากจะรักษาได้ยาก
การผ่าตัดเปลี่ยนตับสามารถทำได้ในคนไข้ที่มีอาการไม่มาก และมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ในผู้ป่วยที่มีภาวะตัวเหลือง ขาบวม ท้องโต แสดงออกถึงภาวะการทำงานของตับที่เสื่อมประสิทธิภาพ การรักษาด้วยการผ่าตัด การทำเคมีบำบัด การฉายแสง หรือการได้รับยาที่รุนแรง อาจเป็นอันตราย
ปัจจุบันพบว่า มีการรักษามะเร็งตับหลายวิธีด้วยกัน นอกจากแพทย์แผนปัจจุบันยังมีแพทย์ทางเลือกต่างๆ ให้ผู้ป่วยเลือกรักษา แต่ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าแพทย์ทางเลือกจะให้ผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับแพทย์แผนปัจจุบัน จึงแนะนำว่าถ้าหากผู้ป่วยยังมีอาการไม่มาก มีโอกาสรักษาให้หายขาดได้ ควรเข้ารับการรักษาด้วยวิธีทางการแพทย์แผนปัจจุบันก่อน เพื่อลดอัตราการเสียโอกาสในการรักษาให้หายขาด เพราะถ้าหากเลือกรักษาด้วยแพทย์ทางเลือกก่อนแล้วไม่ได้ผล อาจทำให้อาการป่วยลุกลามจนไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยแพทย์แผนปัจจุบัน
การรักษามะเร็งตับด้วยแพทย์แผนปัจจุบันควบคู่กับแพทย์ทางเลือกเป็นเรื่องที่ไม่แนะนำ เพราะทำให้การประเมินผลการรักษาเป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะในกรณีที่อาการป่วยไม่ตอบสนองต่อการรักษา และการได้รับยารักษาโรคหลายขนานพร้อมกันอาจทำให้ยาเสริมฤทธิ์กันมากเกินไป หรืออาจทำให้ยาหักล้างกันได้ รวมถึงมีความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงที่มากขึ้น
••••••••••••••••••••••
และกลุ่มเสี่ยงของโรคมะเร็งตับ ก็คือ ผู้ที่ดื่มสุรามากๆ ผู้ใช้ยาบางชนิด ที่เสี่ยงต่อโรคตับ ผู้ป่วยโรคไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบซี ผู้ที่มีภาวะตับแข็ง ผู้ที่มีภาวะไขมันเกาะตับ และหากเป็นผู้ที่มีความเสี่ยง ควรตรวจร่างกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อการคัดแยกโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้น นำไปสู่การรักษาให้หายขาดได้ค่ะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย Dodeden.com