หลังจากมีข่าวว่าป่วยหนัก หลายโรครุมเร้า จนต้องล้มหมอนนอนเสื่อ ล่าสุด “มัม ลาโคนิค” ก็โดนเม้าท์แรงว่าเหตุที่ป่วยเป็นเพราะ “ติดยา” งานนี้ทำเอาเจ้าตัวเดือด ! ออกปากท้า “นักเลงคีย์บอร์ด” ถ้ามีหลักฐานก็หามา ตนยินดีพิสูจน์
และถ้าไม่เป็นความจริงก็จะเดินหน้า “ฟ้อง” ซึ่ง “มัม” ได้เปิดใจกับทีมข่าว “ช่อง 2” ก่อนถ่ายรายการ “จุดเดือด” ทาง “ช่อง 2” ถึงเรื่องดังกล่าวว่า
อัพเดทอาการล่าสุดหน่อย ?
“เจาะเลือดไปตรวจครั้งล่าสุด ค่าไตแย่ลงกว่าเดิม ยังไม่ดีขึ้น ก็ไม่ต้องตกใจหมอก็ให้ตำรามา เป็นสมุดเล่มหนึ่ง กินอย่างไรเมื่อไตเสื่อม ขอบคุณคุณหมอมาก คุณหมอให้ทานให้ได้อย่างในรูปในหนังสือ ค่าไตพี่มันแย่กว่าวันแรกที่พี่มาแอดมิดอีก แย่กว่าวันที่พี่ออกจากโรงพยาบาล ซึ่งวันนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะดี”
สาเหตุเป็นเพราะอะไร ?
“หมอบอกว่าบางทีเรื่องน้ำมันก็มีผล หมอยังจำกัดน้ำพี่อยู่ ไม่ให้กินน้ำเยอะ เพราะไตทำงานเยอะ พี่คงเผลอทานน้ำ แต่ว่าน้ำที่ทานเนี่ยก็อยู่ในอัตราส่วนที่หมอจำกัดให้ เต็มที่อยู่วันหนึ่งไม่ให้เกิน 2 ขวดเล็ก
แต่เราลืมนับว่ามันต้องไปบวกว่าเรามีน้ำจากผลไม้ องุ่น ส้ม นม หมอบอกต้องรวมด้วย เราดันไปแยกคิดว่าแค่น้ำเปล่า แต่ว่าหมอก็ให้ยาเซ็ตใหม่มาเพิ่มอีก แล้วก็ประมาณ 1 เดือนให้กลับไปดูอาการอีกที”
ขอถามถึงนักเลงคีย์บออร์ดที่เข้ามาว่าเรา ?
“พี่ก็ได้ข่าวมา มีคนเล่าให้ฟัง พี่ไปออกรายการหนึ่ง แล้ววันนั้นพี่ก็โมโหไง ในเว็บเขาก็ลือกันไปหมดว่าที่เราป่วย ที่เราล้มเป็นเพราะยาเสพติด พี่ก็ว่าพวกนักเลงคีย์บอร์ดนี่นะมันจะเล่นทุกอย่าง เห็นใครดีไม่ได้ เป็นโรคจิตชนิดหนึ่งด้วยนะพวกนี้
พี่โมโหก็ปรี๊ดแตกไปในรายการบอกว่าให้หาหลักฐานมาเลยแล้วก็พร้อมที่จะพิสูจน์ด้วย แต่ว่าถ้าหาหลักฐานมาไม่ได้ หรือหาได้แล้วพิสูจน์ว่าไม่เป็นความจริง ฉันก็จะฟ้องนะ จะเอาเรื่องแน่เลย ก็พูดไปด้วยอารมณ์ จะฟ้อง 5 ล้าน
ปรากฏว่ามันก็ไปเป็นกระแสในเน็ตไปอีกว่ามัมปรี๊ดแตก ทุกวันนี้ก็ยังหาตัวไม่ได้ มีแต่คนมาพูดให้ฟัง แต่เวลาพี่ถามกลับไปว่าเอามาจากไหน เอามายืนยันพี่หน่อยซิ ก็ไม่มีใครหาให้พี่ได้ซักคน”
พูดไปเพราะเกิดอารมณ์ ?
“พูดกันจัง อยากสร้างประเด็นจัง”
นอยด์ไหม ป่วยแล้วต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ?
“นอยด์สิ ถ้าเป็นคนอื่นคงร้องไห้โวยวายเสียใจ พี่ก็คิดซะว่ามันเป็นเรื่องที่พี่เจอในเฟสบุ๊คบ่อยๆ ประเภทเก่งใช้พิมพ์เอาแล้วก็ไม่เห็นตัวตน ก็คิดซะว่าเป็นเรื่องของนักเลงคีย์บอร์ด ฉันไม่สนใจหรอก เชิ่ดใส่
แต่ว่าถ้าอยากจะวัดกันจริงๆ ก็หาหลักฐานมา แต่ถ้าหาไม่ได้ แล้วฉันเจอตัวเมื่อไหร่ว่ามาจากไหน ปล่อยข่าวบ้าๆ บอๆ แบบนี้ ก็จะฟ้อง ก็พูดออกไปด้วยความปรี๊ดแตก ด้วยความโมโห
แต่พอกลับมาบ้านสงบสติอารมณ์ได้ ก็ไม่อยากจะพูดถึงเรื่องนี้ แล้วเรื่องนี้มันก็เงียบหายไป ไม่มีใครมากระทุ้งอีกว่าเป็นเพราะยาเสพติด บางทีต้องขู่กลับไปบ้าง จะได้เลิกเก่งซะที”