โรคมะเร็งเกิดได้แทบทุกระบบของร่างกาย มะเร็งหลอดอาหาร เป็นมะเร็งชนิดหนึ่งที่ถ้าหากเกิดขึ้นกับเราแล้ว จะรู้สึกทรมานเป็นอย่างมากเลยค่ะ เนื่องจากอาการแสดงของโรคจะเริ่มจากการกลืนลําบาก ทําให้ร่างกายซูบผอมอ่อนเพลีย และระยะของโรคที่แสดงอาการ มักจะเป็นระยะท้ายๆ เเล้วด้วย ทําให้อัตรารอดชีวิตมีน้อยมาก และมะเร็งหลอดอาหาร ก็ยังเป็นสาเหตุการตายในอันดับที่ 10 ของมะเร็งทั้งหมด
ปัจจุบัน แม้ว่าจะมีเทคนิคการรักษาใหม่ๆ ที่พัฒนาขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาโรคมะเร็งหลอดอาหาร แต่ก็ไม่ได้ทําให้อัตราการรอดชีวิตเพิ่มขึ้นมากนัก เพราะว่าอาการแสดงของโรคมักจะแสดงอาการเมื่อโรคมะเร็งเป็นมากแล้ว เกือบจะเข้าสู่ระยะสุดท้ายของโรค จึงทําให้วิธีการรักษาไม่ได้ผลเท่าที่ควรและสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย วิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยลดปัญหา ก็คือการป้องกันไม่ให้เกิดโรคขึ้น (prevention) แต่ทั้งนี้ จะต้องทราบว่าอะไรเป็นสาเหตุของการเกิดโรค เพื่อที่จะได้ป้องกันได้ถูกต้อง และใช้เป็นตัวคัดกรองผู้ป่วยที่สงสัยว่าอาจจะเป็นโรคนี้
ปัจจุบัน ปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็งหลอดอาหารยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด เพราะการดําเนินโรคมีระยะเงียบ คือระยะเวลาตั้งแต่ร่างกายได้รับสารก่อมะเร็ง จนกระทั่งเกิดโรคมะเร็งขึ้นนานมาก เมื่อเปรียบเทียบกับอายุขัย ซึ่งอาจจะมีสาเหตุมาจากการสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ การเคี้ยวหมาก การทานอาหารที่มีสารประกอบไนโตรซามีน พฤติกรรมการทานอาหารขณะร้อนๆ และการกลืนอาหารอย่างรีบเร่ง การทานอาหารรสเผ็ดจัด เค็มจัด และพันธุกรรม นอกจากนี้ อัตราอุบัติการของการเกิดโรคยังแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ ทําให้เชื่อว่าแร่ธาตุในดินก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทําให้เกิดโรคได้ด้วย
ผู้ป่วยมะเร็งหลอดอาหารระยะเริ่มแรก มักไม่มีอาการใดๆ จนกระทั่งหลอดอาหารตีบแคบลง จึงจะมีอาการกลืนอาหารแข็งลําบากมากขึ้นเรื่อยๆ บางรายอาจมีอาการเจ็บหน้าอก ก่อนมีอาการกลืนลําบากได้ หากมะเร็งถึงขั้นลุกลาม จะมีอาการเสียงแหบ ซึ่งเกิดจากเนื้องอกมะเร็งลามไปยังเส้นประสาทที่เลี้ยงกล่องเสียง และมีอาการไอเวลากินอาหารหรือดื่มน้ำ หากมีอาการกลืนลําบาก มะเร็งนั้นมักจะเกิดมานาน และอยู่ในขั้นที่ลุกลามไปแล้วเป็นส่วนใหญ่ ประกอบกับการที่หลอดอาหารไม่มีชั้นนอกสุด ทําให้เนื้องอกมะเร็งที่โตทะลุชั้นกล้ามเนื้อของหลอดอาหารออกมาสามารถกระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองหรืออวัยวะข้างเคียงได้เร็วกว่ามะเร็งของทางเดินอาหารส่วนอื่นๆ ซึ่งอาการที่พบได้บ่อย จะสามารถเรียงตามลําดับความสําคัญได้ดังนี้ค่ะ
การทานผักผลไม้สีเหลือง เขียว หรืออาหารที่มีวิตามินซีและอีสูงๆ เช่นผักคะน้า ผักกาดเขียว บรอคโคลี ใบแมงลัก ฝรั่ง ส้ม มะละกอและน้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันข้าวโพด น้ำมันจมูกข้าวสาลี สามารถป้องกันไม่ให้เกิด Nitrous acid และ N-nitroso compounds ในกระเพาะอาหารได้ ซึ่งวิตามินซีในผักและผลไม้นอกจากจะเป็น antioxidant และยับยั้งการเปลี่ยนแปลงของในเตรทเป็นไนไตรท์แล้ว ในประเทศญี่ปุ่นได้มีการทดลองพบว่า การบริโภคผักสีเขียวและเหลือง จะลดขนาดของการเกิดมะเร็งได้ วิตามินซีจะไปยับยั้งการเกิดมะเร็งในช่องปาก หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร กล่องเสียงและปากมดลูก ซึ่งนอกจากจะยับยั้งการเกิดมะเร็งในจุดๆ หนึ่งแล้ว ยังป้องกันไม่ให้ขยายไปยังจุดอื่นได้อีกด้วยค่ะ
นอกจากนี้ เส้นใยอาหารที่ได้จากการผักและผลไม้ ยังมีประโยชน์ในการรักษาอาการท้องผูก ลดการเกิดสารก่อมะเร็ง และยังทําให้การดูดซึมวิตามินเอ และซีไปยังอวัยวะต่างๆ ดีขึ้น ช่วยเพิ่มปริมาณและเร่งการกําจัดอุจจาระ ซึ่งมีของเสียที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้อีกหนึ่งทางด้วยค่ะ
เนื้อหาโดย Dodeden.com